เรียกว่ายังคงเป็นข่าวร้อนให้ได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง กับกรณีการออกมาเปิดเผย เรื่องราวในอดีตที่เลวร้ายที่ได้เจอมาของ เกรซ ชลิตา และ พระเอกหนุ่ม พอร์ช ศรัณย์ ซึ่งเรื่องราวมันเริ่มมาจาก เกรซ ที่ออกมาโพสต์เตือน ดาราชาย ให้หยุดสร้างภาพ และเลิกใส่ร้ายเธอสักที
ด้านของ พอร์ช เอง ก็ถูกมองว่าเป็น ดาราชาย คนนั้นหรือเปล่า เมื่อชาวเน็ตคอมเมนต์กันหนักขึ้น เรื่องราวก็บานปลาย เจ้าตัวจึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด แต่ไม่ได้ได้แจ้งความแฟนเก่า เพราะไม่ได้มีการเอ่ยชื่อหรือบ่งชี้ถึงตน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากันแน่นอน
หลังจากนั้น เกรซ ก็ออกมาโพสต์ข้อความต่ออีกว่า เธอเองอดทนโดนแฟนเก่า นอกใจ ทำร้ายร่างกายอย่างสาหัส บาดเจ็บทั้งกาย ทั้งใจ ซึ่งเธอยังจดจำเรื่องราวร้ายๆนั้นได้อย่างดี เพราะสิ่งที่ได้เจอมันเป็นปมในใจ
ข่าวนี้ก็เหมือนจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะฝั่ง พอร์ช ก็ออกมาโพสต์ภาพ ข้อมือที่มีแผลเป็น พร้อมแคปชั่นทำนองว่า ตนเองไม่คิดจะออกมาพูดว่าแผลเป็นนี้เกิดมาจากอะไร เพราะเป็นลูกผู้ชายพอ เชื่อว่าความรักที่จบลงแล้วย่อมสวยงามเสมอ พร้อมฝากบอกคนที่พยายามปั่นเรื่องนี้ระวังกรรมตามสนอง แต่ที่หลายคนสงสัยคือแฮชแท็กที่ พอร์ช ลงว่า ความจริงเมื่อปีที่แล้ว หมายความว่าอย่างไร เพราะ พอร์ช และ เกรซ เลิกลากันไปนานกว่า 5 ปีแล้ว ทำไมเพิ่งออกมพูดเรื่องนี้
ต่อมา เมื่อวานนี้ (20 เม.ย 64) พอร์ช ก็ได้โพสต์เอกสารที่ไปลงบันทึกประจำวันไว้ แต่เอกสารนี้ ได้มีการลงบันทึกไว้ตั้งแต่ เดือนมีนาคม ปี 63 แล้ว โดยแคปชั่นของภาพนี้คือ
“1ปีผ่านไป ผมปล่อยผ่านทุกอย่าง ไม่เคยพาดพิงใครให้เสียหาย แต่สำหรับบางคน ไม่ยอมจบ ตัวเองไม่กล้าออกหน้า ก็ไปปั่นคนอื่นออกมา ให้โดนคดีแทน ผมบอกเลยคุณก็ไม่รอด จบในศาลแล้วกัน คนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะคุณ ภาพและเสียงครบ ความจิงเมื่อปีที่แล้ว”
ไม่นาน เกรซ ก็เคลื่อนไหวในอินสตาแกรมอีก เป็นข้อความพร้อมภาพบางแผล ที่ตนเองโดนทำร้าย โดยเธอยื่นยันว่า การออกมาพูดนี้สมัครใจที่จะออกมาพูดเอง ไม่ได้มีใครคิดแทน ภาพที่เห็นคือส่วนหนึ่งเท่านั้นที่โดนทำร้ายร่างกาย ที่ผ่านมาอับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่คิดจะพูดถึงอีก แต่ที่ต้องออกมาพูดเพราะอยากจะให้ผู้หญิงที่เจอแบบตน กล้าที่จะออกมาจากเรื่องแย่ๆ
ไม่จบเพียงเท่านี้ ล่าสุด พอร์ช ศรัณย์ ก็ออกมาโพสต์ภาพลงไอจีอีกครั้ง เป็นภาพที่ตนเองยืนอยู่ที่หน้า สถานีตำรวจ ถือเอกสารแจ้งความพร้อมแคปชั่นว่า
“ผมไม่เคยร้ายใส่ใครก่อน ถ้าวันหนึ่งผมต้องร้าย ขอให้รู้ไว้ว่า ผมไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม บาดแผลที่คุณทำกับผม เส้นเอ็นนิ้วขาด 2 เส้น ยังใช้การเหมือนเดิมไม่ได้ ทำร้ายร่างกายสะใจไม่พออีกหรอ ยังไปปั่นหัวคนอื่นให้มาเกลียดผมอีก จะทำร้ายจิตใจกันไปถึงไหน ถ้าหยุดได้ก็ขอให้หยุดนะ ไม่อยากพากันไปไกลมากกว่านี้ เจ็บกันมามากพอแล้ว ไม่มีใครอยากขึ้นศาลถ้าไม่จำเป็น ขอบคุณที่เข้าใจนะครับ ฝากไว้ให้คนที่ชอบปั่น ความจริงเมื่อปีที่แล้ว”
งานนี้ไม่รู้ว่าการออกมาเปิดเรื่องราวของทั้งสองคนนี้จะจบลงที่ตรงไหนและเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่ที่แน่ๆเรื่องนี้น่าจะต้องติดตามกันต่อยาวๆ