
เปิดใจ เส้นทางความรัก 17 ปี ของนักร้องหนุ่มเสียงดี บี พีระพัฒน์ และภรรยาสาว นักแต่งเพลง ฬินา ภชศร ผู้แต่ง เพลงดินแดนแห่งความรัก พร้อมเผยอุปสรรคมากมาย ทั้งเคยโดนเม้าท์ว่า หนูตกถังข้าวสาร ไม่เป็นที่ยอมรับของคุณพ่อแฟนสาว และเคยทะเลาะหนักจนเลิกกัน รับช่วง โควิด จิตตกหนัก ไม่ได้ทำงานนาน 2 ปี ทั้งหมดนี้ ในรายการ คุยแซ่บSHOW

ความรัก 17 ปี เจอกันได้อย่างไร?
บี : เจอกันที่งานรำลึกสึนามิที่ภูเก็ต มีศิลปินไปเล่นเพื่อหาเงิน เขาก็เป็น นักแต่งเพลง อยู่ที่ โซนี่ มิวสิค ซึ่งมีคนเอารูปเขามาให้ผมดูก่อนแล้วว่าคนนี้เขาไปเรียนกลองกับเพื่อนผมที่วง เป็น นักแต่งเพลง ด้วย ผมก็ดูรูป ไม่น่าเชื่อ หน้าตาไม่น่าเป็น นักแต่งเพลง
ตอนนั้นรู้ไหมว่ามีคนแอบส่องรูปเราอยู่?
ฬินา : ไม่ทราบเลย ไม่เคยเจอหน้า ได้ยินแต่เพลง ตอนที่ได้ฟังเพลงทีแรก ตอนนั้นเพลงวีนัสออกมา ก็รู้สึกว่าเสียงเขาไม่เหมือนใคร แล้วจิตนาการว่าเป็นผู้ชายตัวใหญ่ แต่พอได้เจอตัวจริงแล้วเซอร์ไพรส์มากเลย คนนี้เหรอ ใช่เหรอ เจอครั้งแรกแอบตกใจว่าเขาเอาพลังมาจากไหน เมื่อก่อนเขาผอมกว่านี้อีก
บี : ผอมกว่านี้ 10 กว่ากิโลกรัม
พอเราเจอเขาตอนนั้นรู้สึกอย่างไร?
บี : ผมว่าก็น่ารักดี ตัวจริงตาเขาเป็นประกาย
พอเจอเขาคุณตามต่อได้อย่างไร?
บี : ตอนนั้นผู้จัดการคนเก่าผมเขาทำงานอยู่ที่โซนี่ แล้วเป็นแม่สื่อให้ ลากเขามานั่งกับผมที่งานรำลึกสึนามิ
ฬินา : วันนั้นยังไม่รู้สึกอะไร แต่ก็ข้องใจอยู่ แอบมองแว๊บๆ ว่าใช่เหรอ เพราะเสียงกับตัวไม่เท่ากัน
บี : ผมสงสัยว่าหน้าตาแบบนี้แต่งเพลงได้จริงเหรอ ผมอยู่ในวงการ ผมไม่เคยเห็นคนแต่งเพลง หน้าตาประมาณนี้ อันนี้ไม่ได้บูลลี่อะไร แค่พูดถึงโดยทั่วไป เห็นเขาแล้วแบบเขาน่ารักด้วย เขาแต่งเพลงได้ด้วย แต่งเพลงได้มันเป็นหนึ่งข้อที่ประทับใจผม
แล้วจีบเขาอย่างไร?
บี : ผมก็ให้ผู้จัดการนี่แหละ ตอนนั้นมันยังไม่มีไลน์ ไม่มีอะไร
ฬินา : เพิ่งมีเฟซบุ๊ก โทรศัพท์ยังเป็นขาวดำ เพิ่งเปลี่ยนเป็นสี
บี : ผมก็ให้ผู้จัดการขอเบอร์โทรศัพท์ ผมใช้คุ้มเลยผู้จัดการผม
ตอนนั้นผู้จัดการบอกว่าอย่างไร?
ฬินา : ตอนนั้นคุยลักษณะเรื่องงานมากกว่า ให้เรามาเขียนเพลงให้พี่บี
เพลงแรกที่แต่งให้คือเพลงอะไร?
ฬินา : เพลงดินแดนแห่งความรัก นี่แหละ เมื่อก่อนเวลาฬินา จะเขียนเพลงให้ใคร ต้องสื่อสารกับตัวนักร้องก่อน เพื่อที่เขาร้องจะได้เป็นภาษาเขา ทีนี้พอคุยกัน ไปๆ มาๆ มันก็เลยสนิทกัน ก็เลยไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นที่ตรงไหน
แล้วตอนนั้นคุณไปขอเขาเป็นแฟนได้อย่างไร?
บี : เนียนๆ ไป ผมคุยเรื่องงาน แล้วนัดกินข้าว นัดดูหนัง เป็นการทำความรู้จักกัน น่าจะสัก 5-6 เดือนกว่าที่จะเริ่มคบกัน
ฬินา : พอคุยๆ กันก็รู้สึกว่าพี่เขาก็น่ารักดี เหมือนเขาแปลกดี ปกติจะไม่ค่อยได้เจอแนวนี้ จะเป็นนักธุรกิจอะไรอย่างนี้
บี : ตอนนั้นผมรู้หมดว่ามีใครมาจีบเขาบ้าง เราก็มีหมั่นไส้บ้าง
มีเนื้อเพลงอยู่ท่อนหนึ่งที่พี่บีเคยพูดกับฬินา?
บี : ใช่ๆ
ฬินา : ใช่ค่ะ ส่วนใหญ่เวลา ฬินา คุยกับพี่บีแล้วมันจะมีคำที่เราประทับใจแล้วโดนๆ แล้วแอบจดไว้ เขาบอกเป็นภาษาพูดไม่เหมือนในเพลง ฬินา ว่าไหมเหมือนชีวิตคนเราเกิดมาบางทีเราคิดว่าเรามีความรักมาหลายๆ ครั้งแล้ว แล้วพอมาเจอคนที่ใช่แล้ว แล้วที่ผ่านมามันอาจจะไม่ใช่ความรักก็ได้นะ ตอนที่เราพูดว่ามันเป็นความรักแล้วเราพูดว่า ฉันรักเธอนะ อยากเอาคืนมาให้หมด เอามาให้คนที่ใช่คนเดียว มันเสียเวลาชีวิต
แล้วมันแปลงเป็นเพลงอะไร?
ฬินา : เพลงดินแดนแห่งความรัก ตอนท่อนฮุก
หน้าตาคล้ายกัน มีคนเคยบอกไหม?
บี : เมื่อก่อนไม่คล้ายนะครับ อยู่ไป อยู่มาเขาเรียนแบบผม
สมัยก่อนตอนที่คบกันใหม่ๆ เขาบอกเลยว่า บี เป็น หนูตกถังข้าวสาร?
บี : มีบ้าง แต่ก็ไม่เยอะ แต่ก็มีบางคนที่เป็นเจ้าของหนังสือแล้วก็ชอบเขา แล้วให้ลูกน้องเขียนข่าวว่าผม วันๆ ไม่ทำอะไรตามแต่ผู้หญิง ถามว่าโกรธไหม แรกๆ ก็โกรธ อะไรวะ ก็พาไปเที่ยว ไม่ได้อะไรสักอย่าง ไปกินข้าวก็ต้องเลี้ยง ผมก็บ่นกับเขานี่แหละ ผมคิดอย่างเดียวเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เดี๋ยวก็เห็นเอง
พอ ฬินา เห็นข่าวเราให้กำลังใจพี่บีอย่างไร?
บี : ก็จะบอกพี่บีว่ามันเป็นการโฆษณาการพาดหัวข่าวให้น่าสนใจ เขาก็คงอยากให้คนเข้าไปอ่าน
นานไหมกว่าจะตัดสินใจแต่งงานกัน?
บี : ปีที่ 7 พอดี ถามว่าทำไมรอนาน ก็เพราะว่าพ่อเขาไม่อนุญาต 5 ปีแรก ผมได้ยินแต่ชื่อ ไม่เจอเลย แล้วเคยเจอกันงานแต่งงานพี่ชายเขาครั้งเดียว ผมไปร้องเพลงให้ สวัสดีคุณพ่อ แล้วผมก็พยายามบอก ฬินา ว่าอยากเจอคุณพ่อ อยากกินข้าวด้วย
ฬินา : พยายามหลายครั้งแล้ว คุณพ่อไม่เลย ไม่ยอม
ตอนคบกัน 5 ปี คุณพ่อทราบไหมว่าเราคบคนนี้?
ฬินา : ทราบค่ะ บอกคุณพ่อตลอด แต่คุณพ่อคิดว่าเด็กๆ คบกันเดี๋ยวก็เลิก แล้วด้วยความที่อาชีพศิลปิน แล้วที่บ้านเป็นนักธุรกิจก็จะชินกับครอบครัวที่จะทำธุรกิจด้วยกัน เขาอาจจะไม่ชินกับศิลปินที่ไม่มั่นคง แล้วคงจะเด็กๆ คบกันเดี๋ยวก็เลิกกันไปเอง
คุณรู้แบบนี้ห่อเหี่ยวไหม?
บี : ครั้งแรกก็เซ็งนิดหนึ่ง แต่โดยอาชีพผม ผมชินแล้วไง เรื่องแบบนี้หมายถึงว่า คนมองว่าอาชีพนี้ไม่มั่นคง ตอนนั้นทั้งๆ ที่มันเพิ่งเริ่มต้น ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร ร้องเพลงกลางคืน ผมเจอเรื่องแบบนี้จนชินแล้ว ผมก็ได้แต่คิดว่าเดี๋ยวก็เห็น ก็ทำไปเรื่อยๆ

พ่อ แม่ ไม่สนับสนุนแบบนี้ อะไรทำให้คู่นี้ถึงตัดสินใจแต่งงาน?
บี : เรารักกันแค่นั้น จับมือกันแล้วต้องผ่านมันไปให้ได้
แล้วอะไรที่ทำให้คุณพ่อยอมเจอ?
ฬินา : คุณพ่อคงเห็นว่ามัน 5 ปีแล้ว ฬินา เป็นคนบอกคุณพ่อว่าคบกัน 5 ปีแล้ว ก็เริ่มนัด
ครั้งแรกที่เจอเป็นอย่างไรบ้าง?
บี : เกร็งมาก ผมตื่นเต้นจมูกบาน ก็เจอกันที่ร้านอาหารข้างนอก แล้วก็คุยกัน มื้อนั้นทำให้เราก้าวมาอีกก้าวหนึ่ง แล้วก็ประทับใจ เพราะว่าคุณพ่อน่ารักไม่เหมือนที่เราคิดไว้ว่าจะมีนัยยะ แต่ปรากฏว่าคุณพ่อดีทุกอย่างเลย ก็เปลี่ยนความคิดไปเลย แล้วหลังจากนั้นก็เจอกันบ่อยๆ
ตอนแต่งบอกพ่อ แม่เขาตอนไหน?
บี : ก็นัดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว แล้วบอกคุณพ่อว่าผมขออนุญาตนะคุณพ่อ ผมอยากจะขอฬินามาอยู่กับผม ท่านก็ยิ้ม
ฬินา : พ่อเขาก็มีเหอะๆ นิดหน่อย แล้วก็มีคุยกับ ฬินานอกรอบด้วย ว่าการที่คบกันเป็นแฟนแล้วการที่แต่งงานกันจริงๆ มันไม่เหมือนกันนะลูก เราก็ฟัง ตอนนั้นอะไรก็ได้ เป็นเด็กดี
บี : หลังจากที่คุยกันวันนั้นคุณพ่อก็โอเค ในความเป็นจริงเราคบกันมาสักพักแล้ว คุณพ่อก็รู้อยู่แล้วก็อยู่ในสายตาคุณพ่อตลอด วันนั้นคุณพ่อก็ อืม…
เพิ่งครบรอบแต่งงาน 10 ปี?
ฬินา : ใช่ค่ะ 11 พฤศจิกายน
แล้วที่คุณพ่อบอกชีวิตแต่งงานกับเป็นแฟนมันเหมือนกันไหม?
ฬินา : ก็ไม่เหมือน มันมีเพิ่มเติมมา มันเริ่มไม่ใช่คนสองคน มันจะมีเรื่องของครอบครัวเรา ครอบครัวเขา คนมันก็จะเยอะมากขึ้น
บี : มันก็ต้องดูครอบครอบเขาด้วย มันกลายเป็นว่าเราทำอะไรมันก็มีผลกระทบไปถึงชื่อเสียงนามสกุลของเขาด้วย
ต้องปรับตัวกันเยอะไหม เวลาที่เรามาอยู่ด้วยกัน?
บี : เยอะเหมือนกัน
ฬินา : อย่างช่วงแรกๆ เวลาเข้าห้องน้ำ ยิ่งแบบนี้ดึกๆ ฬินา เป็นคนดื่มน้ำเยอะ ตอนเย็นๆ เข้าห้องน้ำปุ๊บก้นหล่นลงไปในโถเลย ขาชี้
บี : เขาก็พูดว่าพี่บี ผมก็เอาอีกแล้ว ผมโดนอีกแล้ว
คุณฉี่ไม่เคยยกโถเลย?
บี : ผมเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมยกแล้วผมไม่เอาลง
ฬินา : ใช่ ฬินาก็หล่นลงไปเลย เราก็บอกบ่นหลายครั้ง จนเขาทำจนได้
คู่นี้ทะเลาะกันไหม?
ฬินา : ทะเลาะ เรื่องไร้สาระ
บี : เรื่องหนังยังทะเลาะกันได้เลย
พี่บีดูภายนอกเป็นคนใจเย็นมาก?
บี : เมื่อก่อนผมใจร้อนมาก ตอนนี้ใจเย็นแล้ว เมื่อก่อนถ้ามีอะไรอยู่ในมือผมปา ผมเรียนโรงเรียนชายล้วน ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวอะไรหรอก ผมอาจจะเป็นคนเลือดร้อนด้วยโดยสันดานหรืออะไรก็ไม่รู้แหละ เมื่อก่อนนี้ ต่อยกำแพงอะไรแบบนี้
อะไรทำให้เราเปลี่ยน?
บี : เขาเลย แต่ตอนคบกันก็ยังเป็นอยู่ ตอนขับรถชอบด่า ใครตัดหน้าไม่ได้เลยไม่ยอม
ทีมงานบอกว่าทะเลาะกับแท็กซี่?
บี : ผมก็เป็นแบบนี้แหละ ผมขับตามแท็กซี่ปาดกันไปหลายแยกแล้ว ประมาณตี 3 สมัยนั้นผมยังดื่มอยู่ ยังไม่รู้จัก ฬินา ขับตามไปถึงแยก จอดปุ๊บเตรียมตัวลงแล้ว เปิดประตูลงไป แท็กซี่เปิดประตูลงมา ดึงมีดออกมายาวมากแล้วไฟส่องมาแบบเงาแว๊บเลย เหมือนดาบซามูไร ผมก็ถอยสิครับ ขาเราก็มีกลัวอะไร เราขึ้นรถแล้วไปเลย เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าความเป็นกับความตายอยู่แค่เสี้ยวนาที
หลังจากนั้นกลายเป็นใจเย็นลงเลยไหม?
บี : ก็ยังไม่เย็นเท่าไร แต่จะเข็ดเรื่องการลงไป เรื่องแบบถึงตัว จะเริ่มแบบไม่กล้าซ่าแล้ว กลับมาคิดอีกทีถ้าวันนั้นมันมีปืนละ วิ่งก็ไม่ทันนะ

อย่างนี้เวลาคนตัดด่าในรถไหม?
บี : ด่า
ฬินา : เคยๆ คือปกติพี่บีเขาจะค่อนข้างสุภาพก็จะคุยกันปกติ อันนี้คือเมื่อก่อนนะคะพอมีคนปาด หรือขับรถไม่สุภาพบนท้องถนน พี่บีก็เหมือนมีอีกร่าง ตอนหลัง ฬินา ก็บอกพี่บีว่าพี่บีคนที่ได้ยินอะ พวกนั้นเขาไม่มีใครได้ยินเลยนะ ฬินา เป็นคนที่ได้ยิน พี่บีเขาก็เลยปรับ
บี : ผมก็เลยเปิดโลกทัศน์ เออหวะ…เขาคือคนฟัง ผมก็เลยเริ่มปรับ เริ่มเรียนรู้ว่าเวลาเราโมโห เวลาเราโกรธ ถ้าเราพูดคำหยาบเนี่ยมันเหมือนเอาน้ำมันไปราดในกองไฟ ก็เลยเวลาโกรธจะต้องพูดสุภาพ ผมจะเก็บคำหยาบไว้พูดกับเพื่อน
แล้วตอนที่เคยเกือบเลิกกันล่ะ?
ฬินา : ตอนนั้นอยู่ญี่ปุ่น
บี : น่าจะคบกัน 2-3 ปี
ฬินา : วันนั้นเราไปถึงไฟลท์เช้า แล้วเราก็พักผ่อนกันไม่พอทั้งคู่ ฬินา ก็เหมือนอยากถ่ายรูปสวยๆ ก็ใส่บูทยาว รองเท้าส้นเข็มสูง 5 นิ้วประมาณนี้ แล้วเขาเห็นทาวเวอร์ เรคคอร์ด เขาจะวิ่งเข้าไปในนั้น แล้วเขาจะไม่ให้ ฬินาไปตรงอื่นด้วยนะ ให้เป็นกำลังใจ ให้อยู่ข้างๆ คือเราก็ชอบฟังเพลงนะ แต่ว่าพี่บีแบบฟังจริงๆ แล้วเขาอยู่ในนั้น 3 ชั่วโมงแล้ว เราก็เริ่มเมื่อย เริ่มหน้าหงิกแล้ว แล้วเขาก็บอกว่า ฬินา ไม่สนับสนุนสิ่งที่พี่รักได้อย่างไร นี่มันอาชีพการงานของพี่นะ แต่พี่บีมัน 3 ชั่วโมงแล้วนะ พี่เพิ่งเข้ามาในนี้แค่ครึ่งชั่วโมง ทำหน้าอย่างนี้แล้วเหรอ
บี : ผมก็โกรธ เหมือนที่ผมคบกับเขา เพราะว่าผมเข้าใจว่าเขารักงานของผม รักดนตรี เพราะผมจะมีปมเรื่องคนที่มาคบกับผม ต้องรับชีวิตผมได้ด้วย รับงานผมได้ด้วยนะ มันถึงจะอยู่กันได้ เพราะว่างานผมไม่ปกติ ทีนี้พอเขาไม่อินกับโลกของเรารู้สึกผิดหวัง นอยด์ไปเอง
แล้วเวลาทะเลากันหยาบไหม?
บี : ไม่หยาบ หยาบไม่ได้
ฬินา : เขาจะแบบจริงจัง แบบเป็นคู่ชีวิตกัน แต่งงานกันแล้วพี่ก็คิดว่า ฬินา จะเข้าใจพี่ แต่นี่เรื่องงานพี่ เรื่องเพลงพี่ ฬินา ไม่สนับสนุนได้อย่างไร ก็ ฬินา เมื่อยพี่บี ปกติก็ฟังเพลง ชอบด้วยกัน เสร็จแล้วพี่บีก็ไม่เชื่อ คือตัวเองก็เหนื่อยด้วย ฬินา ก็อย่างไร สลับกันไป
แล้ววันนั้นจบอย่างไร?
บี : เลิกกันเลย
ฬินา : ใช่ อย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ฬินา ก็สะบัดไป เดินข้ามถนนไปก็ถึงโรงแรม
บี : แล้วอีก 10 นาทีผมก็ตามไป แต่ในใจคือเลิกจริง คือเราไม่ใช่คนพูดซี้ซั่ว เลิกคือเลิก แล้วบังเอิญเป็นเตียงคู่ แยกกันนอนหันหลัง แบบเลิกแน่ๆ ค่ำๆ เหมือนเราคิดว่าเราทำอะไรผิด เหมือนแบบสติมา
ฬินา : เหมือน ฬินา ก็เสียใจ ร้องไห้ แต่พี่บีกลับเข้ามาตัวเองก็ตาแดงมากเลย เข้ามาแบบร้องไห้ แล้วสักพักเขาก็มานั่งบนเตียงแล้วมากอด แล้วบอกว่าเย็นนี้เราไปทานอะไรอร่อยๆ กันนะ
แสดงว่าครั้งนั้นทะเลาะกันหนักสุด?
ฬินา : ใช่ค่ะ
บี : แล้วเป็นครั้งเดียวที่พูดว่าเลิก เลิกกัน 5 ชั่วโมง
เวลา ฬินา โมโหเคยพูดคำหยาบบ้างไหม?
ฬินา : ไม่ๆ โดยธรรมชาติเราไม่พูด

ตอนที่บอกว่าเลิกกันแล้ว ทำไมถึงกลับไปง้อ?
บี : มันรู้สึกเหมือนเราทำอะไรผิดไป ทบทวนไป ทบทวนมา มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดที่เราต้องเลิกกับเขาจริงๆ นี่หว่า เราแม่งงี่เง่า มันไม่เคยทะเลาะกันแรงๆ พอทะเลาะกันมันหดหู่ แล้วแบบเราพูดคำนี้ออกไปได้อย่างไร
คบกันมา 17 ปี อะไรที่ทำให้เราคบกันได้นานขนาดนี้?
ฬินา : อย่างน้อยเราคุยกันรู้เรื่อง พี่บีเป็นคนจริงจังกับเรื่องงานมาก เพลงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับชีวิตเขา แล้วสิ่งที่เรารู้เรื่องที่สุดก็เป็นเรื่องเพลง
ช่วง โควิด เขาบอกว่าคุณสบายมากเลยเหรอ?
บี : ตอนแรกรู้สึกไม่เคยหยุด
ฬินา : ดูทุกเรื่องในเน็ตฟิก
บี : ซื้อทีวีใหม่ เราก็ไม่ได้ทำงานตลอดทุกวัน แต่ 1-2 วันก็ต้องออกไปแล้ว ไม่เคยได้หยุดนานๆ
ฬินา : วันที่ไม่มีงานเขาก็ต้องซ้อม ก็เหมือนทำงานทุกวัน
พอได้หยุดแล้วเป็นอย่างไร?
บี : ตอนแรกเพลินมากเลย ไปซื้อทีวีใหม่ดีกว่า ใช้คุ้มเลย ดูทุกอย่างที่อยากดู
แล้วเริ่มจิตตกตอนไหน?
บี : ตอนรอบหลัง รอบแรกช่วงปลายปีเปิดได้ ผมก็มีคอนเสิร์ตยาวเลย พอ โควิด มาอีกคอนเสิร์ตก็ถูกยกเลิก โอเคทำใจนิดหนึ่ง เดี๋ยวต้นปีกุมพาก็กลับมามีงาน มีนาปิดอีก ทีวีเริ่มไม่น่าดูแล้ว เอาไปเปลี่ยนเป็นเงินได้ไหม เริ่มแบบทำอย่างไรดี งานเริ่มหายไปเรื่อยๆ ทีนี้เริ่มนาน เริ่มจิตตก เหมือนไร้ค่า ไม่มีประโยชน์อะไรต่อโลกเลยเหรอ
แล้วทำอย่างไรให้เปลี่ยนชีวิตเราได้?
บี : ช่วงนั้นมันมีข่าวลบเยอะ แล้วเราเป็นคนที่ทำงานอยู่กับความสุขตลอด ภูมิต้านทานเรื่องความทุกข์เราจะต่ำกว่าคนอื่น พอจิตตกมากๆ ก็ดาวน์ แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรมาก ตอนหลังอยู่ดีๆ เขาบอกจะขายของไอจี ลูกค้าสั่งของ เขาก็มานั่งสั่งของเอง เพื่อจะได้มีอะไรทำในช่วงโควิด ผมก็เห็นทุกวัน ผมก็รู้สึกอาย เขายังลุกมาทำนู่น ทำนี่เลย ผมจะมานั่งอยู่อย่างนี้ทำไม ผมก็เริ่มได้สติแล้ว ผมจะทำอะไรดี เราร้องเพลงได้ ทำออนไลน์ก็ได้ ทำยูทุบ ทำเพจ ก็เริ่มไปไลฟ์ในเพจ ทำคลิปในยูทูบ เอาเพลงที่เก็บไว้ออกมาปล่อยผ่านยูทูบ

และนี่ก็คือเรื่องราวความรักของ บี พีรพัฒน์ และภรรยาคนสวย ที่ผ่านอุปสรรคต่างๆจนอยู่ด้วยกันมานานถึง 17 ปี เมื่อได้รู้แบบนี้แล้ว ต่อไปแอดคงจะฟังเพลงของหนุ่ม บี ได้เพราะไปอีกแบบแน่ๆเลยค่ะ