สีตีฮาวอ มองตาลูกน้ำตาแม่ก็ไหล ปวดใจทุกครั้งที่ลูกอด

สีตีฮาวอ สาแม แม่ผู้ซึ่งยอมอดเพื่อลูก มองตาลูกน้ำตาแม่ก็ไหล ปวดใจทุกครั้งที่ลูกอด ไม่มีเงินให้ไปโรงเรียน

เชื่อว่าไม่มีใครอยากเกิดมาจน ต้องทนทุกข์กับความลำบาก ไม่มีจะกิน แต่สุดท้ายคนเราเลือกเกิดไม่ได้ เช่นเดียวกับครอบครัวของ สีตีฮาวอ สาแม สาวสู้ชีวิตชาว อ. ยะหริ่ง จ. ปัตตานี

โดยครอบครัวของ สีตีฮาวอ อยู่ด้วยกัน 11 คน โดยเธอเล่าให้ อีจัน ฟังว่า ทราบเรื่องที่ อีจัน มีโครงการที่จะช่วยเหลือ มอบ กล่องกำลังใจ เธอจึงอยากได้กำลังใจจากครอบครัวอีจัน

จึงให้ ลูกสาวส่งเรื่องเข้ามา เพื่อขอความช่วยเหลือ วิกฤตของครอบครัวนี้คือ ตกงานทั้งครอบครัว ที่ผ่านมามีเพียงสามีของเธอเพียงคนเดียวที่หาเลี้ยงทั้ง 11 คน รายได้รายวันของสามีก็ช่างน้อยนิด ซึ่งมันไม่เพียงพอ เลยต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดที่สุด อดมื้อกินมือ ข้าวจานเดียวกินกันทั้งครอบครัว ยอมอดเพื่อให้ลูกได้มีเงินไปเรียน ดีที่โรงเรียนของลูกเป็นโรงเรียนเพื่อเด็กกำพร้า มีข้าวกินฟรี อยู่ฟรี จึงสามารถช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้บ้าง

เธอยอมรับว่าท้อ…แต่ไม่ถอย ดิ้นรนหาทางรอดให้ครอบครัวอยู่ตลอด ซึ่งในช่วงที่ตกงาน ก็คิดว่าจะทำอย่างไร จึงตัดสินใจขายทองเส้นเล็กๆ สมบัติที่เหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวของบ้าน เพื่อใช้ในการทำทุน ปลูกผัก เพื่อขาย ซึ่งหลังจากที่ทำรายได้ก็ไม่ได้มากมายอะไร เพียงแต่ดีกว่าไม่ลงมือทำอะไรเลย เพราะต้องปลูกผัก 3 เดือนกว่าจะมีผลผลิตออกมาให้ได้ขาย ซึ่งตอนนี้เพิ่งมีเพียงบวบเท่านั้นที่เริ่มออกผลมาให้ได้ชื่นใจบ้าง เพิ่งเก็บขายได้ไปเพียง 1 ครั้ง และขายได้เพียง แค่ 5 กิโล ราคากิโลกรัมละ 13 บาท รวมๆแล้ว รายได้ตอนนี้จากผักที่ปลูก ยังไม่ถึงร้อยบาท

สีตีฮาวอ ยังบอกอีกว่า บ้านหลังนี้ ไมใช่บ้านของเธอ แต่เป็นบ้านที่แม่ของเธอได้สร้างไว้ และแม่ก็เพิ่งเสียชีวิตไป เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่แม่เหลือไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งสภาพบ้านก็ตามที่เห็น อย่างน้อยก็ช่วยบังแดดบังฝน

ทุกครั้งที่ลูกไม่มีเงินไปโรงเรียน คนเป็นแม่อย่างเธอจะเสียน้ำตาแทบทุกครั้ง ต้องแอบไปร้องไห้คนเดียว เพราะสงสารลูกจับใจ ท้อใจ แค่มองเขาน้ำตาแม่ก็ไหล ปวดใจทุกครั้งที่ลูกอด เพราะแม่ยังไม่สามารถหาความสุขสบายให้ลูกได้ในตอนนี้

โดยลูกสาวของ สีตีฮาวอ ยังบอกกับทีม อีจัน ว่า แม้ว่าจะเจอความยากลำบากในชีวิต มีบ้านแต่ไม่มีหน้าต่าง ต้องใช้เพียงผ้าบังไว้เท่านั้น ซึ่งเธอก็ยอมรับว่า บ้านที่ตนเองอยู่นั้น เป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงที่หามาได้ ก้อนสุดท้าย จากการทำงานก่อนหน้าที่จะเจอพิษ โควิด เธอรีบนำเงินที่มีไปสร้างบ้าน ก่อนที่จะหมดไปโดยไม่เหลืออะไรเลย เพราะอย่างน้อยยังมีบ้านไว้ให้ตนและลูกที่เพิ่งคลอเพียง 45 วันได้นอน แม้ว่ามันจะไม่ได้สุขสบายนัก แต่มันก็ดีกว่าไม่มี เธอตั้งมั่นว่าจะสู้ต่อ คิดแต่เพียงว่า อยู่ให้ถึงวันพรุ่งนี้ มีเงิน มีกิน ไม่อดก็พอ

เจ้าตัวเผยความรู้สึกต่อว่า ทันทีที่ทีม อีจัน ติดต่อมา สีตีฮาวอ ดีใจจนน้ำตาไหล ตั้งหน้าตั้งตา ตั้งใจรอ และวันที่รอคอยก็มาถึง ทีมอีจันปัตตานี มาเยี่ยมถึงบ้าน พร้อมมอบกล่องกำลังใจ เจ้าตัวรู้สึกดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้แทบไม่อยู่ กำลังใจดวงโตๆจาก ครอบครัวอีจัน สังคมอีจัน มันมากพอที่ทำให้ครอบครัวนี้มีรอยยิ้มไปอีกพักใหญ่ ซึ่งจากกำลังใจครั้งนี้ ทำให้ สีตีฮาวอ และครอบครัว รู้ว่าไม่ได้ทุกข์อยู่เพียงลำพัง พวกเธอพร้อมที่จะนำแรงใจเหล่านี้เป็นพลังในการสู้ชีวิตและดิ้นรนต่อไป ขอบคุณครอบครัวอีจัน…จากใจ