ฟลุค จิระ ผุด Home isolation มอบถุงยังชีพ ช่วยผู้ป่วยรักษาตัวที่บ้าน

ฟลุค จิระ ร่วมใจกับ รพ. ผุดโครงการ Home isolation มอบถุงยังชีพช่วย ผู้ปวยโควิด ที่ต้องรักษาตัวที่บ้าน 1,000 ถุง ด้านเพื่อนสนิทร่วมสมทบทุนเพียบ

เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิง ที่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ ผู้ป่วยโควิด19 ในครั้ง สำหรับหนุ่ม ฟลุค จิระ ที่ล่าสุดก็ได้ร่วมมือร่วมใจกับ โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ เพื่อทำโครงการ Home isolation ด้วยการรับบริจาคเงินหรือสิ่งของ ทำถุงยังชีพจำนวน 1,000 ถุง เพื่อมอบให้ผู้ป่วยได้รับยาเร็ว รักษาเร็ว โดยมีวิธีการคือ ตรวจและจ่ายยาเลย สำหรับคน rapid positive ไปรักษาตัวที่บ้าน เนื่องจากปัญหาเตียงที่โรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม หลายแห่งเริ่มไม่เพียงพอ

ล่าสุดตอนนี้คนมาบริจาคเยอะ จนต้องปิดรับบริจาคแล้ว ซึ่งใครที่ไม่ทันร่วมสมทบทุนรอบแรก รอบสองยังมีอีกแน่นอน โดยหนุ่ม ฟลุค ได้พูดถึงโครงการนี้ว่า

“เป็นการร่วมบุญกันของตัวผมกับเพื่อนๆ เกิดจากที่ผมเคยไปช่วยโรงพยาบาลนี้แถวหนองจอก ซึ่งโรงพยาบาลนี้ช่วยเรื่อง ผ้าห่ม สำหรับผู้ป่วยตามโรงพยาบาลสนามที่อยู่สนามกีฬาบางกอกอารีนา ข้างๆโรงพยาบาลครับ จนคราวนี้โรงพยาบาลมีอะไรที่ต้องการก็จะส่งเรื่องเข้ามา เผื่อเราอยากจะทำบุญ อย่างตอนนี้มีเรื่องห้องแรงดันลบ ที่เคยช่วยเขาไป ซึ่งตอนนี้เขาก็ส่งเรื่องเข้ามา เพราะผู้ป่วยฉุกเฉินเริ่มไม่มีที่อยู่ ต้องใช้บริเวณลานจอดรถเป็นห้องแรงดันฉุกเฉิน ก็ต้องใช้เงิน ผมก็ระดมเงินจากเพื่อนฝูง โพสต์เฟซบุ๊กบ้าง ทีนี้พอผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ทำให้โรงพยาบาลมีพื้นที่ไม่เพียงพอ ไปโรงพยาบาลสนามก็เต็ม จนเป็นที่มาของโครงการ Home Isolation ที่ผมกับเพื่อน รวบรวมเงินสร้างกันขึ้นมาครับ

โดยโครงการ Home Isolation คือเป็นผู้ป่วยที่มาตรวจแล้วพบเชื้อจากการ Rapid Test ไม่ต้องถึง Swab หากพบปุ๊ป ให้ยา ให้ถุงยังชีพกลับไปที่บ้านเลย โดยในถุงจะมียา เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด ถุงขยะติดเชื้อ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และอุปกรณ์ยังชีพ เราทำโครงการนี้เริ่มต้นที่ 1,000 ถุง ก็เลยเริ่มรวบรวมเงิน ปรากฏว่าได้มาไวมากเลย คนมาช่วยกันเยอะมากจนเราต้องรีบปิด บอกว่าไม่ต้องสมทบแล้วนะ เดี๋ยวที่เหลือผมจ่ายเอง เพราะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวผมไม่ได้จ่ายอะไรเลย แล้วจะกลายเป็นเกิน แล้วถ้าเกิน ผมก็ต้องไปหาที่ลงอีก ว่าจะซื้ออะไรต่ออีก ซึ่งมันผิดเจตนารมณ์คนที่เขาสมทบ เขาอยากสมทบเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นคือเงินห้ามเกิน แล้วถ้าเงินขาดเราจะเป็นคนสมทบเอง

ซึ่งต่อไปจะมีเปิดรับให้ร่วมสมทบทุนอีกแน่นอนครับ ถ้าเปิดอีกรอบผมจะเปิดบัญชีใหม่ เพราะว่าดูแล้วมันไม่มีทางพอ เราให้ได้แค่ 1,000 ถุงเองนะ แล้วเขาติดกันทั้งประเทศเป็นเกือบสองหมื่นคนต่อวัน มันไม่มีทางพออยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่เราทำมันเป็นแค่จุดเล็กๆ พอช่วยคนได้บางกลุ่มเท่านั้นเอง ส่วนตัวผมที่มีครอบครัวแล้ว มีลูกแล้ว เราก็ไม่ได้ลุยทำบุญเหมือนเมื่อก่อน ที่แบบว่าขึ้นเขา ลงห้วย ไปช่วยคน ตอนนี้เรามีความเป็นห่วงตัวเองมากขึ้น อย่างที่บอกเรามีลูกแล้ว ยิ่งสถานการณ์โรคระบาดตอนนี้มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราเอาตัวเราเข้าไปเสี่ยง ผมก็อาจจะทำให้ลูกผมทั้งสองคนมาเสี่ยงด้วยอีก ผมเลยตัดสินใจว่า เราช่วยเป็นทางนี้ดีกว่า เรารวบรวมเงิน เราทำอยู่ห่างๆ ช่วยอยู่ห่างๆ แบบนี้ดีกว่า”

นอกจากนี้หนุ่ม ฟลุค ยังได้เผยถึงชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวในช่วงนี้ด้วยว่ามีความเครียดบ้าง เพราะวิถีในการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป โดยเจ้าตัวบอกว่า

“ทุกคนเวลาอยู่บ้านนานๆ มันเครียดอยู่แล้วแหละ วิถีชีวิตมันถูกทำลาย เมื่อก่อนออกจากบ้านทุกวัน การที่อยู่บ้านต้องไม่มีอะไรทำ ต้องว่างจริงๆถึงจะอยู่บ้าน แต่ตอนนี้มันเปลื่ยนไป ก็คือทุกวันที่เราตื่นมา เราต้องคิดว่า วันนี้เราจะทำอะไร สำหรับคนที่ไม่มีงาน ยิ่งไม่รู้ว่าจะทำอะไร อย่างเรา เรายังคิดว่าวันนี้เราจะทำอะไร แต่สำหรับบางคนที่ไม่มีงานทำเลย ตื่นมาแล้วไม่มีอะไรเลย ผมว่าเขาต้องเครียดมาก ส่วนวิธีการคลายเครียดของผมก็คือ ท่ามกลางความเครียดนั้น เราจะต้องพยายามหาความสุขให้เจอ อย่างความสุขที่เราหาเจอในบ้านของผมก็คือลูกๆ การที่ผมได้ใช้เวลากับลูก ผมมีความสุขมาก ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่เราไม่มีละครถ่าย ยิ่งมีความสุขมากเลย เพราะว่าเราได้อยู่กับลูกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่เขาตื่น เขากิน จนเขาหลับ”

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการ และเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้น เพราะไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรในประเทศไทย เราก็มักจะเห็นประชาชนคนไทย เจ้าหน้าที่ต่างๆ รวมถึงศิลปิน ดารา คอยออกมาอาสาช่วยเหลือคนไทยด้วยกันอยู่ตลอด และครั้งนี้ถือว่าเป็นวิกฤตที่ร้ายแรงที่ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะหมดไปในเร็ววัน แบบนี้เรายิ่งต้องช่วยกัน เริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุดคือ การช่วยด้วยการดูแลตัวเองดีๆ ไม่จำเป็นไม่ควรออกนอกบ้าน แต่ถ้าจะต้องไปไหนมาไหนจริงๆก็ต้องระมัดระวัง สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา พกแอลกอฮอล์ล้างมืออยู่ตลอด เริ่มต้นง่ายๆที่ตัวเราก่อนได้ค่ะ เพื่อช่วยให้ประเทศไทยของเรากลับมาใช้ชีวิตปกติได้ในเร็ววันนะคะ