เรียนออนไลน์สะท้อนสังคม! เด็ก ม.4 ลาโลก เรียนหนัก เครียดจัด ไม่มีเครื่องมือเรียนออนไลน์

แม่ขอผ่อนแท็บเล็ตให้ลูก ม.4 เรียนออนไลน์ สุดท้ายไม่ทัน ลูกลาโลก เรียนหนัก เครียดจัด เรียนไม่ทันเพื่อน

เรียนออนไลน์ ไม่ได้พร้อมสำหรับทุกบ้าน…

เรื่องราวนี้ถูกถ่ายทอดผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ isaree karnvaveewan ซึ่งเป็นครูสอนทำเบเกอรี่ที่มีผู้ติดตามค่อนข้างมาก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา(2 ก.ค. 64) ผู้ใช้เฟซบุ๊กได้โพสต์ภาพการสนทนากับคุณแม่ท่านหนึ่ง ซึ่งขอความช่วยเหลือผ่อนแท็บเล็ตให้ลูกที่เรียนอยู่ชั้น ม.4 ได้เรียนออนไลน์ เนื่องจากคุณแม่ไม่มีเงินก้อนในการซื้อ โดยขอผ่อนเดือนละ 1,300 บาท ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กก็ระบุว่าได้ตกลงช่วยคุณแม่ท่านนี้ โดยการให้ผ่อนแท็บเล็ตผ่านตน

แต่ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์เรื่องดังกล่าว ก็ได้โพสต์ถึงเรื่องนี้อีกครั้ง แต่จากเรื่องราวดีๆที่ได้ช่วยเหลือกัน กลับกลายเป็นเรื่องสุดเศร้า เมื่อคุณแม่ท่านเดิม บอกกับผู้ใช้เฟซบุ๊กว่า เรื่องขอผ่อนแท็บเล็ตไม่ต้องแล้ว เพราะลูกได้ตัดสินใจจากไปแล้ว

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า

“โอ๊ยยย ช็อก เราร้องไห้ไม่หยุดเลย

เสียใจมากๆ คืนนี้จะนอนหลับได้ไหม?

เคสที่เพิ่งโพสต์ตะกี้ เรื่องคุณแม่มาขอผ่อนแท็บเล็ตเพราะลูกเรียนไม่ทันเพื่อนอ่ะ ทรายเพิ่งจะตกลงเค้าไปเมื่อสองทุ่มเอง เมื่อกี้เค้าทักมาว่าไม่ต้องใช้แท็บเล็ตแล้ว ลูกชายม.4 จากไปแล้วเมื่อสี่ทุ่ม น้องเครียด เรียนหนัก เรียนไม่ทัน แม่เค้ายังไม่ทันได้บอกข่าวดีกับน้องเลย

ขอให้คุณแม่เข้มแข็ง อัลเลาะห์รับน้องกลับไปแล้ว ขอให้น้องสู่สุคติ ตอนนี้ทรายใจสั่นไปหมดแล้ว หยุดร้องไห้ไม่ได้เลยอ่ะ มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย”

(อีจันขออนุญาตเบลอคำที่หมายถึงความรุนแรงต่อตัวเองออกไปนะคะ เป็นคำว่าจากไปแทน)

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก บอกด้วยว่า “ขอพื้นที่ตรงนี้ แค่สะท้อนปัญหาสังคมที่แย่มากๆในภาพรวมก็พอ ทรายก็ไม่คิดว่าโพสต์ของทรายมันจะกลายเป็นประเด็นร้อนตอนนี้เลยจริงๆ สุดท้ายขอกอดให้กำลังใจคุณแม่เยอะๆแน่นๆ มันเป็นเรื่องยากลำบากที่สุด แต่ต้องผ่านไปให้ได้นะคะ อย่าโทษตัวเองเลย เพราะที่คุณแม่รวบรวมความกล้าทักหาทรายนั้นคือสิ่งที่คุณแม่ที่รักลูกที่สุดคนหนึ่งกล้าหาญที่จะทำเพื่อลูกนะคะ”

ซึ่งเรื่องราวดังกล่าว มีชาวโซเชียลแชร์และแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งแสดงความเสียใจ และบอกว่าจากสถานการณ์ตอนนี้ทำให้เด็กหลายคนหลายครอบครัว ต่างอยู่ในสภาวะกดดันเรื่องความไม่พร้อมในการปรับรูปแบบเรียนออนไลน์ รวมทั้งมีบางคนก็แชร์เรื่องของตนเองที่ต้องพยายามหาเครื่องไม้เครื่องมือมาให้ลูกได้เรียนที่บ้าน

สุดท้ายนี้ อีจันขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้สูญเสียด้วยนะคะ และเรื่องนี้คงจะสะท้อนปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นในยุคที่มีโรคระบาดนี้ ให้ทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและเร่งปรับปรุงไม่ให้เกิดเรื่องเศร้าแบบนี้อีก