ความหวังสุดท้าย! ของ สาวป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย คือ ลูก มีชีวิตที่ดีขึ้น

สะเทือนใจ ! ความหวังสุดท้าย ของ สาวป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอฝากลูกกับ ปวีณา ก่อนสิ้นใจ หวัง ลูก มีชีวิตที่ดีขึ้น ด้าน พี่สาววอน สังคมอีจัน ช่วยสร้างความสุขให้ “ ลมหายใจสุดท้ายของน้อง “

ก่อนถึงลมหายใจสุดท้าย ขอให้เขาหายห่วงลูกเถิดค่ะ” #มะเร็งขั้นสุดท้ายฝากลูกกับ

ปวีณา

เสียงสั่นเครือ ของพี่น้อยเล่าถึงชะตากรรม น้องจอย น้องสาววัยเพียง 36 ปี ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งลามถึงไขสันหลัง ทำเธอเดินไม่ได้ ต้องนอนติดเตียงมานานหลายเดือน

พี่น้อย เฝ้ามองอาการของ จอย ทุกวัน

หลังได้รับคีโม น้องก็เริ่มเดินไม่ได้ ผมยาวๆ ก็เริ่มร่วง ผิวเริ่มคล้ำ ที่ผ่านมาครอบครัวเธอเคยสูญเสียพ่อจากโรคมะเร็งมาแล้ว ทำให้เมื่อจอยป่วยอีก ทุกคนในครอบครัว

ยิ่งถอดใจ !!!

แต่ความกังวลในวันนี้ไม่ใช่แค่ตัวจอยที่ป่วยหนัก แต่จอยห่วงไปถึงลูกๆ ของเธอ ทั้ง 3 คน คนโตอายุ 18 ปี คนรอง 14 ปี และคนเล็กเป็นผู้หญิงอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น เด็กน้อยจะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มีเธอ

ก่อนจะถึงลมหายใจสุดท้ายของ น้องจอย พี่น้อยตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาหงสกุล ร้องขอฝากให้ดูแลลูกทั้ง 3 หากแม่ของเขาต้องจากโลกนี้ไป

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ

โดยวันนี้ 17 มกราคม 2565 ได้ลงพื้นที่เยี่ยมคนป่วยถึง ตำบลกุยบุรีเหนือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ภาพที่ได้เห็น คือ คนป่วยนอนอยู่ในเพิงคล้ายศาลาหน้าบ้าน มีเตียงสำหรับผู้ป่วยติดเตียง และแคร่ รอบๆไม่มีผนัง พื้น คือ ดิน

สภาพผู้ป่วย ตอนนี้ผอม คล้ำ ผมสั้นเกรียน แต่แววตายังเข้มแข็ง เธอ และ สามี น้ำตาคลอเมื่อเห็นคณะเข้ามาเยี่ยม

นางปวีณาเข้าไปถามไถ่อาการ และให้กำลังใจ

พร้อมประเมินความยากลำบากของผู้ป่วยรายนี้

จากนั้นได้ฝากความดูแลเรื่องการรักษาตัวกับ นายแพทย์ ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์ ผู้อำนวยการ รพ. ประจวบคีรีขันธ์ ให้เฝ้าติดตามช่วยเหลือ ดูแลความสะดวกในการรักษา

ขณะเดียวกันหลังพิจารณาสภาพความเป็นอยู่ ทาง พมจ. โดยนาง ศิรินาท ศิริบรรจง แจ้งว่า บ้านนี้ยากจน อดมื้อกินมื้อ บ้านก็มีสภาพอยู่ยากลำบาก

มีเพียงแคร่เล็กๆ พื้นเป็นดิน ผนังไม่มี มีเพียงไม้ลวกตอกพรางสายตาคนเท่านั้น หน้าต่างประตูไม่ต้องพูดถึง หมายถึงไม่มี

วันนี้จึงเป็นวันดีที่มูลนิธิปวีณาได้เชิญทุกฝ่ายลงพื้นที่ และเห็นข้อเท็จจริง ทันทีที่เยี่ยมให้กำลังใจเสร็จก็ประชุมร่วมกันแบ่งหน้าที่ให้การช่วยเหลือ ตามนี้

1.มูลนิธิปวีณาฯ เป็นเจ้าภาพติดตาม การรักษา และความคืบหน้าเรื่องคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

และครอบครัว

2.นายแพทย์ ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์

ผอ.โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์

รับดูแลเรื่องการรักษาและอำนวยความสะดวก

และมีทีมสาธารณสุขอำเภอกุยบุรี รพ.สต. และอสม. เข้าพื้นที่ดูแลติดตามใกล้ชิด

3. พมจ. ประจวบคีรีขันธ์ โดยนางศิรินาถ ศิริบรรจง จะติดตามการปรับปรุงคุณภาพชีวิต

ของผู้ป่วยร่วมกับทีมงานสวัสดิการของ อบต.กุยบุรีเหนือ

4. เรื่องการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ ทางปลัดอบต.กุยบุรีเหนือได้ทำแบบมาแล้ว คาดว่าใช้งบประมาณเบื้องต้น 70,000 กว่าบาท

ทางเพจอีจัน และมูลนิธิเพชรเกษม จะรับเรื่องหาเงินงบประมาณ และก่อสร้าง

เงื่อนไขเวลา คือ เร็วที่สุด โดยมี ทีมงานกำนัน และอบต.พร้อมสนับสนุนเต็มที่

หลังจากได้ข้อสรุป และแจ้งให้ทางพี่น้อย และจอยทราบ สองพี่น้องก็น้ำตาร่วง พี่น้อยปล่อยโฮโผกอดลุงอู๊ด ด้วยความรู้สึกทั้งทุกข์ใจ และสุขใจ

ก่อนลมสุดท้ายของน้อง

เทวดามาโปรดแล้ว

จากนี้ไปติดตามเพจอีจันนะคะ เรารับปากแล้ว แปลว่า เราจะช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ขอกำลังใจจากลูกเพจให้เราทำโครงการนี้สำเร็จนะคะ

ผู้ใดมีจิตศรัทธาอยากร่วมทำบุญสร้างบ้านให้

ผู้ป่วยรายนี้ สามารถโอนเงินมาที่

บัญชี มูลนิธิเพชรเกษม เพื่อกองทุนช่วยเหลือผู้ยากไร้

ธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 065-1-14601-1

บัญชีนี้รับเงินบริจาคเพื่อผู้ยากไร้ หากเงินที่ได้รับบริจาคเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ ทางมูลนิธิเพชรเกษม ขอนำไปสร้างบ้านให้ผู้ยากไร้รายอื่นต่อไปนะคะ

ส่วนท่านใดต้องการช่วยเหลือเคสนี้ ในเรื่องข้าวสาร อาหารแห้ง หรือ

เครื่องอุปโภคอื่นๆ สามารถประสานได้ที่ 094-778-7771 , 081-814-0244 มูลนิธิปวีณาหงสกุล

บุญกุศลที่ทำร่วมกันขออนุโมทนา และขอผลบุญจงดลบันดาลให้ท่านสุขภาพแข็งแรงมีที่อยู่อาศัยงดงาม ตราบนิรันดร์

#อนุโมทนา

#สร้างบ้านให้ผู้ป่วยระยะสุดท้าย

#จากไปอย่างหมดห่วง

#มูลนิธิปวีณาหงสกุล