ทิดสมปอง​ และ​ ทิดไพร​วัลย์​ เคลียร์​ทุกประเด็น​ พร้อมเผยสาเหตุ​

ทิดสมปอง​ และ​ ทิดไพร​วัลย์​ เคลียร์​ทุกประเด็น​ สึกมาหาเงิน? ​ รับทรัพย์​หลายล้าน? พร้อมเผยสาเหตุ​การสึก​

สองอดีต​ พส​ พระสงฆ์​ ​นักเทศน์​ชื่อดัง​ ทิดสมปอง​ และ​ ทิดไพรวัลย์ เปิดใจสาเหตุของการสึก​ พร้อมเคลียร์​ประเด็นสึกมาหาเงิน​ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บโชว์

อัปเดตเรื่อง​ ทิดสมปอง​ กับคุณ​ ศรีสุวรรณ ที่ก่อนหน้านี้มีการ​ ท้าชก แต่ล่าสุด​ ทิดสมปอง​ ออกมาขอโทษ มันเกิดอะไรขึ้น?

ทิดสมปอง : พี่สาวดุ บอกว่าเด็กๆ ดูเยอะ เขาชอบที่แบบใจดี น่ารัก แจกตุ๊กตา พอมาทางแบบก้าวร้าว รุนแรงเด็กๆ ก็ไม่แฮปปี้ ก็มีคนคอมเมนต์มา ขออนุญาตเอ่ย พี่หนุ่มโทรมา ท่านเป็นอย่างนี้เหรอ ผมทราบก็ไม่เป็นนะ อาจจะด้วยอารมณ์อะไรก็ไม่รู้ ผมโนคอมเมนต์แล้วกัน โทรมาด้วยความเป็นห่วง แล้วก็หลากหลายด้วย ก็เลยขอโทษ ขออภัย จริงๆ พี่ศรีเขาเป็นปูชนียบุคคล เป็นปูด้วย แล้วชะนีด้วย คือ เป็นปูชนียบุคคล แต่อย่างไรด้วยความเคารพ ขอโทษ ขอขมาที่ไม่น่ารัก และผมจะเอาลูกเพจเป็นเกณฑ์ อย่างเช่น การเมือง​ เขาไม่อยากให้ไป เราก็ไม่ไป คนก็ติดตามมากขึ้น ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนด้วย อย่างไรก็ขอโทษพี่ศรีด้วย รักนะครับ

เอาจริงๆ ส่วนหนึ่งแฟนคลับเราเริ่มไม่ชอบหรือเปล่า เขามีภาพของเราตอนเป็น​ พระ​ ที่สนุกตลก พอออกมาปุ๊บจะท้าตี ท้าต่อย?

ทิดสมปอง : มีผลมากครับ ถ้าคนด่าเรา เขาด่าเราอยู่แล้ว แต่ถ้าลูกเพจที่รักเรา แล้วด่าเรา ไม่ชอบเรา ผมว่ามันมีผลมาก ก็แคร์มากๆ ตอนที่อัดอั้นตันใจเขาก็เซฟเราทุกอย่าง แนะนำเรา มีแต่เรื่องดีๆ เป็น​ พระ​ เรารับบริจาคไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก็มีแต่เขา ซึ่งเขาก็ไม่ได้ฐานะร่ำรวยอะไร ก็เอาลูกเพจเป็นเกณฑ์ครับ

ในฝั่งเฟซบุ๊กของพี่ศรี เขาโพสต์ว่า “อโหสิ ธรรมะ​ สอนให้เรามีสติ​” ได้อ่าน และรู้สึกอย่างไรบ้าง?

ทิดสมปอง : เพิ่งดูในรายการนี่แหละครับ แล้วทีมงานเล่าให้ฟังก็ขอบคุณครับ ถ้าเราทำได้ตามที่เราโพสต์ทั้งผมเองด้วย พี่ศรีด้วย ทุกท่านด้วย ผมว่าน่าจะเป็นอะไรที่ดี บางคนโพสต์​ ธรรมะ​ บ่อยๆ จิตใจโสมมก็เยอะ ผมอยากให้โพสต์​ ธรรมะ จิตใจสูง แล้วก็ทำตัวสูงด้วยอะไรอย่างนี้ ผมก็น้อมรับ ผมอาจจะไม่ได้โพสต์​ ธรรมะ​บ่อย แต่ว่า​ ธรรมะ​ ก็มีอยู่ในใจ ก็ขออภัยครับ

ทางพี่ศรีมีคำว่าอโหสิแล้ว ทาง​ ทิดสมปอง​ อโหสิไหม?

ทิดสมปอง : ถ้ามีเวรกรรมต่อกันก็อโหสิครับ รักพี่นะครับ รองจากแม่ผมผมก็รักพี่นะครับ

ตอนมีปัญหากันน้อง​ ไพรวัลย์​ มีโอกาสมาช่วยอะไรบ้างไหม?

ทิดสมปอง : ไปหวังอะไรกับคนแบบนี้

ทิดไพรวัลย์ : ผมก็โพสต์อยู่ประจำ อาจารย์ไม่เห็นหรอ รอเป็นกรรมการ

ทิดสมปอง : แต่ละช็อต รอเป็นกรรมการ ใครจะต่อยกันผมไม่รู้ แต่ผมรอเป็นกรรมการ คนแบบนี้หรอที่จะมาช่วย

ทิดไพรวัลย์ : กรรมการก็ห้ามไง อย่าทะเลาะกัน

ทิดสมปอง : น้องน่ารักครับ จริงๆ เราปกป้องกันอยู่ตลอด โพสต์ไม่โพสต์แต่ข้างหลังเราก็ให้กำลังใจกันตลอด

ที่​ สึก​ ออกมา ใคร​ สึก​ ก่อน?

ทิดสมปอง : สวัสดีครับพี่ ขอบอกเลยว่า สึก​ ก่อนเป็นรุ่นพี่

ทิดไพรวัลย์ : สึก​ ทีหลัง เอา…น้องปอง

ตอนแรกที่ตั้งใจไว้ คุณ​ สมปองอ​ ยากจะ​ สึก​ ก่อน?

ทิดสมปอง : ครับ จบปริญาตรีเราก็อยาก​ สึก​ ครับ เพื่อน 80-90% ตอนนี้ดูอยู่ก็​ สึก​ ครับ พอต่อโทมันก็จะ​ สึก มันก็มีงาน มีการพอดี มันมีจังหวะให้ได้อยู่ต่อมาเรื่อยๆ การ​ สึก​ กับ​ พระ​ เป็นเรื่องปกติมากๆ อยู่ที่ว่ามันทำอะไรแล้วมันอยู่ต่อมากกว่า

พระ​ ไพรวัลย์​ ทำไมถึงได้​ สึก​ ก่อน?

ทิดไพรวัลย์ : พร้อมก่อนครับ พร้อมก่อนก็ออกก่อน

ทิดสมปอง : จริงๆ เขาพร้อมบวก

ทิดไพรวัลย์ : ก็พร้อมจะ​ สึก​ แล้ว แล้วก็เบื่ออะไรหลายๆ อย่างด้วยตอนนั้น ก็อยากออกมา อยาก​ สึก​ ก็​ สึก​ ครับผม คือหมายถึงใจพร้อมที่จะออกมาอยู่ข้างนอก

ตอนนั้น​ ทิดสมปอง​ ก็ยื้อทาง​ ทิดไพรวัลย์​ ?

ทิดไพรวัลย์ : ยื้อเหรอครับ

ทิดสมปอง : มันก็ไม่เชิงหรอกครับ ถ้าน้องตัดสินใจแล้ว​ ไพรวัลย์ เป็นคนที่เรียนเก่งมาก แล้วน้องก็มาอยู่จุดนี้ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นน้องมีความมั่นใจ ไม่ใช่ไม่ฟังคนอื่น แต่ว่าเขามีวันนี้ด้วยตัวเขาเองครับ แล้วเราก็จะบอกได้ประมาณหนึ่ง เวลาใครเป็นห่วงเขาจะไม่กล้าบอก​ ไพรวัลย์ ผมจะเป็นคนบอก ไพรวัลย์​ เขาจะมีประโยคนี้ว่า “ผมเข้าใจนะอาจารย์ แต่ผมมีวันนี้ได้เพราะตัวผมเอง ผมขอตัดสินใจเอง” ฤกษ์ยามเขาก็ไม่ดู แต่ในขณะที่ผมดู

พี่​ สมปอง​ ยื้อน้อง​ ไพรวัลย์ แต่เวลาพี่​ สมปอง​ สึก​ น้อง​ ไพรวัลย์​ ก็ยื้อเหมือนกันไม่อยากให้​ สึก อย่างไร?

ทิดไพรวัลย์ : มันคือมารยาทครับ ไม่ใช่ จริงๆ มันก็รู้สึกเสียดายนะครับผม ถ้าท่านอยู่ได้เราก็อยากให้ท่านอยู่ เพราะว่าท่านอยู่เราก็ยังทำงานร่วมกันได้ในเชิง​ ธรรมะ​ ท่านก็ไปเวย์ของ​ พระ แล้วเราก็ช่วยเสริม เป็นลูกศิษย์ที่มันแก่นๆ ทะเล้น ก็ดูน่ารักดี

ตอนที่​ ทิดสมปอง จะ​ สึก ในใจเราอยาก​ สึก​ และพร้อมหรือยัง เท่าที่ได้ยินมาตอนนั้นยังไม่ค่อยอยากสึกเท่าไร?

ทิดสมปอง : ไม่พร้อมเลยครับ จริงๆ ปลายปี 66 ครับ ฤกษ์ยามสมเด็จท่านก็บอกว่าดีด้วย แต่ทีนี้ด้วยอะไรหลายๆ อย่างก็เลยรู้สึกว่า ช้าเร็วก็ต้องออก จังหวะนี้ออกก็ได้ ถามว่าเสียดายไหม น้องไม่เสียดาย แต่ผมเสียดาย ทุกครั้งที่จะ​ สึก​ ผมจะจี๊ดๆ ที่ใจ มันเป็นอย่างไรนะ พ่อ แม่ จะว่าอย่างไร สังคมจะว่าอย่างไร โดนเกลียดไปครึ่งประเทศไหม จนมาเจอเพลงเขา ที่เขาไปฟีดเจอริ่งเพลง ที่เป็นคำพูดแล้วเขาเอาไปใส่ในเพลง แบบทนเพื่ออะไรก่อน เราไม่ได้เป็นหิน หินมันแข็งเกร่ง แต่เราเป็นคน เราไม่ได้แข็งเกร่ง เราจะมาทนเพื่อคนอื่น อย่าหาทำ คือเรารู้สึกว่าใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น บางคนเป็น LGBTQ + จะมีแฟนอย่างนี้ กลัวพ่อแม่เสียใจ กลัวครูว่า กลัวเพื่อนแซว กลัวๆ แฟนฝรั่งที่เป็นผู้ชายด้วยกันบอกว่า อะไรคือการอยู่เพื่อคนอื่น ผมนึกไปถึงเรื่องนั้นเลยครับ น่าจะเป็นรายการของแกรมมี่นี่แหละ ก็รู้สึกว่าใช่นะ เราห่วงคนนั้น คนนี้มากมาย เราไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองเลย

รู้สึกอย่างไร ไม่น่าเชื่อว่าเพลงของเราทำให้เขา​ สึก​ ได้?

ทิดไพรวัลย์ : จริงๆ คงไม่ขนาดนั้นหรอก ถ้าอาจารย์​ สมปอง​ ท่านไม่อยาก​ สึก​ จริงๆ ท่านคงไม่​ สึก​ หรอกครับ นี่แค่ส่วนหนึ่งที่มันไปเสริมความคิดอะไรบางอย่างของท่าน มันทำให้ท่านกล้าหารที่จะออกมาเฉยๆ แค่นั้นแหละ แต่ถ้าท่านมีใจที่จะครองผ้าเหลืองอยู่ท่านก็น่าจะอยู่ต่อครับ

แสดงว่าอันนี้คือจุดพีคที่สุดเลยที่ทำให้​ ทิดสมปอง​ สึก?

ทิดสมปอง : ไม่หรอกครับ ที่​ ไพรวัลย์ พูดมันนิดเดียว ประมาณ 0.01% ด้วยซ้ำ แต่จริงๆ แม่ไม่สบายมานานแล้ว แต่ผมไม่เหมือน​ ไพรวัลย์ ไพรวัลย์​ เขาลูกคนเดียว ผมลูก 7 คน ตอนนี้เหลือ 5 เสียไป 2 มีพี่สาวดูแล มีเพื่อนพี่สาวดูแล ผมก็ซัปพอร์ตอะไรอย่างนี้ ทีนี้มันก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง 25% แล้วกัน อีกเหตุผลหนึ่งเรารู้สึกว่าอยู่ในวงการนี้แถมมาเยอะ ผมว่าจะอยู่ปีเดียว นี่อยู่มาตั้ง 30 ปี ถ้าเป็นขายของนี่ ขาย 1 ชิ้น แถม 29 ชิ้นเลยนะ ผมก็เลยรู้สึกว่าก็ถึงเวลาแล้วไหม​

แต่มันก็จะมีอีกกลุ่มหนึ่งออกมาบอกว่า ออกมาถึงเป็นพรีเซ็นเตอร์เลย รีวิวเลย อ้างเรื่องแม่ เรื่องความอึดอัด ที่จริงแล้ว​ สึก​ ออกมาเพื่อหาเงิน?

ทิดไพรวัลย์ : จริงๆ จะ​ สึก​ เพื่ออะไรผมว่าเป็นเรื่องของผมนะ แล้วอย่างไร สึก​ แล้วต้องเห็นผมต๊อกต๋อยไม่มีงานทำ ร้องไห้ นู้นนี่นั่นเหรอ ผมว่าผม​ สึก​ มาขายของก็เรื่องของผม แล้วทำไมมันเดือดร้อนใคร

ทิดสมปอง : ผมไม่ตอบนักเลงแบบนั้นหรอกครับ ผมมีสัมมาคารวะครับ ผมเลิกไปทางนั้นแล้ว

ทิดไพรวัลย์ : ขอตอนแรกที่พูดให้สัมภาษณ์สื่อครับ

ทิดสมปอง : ก็ต้อง​ สึก​ ไปหาเงินครับ ไม่งั้นคุณจะให้ผมเหรอครับ ผมจะ​ สึก​ ไปหา…มั้งครับ จังหวะนั้นก็ฮากันมาก คือผมไม่รู้จะตอบอะไรด้วยความรู้สึก คือมันไม่ได้คิดไว้ก่อนหรอกครับ ใครจะคิดว่าจะมีพรีเซ็นเตอร์รออยู่ มันมีแววตอนที่เราสู้คู่กัน บางยี่ห้ออยากให้เรารีวิวมาก แต่ว่าเราก็รีวิวให้ไม่ได้ เราโดนว่า มีบ้างนิดเดียว ไม่ถึงขั้นจะยังชีพได้ด้วยซ้ำ ออกมาก็ยังลุ้นอยู่ ผมเจอข้อความหนึ่งที่ว่า เขาเอา​ ไพรวัลย์ เขาไม่เอา​ สมปอง เพราะว่า​ สมปอง​ ไม่เข้าอายุเยอะ หน้าช้ำแล้ว ผมก็โอเค ถ้าไม่เอาผม 95% คือผู้บริโภค 5% คือผู้ผลิต โอเคงั้นผมเป็นผู้ผลิตก็ได้ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะผลิตอย่างไร ผมไม่มีเงินเลย สุดท้ายก็ค่อยๆ แซวๆ ให้เลขาหนึ่งคุยกับคนนั้น คนนี้ มันก็เริ่มเข้ามา เวลาผมคิดอะไร ผมจะคิดดัง พูดออกมา มันก็ออกไปผู้หลักผู้ใหญ่ได้ยิน นายทุน​ ได้ยินก็เข้ามา ผมไม่มีเงินเลย ผมมีแต่ชื่อ หน้า ปาก ถ้าใครรีวิวผมก็จะบอกว่าทำงานเต็มที่ แต่ไม่การันตียอดขาย คือผมเพิ่งใช้ผลิตภัณฑ์คุณ แล้วจะให้การันตีได้ไง คุณรู้ผลิตภัณฑ์คุณมากกว่าผม ถ้าของคุณดีมันก็ต้องรันไปเอง แต่ผมอะเต็มที่ แต่ผมไม่การันตียอดขาย อย่ามาปรับผม อย่ามามีเงื่อนไข อย่าอะไรเยอะ ผมไม่มีปัญญาเสียค่าปรับคุณหรอกครับ

จริงไหมมีภาพที่​ ไพรวัลย์​ เอาเงินไปให้คุณแม่?

ทิดไพรวัลย์ : จริงครับ เอาไปให้ที่โรงพยาบาลที่แม่พักฟื้นอยู่ แม่ไม่รู้ว่าเราจะเอาเงินมาให้เขา

ก้อนนั้นเท่าไร?

ทิดไพรวัลย์ : พอดีมีคนพูดเยอะไหนบอกว่าจะ​ สึก​ มาดูแลแม่ ช่วงนั้นมันมีงานพอดี คิดว่าแม่อยู่ก็มีพี่ที่ดูแลอยู่ ก็ขอแม่ไปทำงาน แม่ก็ให้ไป ก็ได้เงินก้อนนั้นมา ประมาณ 6 หลัก

เห็นว่าตั้งใจออกมาหาเงินรักษาคุณแม่ แต่ก็มีคนใจดีออกค่ารักษาพยาบาลคุณแม่ให้ด้วย?

ทิดไพรวัลย์ : ไม่ทั้งหมดครับ มีบางส่วนที่เขาช่วยได้ แต่ว่าค่าเดินทาง ค่าที่พักอะไรอย่างนี้เราต้องจัดการเอง แล้วก็มียาบางตัวที่เราต้องเสียเงินจ่าย แม่เป็น​ มะเร็ง

ค่าใช้จ่ายตอนนี้สูงมากไหม?

ทิดไพรวัลย์ : ค่ารักษาที่หมดไปแล้วตอนนี้ประมาณ 5-6 ล้านครับ

++++รูปไพวัลย์​คู่แม่++++

แล้วคนที่มาช่วยเราถึงหลักล้านไหม?

ทิดไพรวัลย์ : ถึงครับ เขาเป็นพี่สาวที่นับถือมากครับ

มั่นใจว่าเขาดูอยู่ อยากจะบอกอะไรเขา?

ทิดไพรวัลย์ : จริงๆ ครอบครัวผมเป็น​ หนี้​ เขา หมายถึงว่าเป็น​ หนี้​​​ ชีวิต แม่ได้รับการดูแล รักษาดี ในแบบที่ผมรู้สึกพึงพอใจ ก็เพราะพี่สาวคนนี้ครับ

คุณ​ แม่ป่วย​ มานานหรือยัง?

ทิดไพรวัลย์ : น่าจะ 2-3 ปีแล้วครับที่เริ่มรู้ตัวว่าเป็น​ มะเร็ง​ รังไข่ มดลูก ประมาณนั้นครับ

จริงไหมที่ทีมงานบอกวันนี้คุณแม่กำลังเดินทางมา?

ทิดไพรวัลย์ : วันนี้ต้องเข้ากรุงเทพฯ​ ครับ เพราะหลังจากที่ผ่าก้อนเนื้อไปแล้วต้อง​ ฉายรังสี​ อีก มันไม่ใช่ว่าจบเลย อีกเดือนกว่าๆ แม่ก็ต้องมารักษาตัวที่กรุงเทพฯ​ แล้ว​ ฉายรังสี​ นี่ 25 ครั้งครับ

ตอนนี้​ ฉายรังสี​ กี่ครั้งแล้ว?

ทิดไพรวัลย์ : ยังเลยครับ

คุณแม่ทราบว่าเรา​ สึก​ ออกมา ท่านว่าอย่างไรบ้าง?

ทิดไพรวัลย์ : จริงๆ พยายามกล่อมแล้วก็คุยหลายครั้ง คุยแรกๆ แม่ไม่อยากให้​ สึก ไม่มีใครอยากให้​ สึก​ เลย ญาติพี่น้องก็ไม่อยากให้​ สึก พ่อ แม่ ก็ไม่อยากให้​ สึก อยากให้อยู่ แต่เรามีเหตุผลของเราที่เราอยากมา ท่านก็เคารพการตัดสินใจ ก็แล้วแต่เลย ถ้าตัดสินใจดีแล้ว

แม่ปล่อยเรา แต่พ่อไม่อยากให้​ สึก​ เลย?

ทิดไพรวัลย์ : พ่อไม่อยากให้​ สึก​ เลยครับ พ่อผมเป็นคนที่อยู่กับวัดมาตั้งแต่เด็ก เวลาเขาเห็นลูกเขาอยู่ในผ้าเหลือง เขารู้สึกว่า เขาพอใจที่จะให้ลูกเป็นแบบนี้ อยู่กับวัดแบบนี้ เขาทำใจไม่ค่อยได้

2 คนนี้มีอะไรที่คล้ายกันมาก แม่คุณ​ สมปอง​ ก็ป่วยเหมือนกัน?

ทิดสมปอง : ติดเตียง สโตรกครับ ตั้งแต่อายุ 69 ตอนนี้ 75 ปี ก็ 6 ปีแล้วครับ ตอนนั้น​ เส้นเลือดในสมองตีบ สโตรกมันมีเวลาอยู่ 4 ชั่วโมง จริงๆ แค่ 3 อีกชั่วโมงคือการรักษา แต่แม่นี่ปวดหัว 2 ทุ่ม ไปโรงพยาบาล 8 โมง

คุณแม่ทั้ง 2 คนเกิดวันที่ 2 มกราคม เหมือนกัน แล้ว​ สมปอง​ เพิ่งมีโอกาสได้ไปกอด ไปหอมแม่ ในวาระ 30 ปี?

ทิดสมปอง : เพราะว่าเรา​ บวช​ เณร บวช​ พระ​​ มา เราก็กราบไม่ได้อยู่แล้ว เวลาผมเห็น​ พระ เณร ที่กราบพ่อ แม่ ผมรู้สึกว่าไม่ต้องขนาดนั้น กตัญญู​ ด้วยวิธีอื่น เป็นตัวอย่างที่ดี แต่คนจะงงว่าศีล 227 กับ ศีล​ 5 มันอย่างไรแน่ บางคนจะอ้างว่า​ กตัญญู ผมก็ไม่กล้ากราบครับ ฉะนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่กราบ กอดเนี่ย ผมเป็น​ พระ​ ก็เคยอุ้ม ก็เป็นข่าว อาจจะไม่เหมาะสม แต่ว่าอุ้มช่วยพี่สาวที่เขาปวดเอว ถ้าอุ้มไม่ใช่ครั้งแรก แต่ถ้ากราบนี่ครั้งแรกเลยครับ หอมนี่ก็ครั้งแรกครับ

บรรยากาศความรู้สึกในวันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?

ทิดสมปอง : น้ำตาไหลเหมือนกันครับ คนจะว่าดราม่า ตั้งแต่อายุ 40 ผมฟังอะไรซึ้งๆ ไม่ได้เลย น้ำตามาง่าย ก็พยายามเฉไฉเอาไว้ ก็กราบ กอด แล้วก็เรียนแบบน้องเยอะ น้องคุยทางให้ผมเยอะ อะไรไม่เหมาะผมจะดูน้องเป็นหลัก เรื่องเงินนี่ก็เรียนแบบน้องเลย

มีคนอยากรู้ว่า​ ทิดสมปอง​ เป็น​ พระ​ มี​ หนี้​ ได้อย่างไร 13 ล้าน?

ทิดสมปอง : ครับ ไปถามเลยครับ พระ​ ระดับ​ เจ้าอาวาส ระดับอะไรมีใครบ้างไม่มี​ หนี้ มันจะสร้างนั่น สร้างนี่ สร้างร้านกาแฟให้โยม พระ​ องค์ใหญ่ ศาลา ห้องน้ำ กุฏิ ส่วนมากผู้รับเหมาเขาจะทำให้ก่อน แล้วรอผ้าป่า กฐิน นู้นนี่นั่น ของผมนี่จะสนามกีฬา ห้องเรียน ห้องน้ำ ทุนการศึกษา 3 ปีแรกผมไม่ขอใครเลย ผมเกรงใจ ผมค่อยๆ หา งานมันรออยู่ เงินอนาคตค่อยๆ เอามา ไม่ทันปุ๊บ มันต้องใช้ล้านหนึ่ง พี่ไปยืมให้หน่อย ร้อยละสามนะครับ ร้อยละสองได้ไหม อะไรแบบนี้ กู้มาตอนแรกก็ 3-4-5 ล้าน มันทะลุเป็น 13 ล้านได้ไงไม่รู้ ก็ใช้ไปแล้ว 3 ล้าน เหลืออีก 10 ล้าน อีกอย่างหนึ่งที่ผมบอกเรื่องนี้มีแต่คนไม่เห็นด้วย แต่ผมอยากจะบอกว่าผมไม่ได้เอาเงินจาก​ พระ​ พุทธศาสนา​ ออกมาเลย ผมมี​ หนี้​ ด้วยซ้ำ คือคุณไม่ต้องห่วงเรื่องรวย เอาอะไรออกมา ด้วยความโง่ของผมก็มีความฉลาดอยู่ เพราะตอนนี้ก็มี​ นายทุน​ ใจดีที่ใช้​ หนี้​ ให้เลย ให้เงินด้วย 3 เงื่อนไขที่ผมเสนอเรื่อง​ การเมือง สุดท้ายเป็น​ นักธุรกิจ​ ใหญ่ครับ เอ่ยมาทุกท่านจะทราบ ใช้​ หนี้​ ให้ มีเงินเดือนให้ มีเงินลงทุนให้ 100 ล้านออนไลน์ มีบ้านให้อยู่ มีอะไรต่างๆ ครบ 5 ปีอยากเล่น​ การเมือง​ พร้อมสนับสนุน แต่สุดท้ายมันมีเงื่อนไขเยอะ เช่น ถ้าผิดสัญญาปรับ 50 ล้าน ผมไม่มีปัญญาจ่ายหรอกครับ ตอนนี้ท่านลดให้เราเหลือ 10 ล้านแล้ว คือกั๊กไว้ไม่ให้เรานอกลู่ นอกทาง สำหรับผม ผมมั่นใจว่าผมไม่นอกลู่ นอกทาง อย่ามีปรับผมเลย แต่บางทีท่านฉลาด ผมไม่ได้พลาด แต่ท่านทำให้ผมพลาด เช่นอาจจะให้บริษัทในเครือมาหลอกหล่อผม มารีวิวสัก 2 ล้าน ผมผิดสัญญา ผมต้องคืน 10 ล้าน สมมติผมหามาได้ 11 ล้าน ผมได้ล้านเดียว 10 ล้านผมต้องคืน ผมก็ระแวงหลายอย่าง ผมก็เลยไม่เอา แต่อีกอย่างที่มันติดคือผมเซ็นสัญญาบางอย่าง ผมรีวิวบางอย่าง คือถ้าทำตอนนี้ท่านจะไม่ให้รีวิว ให้เก็บตัว ซึ่งไม่ได้ครับ ผมเป็นคนอะเลิท ซึ่งบางคนเป็นคนแคระชื่อน้องปู เขาบอกโตไปด้วยกันนะ หนูอยากหวังพึ่งพาเราด้วย ทำ​ ธุรกิจ​ ด้วยกัน ก็เลยขออนุญาตที่จะไม่ทำ ท่านก็เลยบอกว่างั้นก็ไปทำเต็มที่ ที่ทำอยู่ด้วยก็ไปด้วยกันได้หมด อีก 3 เดือนเงื่อนไขนี้ก็ยังอยู่ครับ

ในส่วนของ​ ทิดไพรวัลย์ เห็นบอกว่า​ สึก​ มา 1 เดือน หาเงินได้ 10 ล้าน จริงไหม?

ทิดไพรวัลย์ : ขออนุญาตฝากไปถึงคนที่บอก รู้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องจริง ขอบคุณนะครับ ถ้าเขาเอาเวลาไปยุ่งกับเรื่องตัวเอง ผมว่าชีวิตเขาเจริญกว่านี้ เอามาจากไหนก่อน 10 ล้าน

มีความจริงอยู่ไหม?

ทิดไพรวัลย์ : ไม่มีเลย ผมต้องทำงานอะไรครับถึงรวย 10 ล้าน ถามว่ามีรายได้ไหม มีครับ แต่ไม่ถึงหลักล้าน

คุณ​ สมปอง​ เป็นสายเปย์ เปย์คุณ​ ไพรวัลย์​ หนักมาก เปย์เรื่องอะไร?

ทิดสมปอง : เนี่ย ธุรกิจ​ ที่กำลังทำ มีผู้ใหญ่ใจดีมาทำ วันนี้ก็ติดต่อเยอะ ก็อะไรที่ไม่ตรงกับที่น้องรับจ้างรีวิวก็ให้น้องช่วยหน่อย เพราะว่าด้วยกระแสน้อง ก่อน​ สึก 2.6 ล้าน พอ​ สึก​ มาคนตามในเพจ 3.2 ล้าน ติ๊กต็อก​ เล่นแค่อาทิตย์เดียวแซงผม ผมเล่นมาปีครึ่ง 1.2 ล้าน น้องเล่นอาทิตย์เดียว 1.6 ล้าน

ทิดไพรวัลย์ : แต่ก็ได้ผลนะ หลังจากที่อาจารย์​ สมปอง​ สึก​ มา 3 ล้านแล้วเหมือนกัน

ทิดสมปอง : ใช่ๆ แปลกมากเลย ก่อน​ สึก​ ผมมีอยู่ 1.9 ล้าน สึก​ มามี 3 ล้านแล้ว

การที่แท็กทีมทำให้ลุคของเราดีขึ้นไหม?

ทิดสมปอง : ผมอยากจะบอกผู้จ้าง​ รีวิว ถ้าเราแพ็คคู่ อันนี้ 3.3 ล้าน อันนี้ 3 ล้านแล้ว ก็ 6.3 ล้าน ก็น่าสนใจอยู่นะ ถ้างานเดี่ยวให้น้องเลย ถ้างานคู่มีกูด้วย

จาก พส พระสงฆ์ เปลี่ยนมาเป็น พส เพื่อนสาวหรือเปล่าคุณ​ ไพรวัลย์​ ?

ทิดไพรวัลย์ : จริงๆ ถ้าจะเป็นก็ได้นะ ทำไมต้องมีปัญหากับรสนิยมคนอื่น พระมหาสมปอง​ ยังเปลี่ยนเฟซเป็น​ แม่ปอง​ ได้เลย

คิดอยากจะมีแฟนไหม?

ทิดไพรวัลย์ : ตอนนี้ไม่ได้สนใจเลยครับ ขอโฟกัสที่งานก่อน ถามว่าเมื่อไรคิดจะมีแฟน คงว่างๆ ยังไม่สะดวกครับ

สเปคมีหรือยัง?

ทิดไพรวัลย์ : ไม่มีครับ ไม่ได้รู้สึกว่าเห็นใครแล้วนี่คือความสวย ความงาม

เพศไหน?

ทิดไพรวัลย์ : ไม่มีสักเพศเลยครับ

ฝั่งพี่​ สมปอง​ เคยมีคำพูดหลุดออกมาจากปากพี่เลย มีภรรยาได้ มีแน่นอน?

ทิดสมปอง : หิวมากครับ ผมใช้คำนี้​ ผมพูดเล่นนะ จริงๆ ต้องมี​ภรรยา ต้องมีหลานให้แม่อุ้ม คือแม่ก็ปลื้มหลานหลายคน แต่ผมเชื่อว่าถ้าผมมีหลานให้แม่ ผมว่าแม่น่าจะปลื้มมากขึ้นไปอีกครับ ผมว่ามันก็เป็นความสุข

เรียกว่ามุ่งมั่นเลยไหม?

ทิดสมปอง : ดูหื่นมากเลยนะครับ มุ่งมั่น ไม่เชิงหรอกครับ จริงๆ 2 ปีนี้ผู้จัดการบอกว่าห้ามมีแฟน ไม่แต่งงาน 2 ปีนี้คงตั้งใจทำงาน ตอนนี้ 43 ถ้าตามผู้จัดการคือ 45 เลย แต่ก็มีคุยแซว ไม่รู้ว่าเอ่ยได้ไหม คุย​ มะนาว ศรศิลป์ คุยขำๆ เห้ย…มะนาว เราจีบกันได้ไหม ทำเป็นจิ้นกันอะไรอย่างนี้ มะนาวก็สวนกลับมาว่า เดี๋ยวลูกเพจท่านจะมาตีกระบาลนะคะ ล่าสุดก็ไปที่สาวน้อย​ เพชรบ้านแพร อร อรดี เราก็เคยดูเขา บางทีแค่เพื่อนกัน อาจจะแบบจิ้นๆ ผมว่าอย่าคบกันเลยครับ กึ่งๆ เป็นเพื่อนกัน ผมว่ามันจะน่ารัก แต่ว่าผมก็ดูหนังหน้าตัวเองอยู่นะครับ

ได้ข่าวว่าคุณ​ สมปอง​ เคยตกหลุมรัก บุ๋ม ปนัดดา จริงไหม?

ทิดสมปอง : สวัสดีครับพี่บุ๋ม เคยจะจีบครับๆ ผมน่าจะหลุดคำว่าเทคแคร์นะ แต่ไม่น่าจะหลุดถึงขั้นคำว่าที่รัก แล้วพี่บุ๋มก็ตอบไลน์มาว่า หยองนะเฟ้ย อะไรสักอย่าง

พี่บุ๋มรู้จักกับพี่​ สมปอง​ มากี่ปีแล้ว?

บุ๋ม : 10 กว่าปีแล้ว

ทิดสมปอง : 7-8 ปีมีครับ ตั้งแต่พี่สาวคนเล็กเสีย คือไปออกร้านชำยามเช้า 3 นางสาวไทย พี่บุ๋ม คุณนุ้ย แล้วก็คุณ​ หมิง ชาลิสา  ก็สนิทกับพี่บุ๋มคนเดียว มีเบอร์ ก็ได้คุย แล้วพี่สาวคนเล็กผมเสียด้วยอุบัติเหตุ พี่บุ๋มไปเดินแบบหรือไปงานที่โคราช ก็เลยลองชวนดู พี่บุ๋มก็ไป แกก็ไปนอนห้องที่พี่สาวผม ที่เสียนั่นแหละ ห้องน้ำก็ไม่ค่อยดีเท่าไร บ้านกำลังก่อสร้าง ถมดินไว้ แล้วพี่บุ๋มก็ตื่นมาตี 5 อาบน้ำ บ้านนอกๆ เรา แล้วไปทำกับข้าว ผมเลยพาเขาไปทานข้าวเที่ยง นั่งคุย เจอเขาใส่สร้อยแบบเสาหลักเมือง จังหวัดไรไม่รู้ ก็ทัก แล้วพี่เขาก็ให้ แล้วชาวบ้าน เขานินทา

บุ๋มรู้มาก่อนใช่ไหมว่าคุณ​ สมปอง​ เขาชอบ เขาหลงรักเรา?

บุ๋ม : ไม่กล้าคิด

แล้วตอนนี้รู้สึกอย่างไร เขาเปิดใจบอกว่าเขาเคยชอบเรามาก?

บุ๋ม : ก็ขอบคุณ ตอนนั้นด้วยท่าที แต่เราคิดว่าเขาปลื้มเรามากกว่า คิดในแง่บวกไว้ก่อน เพราะเขาใส่ผ้าเหลือง

ถ้าสมมติอนาคตคุณ​ บุ๋ม ปนัดดา โสด ถ้าเขาจีบว่าไง?

บุ๋ม : ว่ากันอีกที

ทิดสมปอง : กินข้าวกันพี่ เราจะไปดินเหนียวกัน ก็อยากดินเนอร์ ทุกครั้งที่พี่บุ๋มเขามีแฟน ผมเคยเจอสามีของพี่บุ๋มไปบรรยาย เจอกันในห้องน้ำแล้วพี่เขาก็ทัก พอพี่บุ๋มมีข่าวกับใคร คบใคร มันก็เจ็บๆ อยู่เหมือนกัน

ทำไมถึงต้องเป็นพี่บุ๋ม?

ทิดสมปอง : อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเรามีเบอร์พี่บุ๋มคนเดียว

บุ๋ม ปนัดดา ประทับใจอะไรในตัวน้อง​ สมปอง?

บุ๋ม : เขาเป็นคนที่จริงใจ พยายามสร้างสิ่งดีๆ ให้เด็กๆ ก็อยากจะบอกว่าขออนุโมทนา แล้วขอให้นำสิ่งที่ได้จากการเป็น​ พระสงฆ์​ นำมาสานต่อในชีวิตประจำวัน

อย่างนี้เรียกสเปคไหม?

ทิดสมปอง : ใช่หมดเลยครับ เพราะตามไอจี ตามอะไรพี่บุ๋ม ตอนนี้ก็ตามอยู่ครับ แล้วทุกครั้งที่เขาเซ็กซี่ เราก็ชอบ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เราก็ไม่กล้ากดไลค์ตอนนั้นเป็น​ พระ​ อยู่ครับ คนจะคิดว่าผมเป็น​ กะเทย เป็นอะไรอย่างนี้

ตอนที่เป็น​ พระสงฆ์​ อยู่มีแอบมากดไลค์ไหม?

ทิดสมปอง : ไม่น่าเผลอครับ เลขา ทีมงานจะดุครับ อย่าไปเผลอกดอะไร วางตัว อย่างตอนนี้ผมจะโกนหนวดก็ไม่ได้ เพราะว่าขายของอยู่ ผมจะรู้แค่ว่าให้ผมทำอะไร ไปไหน ผมจะรู้แค่นี้ครับ พี่บุ๋มตกลงเราไปทานข้าวกันวันไหนพี่

นอกจากจะชวนทานข้าว อยากบอกอะไรกับพี่บุ๋มบ้าง?

ทิดสมปอง : ก็รักเหมือนเดิม สถานภาพผมว่ามันไม่จำเป็นต้องคอบครองหรอก รักก็คือรัก ประทับใจในความเป็นพี่บุ๋มในความชอบช่วยเหลือคน เลี้ยงเด็กๆ ส่งเด็กๆ เรียน เวลาพี่บุ๋มเขารักใคร ผมไม่อยากเอ่ยชื่อ คือเขาจะถามว่าไปไหนๆ จริงๆ เราเจ็บนะเวลาเขาห่วงคนนั้น

ถ้าน้อง​ สมปอง​ จีบจริงๆ ต้องเล่นกล้ามไหม?

ทิดสมปอง : ผมจะเล่นกล้ามนะ 2 เดือนผมจะมีซิกแพคครับ

บุ๋ม : ถ้าได้ก็ดี

ณ วันนี้ใครดังกว่ากัน?

ทิดสมปอง : น้องดังกว่าครับ ด้วยคนที่ตามเพจ ยูทูบ

ทำงานร่วมกันมีปัญหากันบ้างไหม?

ทิดไพรวัลย์ : ไม่มีนะครับ จริงๆ เมื่อกี้ที่ถามว่าใครดังกว่ากันไม่อยากให้นี่ด้วยซ้ำ เพราะผมรู้สึกว่าตัวผมเองที่มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นได้ ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะอาจารย์​ สมปอง ซึ่งท่านมีชื่อเสียงอยู่แล้ว

ความในใจอยากจะบอกคุณ​ สมปอง​ ?

ทิดไพรวัลย์ : ยังเหมือนเดิมนะครับ หมายถึงว่าเคยเคารพนับถืออย่างไร ก็ยังเคารพนับถืออยู่ ไม่ว่าสถานภาพจะเปลี่ยนไป ก็อยู่ใน 2 สถานะ ยังเป็นทั้งลูกศิษย์และยังเป็นน้องคนเดิม

ทิดสมปอง : ก็คุยกันตรงๆ แบบพี่น้อง เขาจะชอบเรียกผมว่าอาจารย์ ผมจะชอบเรียกเขาว่าน้อง ถ้ามีปัญหาเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ผลประโยชน์ คือถ้าผมได้ผลประโยชน์แล้วผมผิดใจกับเขา ผมขอใช้คำง่ายๆ กูเลือกมึงนะ กูไม่เลือกผลประโยชน์นะ ใครไม่ต้องมารอว่าเราจะทะเลาะกันวันไหน อย่างไร เสี่ยมเรา ปั่นเราอย่างนี้ ไม่ครับ ผมว่าอยู่ๆ ก็มารักกัน ผมว่าเด็กคนนี้มันเจ๋ง ผมชอบตรงนี้

เรียกได้ว่าเคลียร์ใจกันทุกประเด็นคำถามจริงๆเลยนะคะสำหรับ​ ทิดสมปอง​ และ​ ทิดไพร​วัลย์​ อย่างไรก็ตามหากใครเป็นแฟนคลับของทั้งสองคน​ ก็อย่าลืมไปติดตาม​ และให้กำลังใจทั้งสองคนกันได้นะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
หนุ่ม กรรชัย ยันไม่ได้เข้าข้างใคร