มด ณปภัช อัปเดตชีวิตหลังผันตัวเป็นแอร์โฮสเตส เต็มตัว พร้อมเผยสถานะหัวใจ

มด ณปภัช เผย ยังไม่พร้อมรับงานในวงการ ขอทำหน้าที่บริการอย่างเต็มที่ หลังผันเป็น แอร์โฮสเตส เต็มตัว

ห่างหายหายจากวงการไปนาน สำหรับอดีตนักร้องดังยุค 90 มด ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ จากนักร้องดังสู่การผันตัวเป็นพนักงานตอนรับบนเครื่องบิน ล่าสุดก็ได้มาเผยเรื่องราวชีวิต ผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์ หลังตัดสินใจหันหลังให้กับวงการบันเทิง พร้อมเผยสถานะหัวใจกับสจ๊วตหนุ่ม ทิว ธันว์ตรี

ตั้งแต่ไปเป็นแอร์ประมาณ 3-4 ปี คือไม่ได้ออกทีวีเลยเพราะว่ามันเหนื่อยเพราะเราออกรายการร้องเพลงตั้งแต่เด็กเริ่มเข้ามาตั้งแต่อายุ 12 ที่เราเข้ามาเป็นนักร้องตอนนั้นเราได้จอยกับชีวิตได้ทำอะไรที่เราไม่เคยทำได้เป็นนักร้องสนุกๆเราก็เลยทำเพราะตอนนั้นเราชอบการแสดงออก ชอบเต้น ชอบร้องเพลง เพราะว่าเรารู้สึกสนุกเนอะถึงแม้ตอนนั้นเรายังไม่ค่อยรู้เท่าไหร่แต่มันคือสนุกแค่นั้นเองค่ะ

พร้อมเผยเหตุที่ตัดสินใจหันหลังให้กับวงการบันเทิงว่า “จริงๆจุดที่เราตัดสินใจคือเราตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจมาเป็นแอร์แม่เขาพูดขึ้นมาค่ะ ว่าลองไปสมัครแอร์ไหม ตอนนั้นเราก็ตกใจว่าทำไมแม่ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาแต่เราก็ทำเป็นหูทวนลมแม่พูดอะไรมาก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเพราะว่าเราเป็นคนหนึ่งถ้าเราอยากทำอะไรเราอยากที่จะตัดสินใจด้วยตัวเราเอง เพราะเราต้องอยากทำก่อนเราถึงจะทำอะไรทุกอย่างได้ดีเราเลยรู้สึกว่ายังไม่แล้วกันเราก็ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของแม่ไปเลย เพราะว่าเรายังใส่ใจกับผลงานในวงการเพลงแล้วก็มีละครเข้ามาด้วยตอนนั้น

พอเวลาผ่านไป 1 ปี อยู่ดีๆตอนนั้นว่าเราอยากจะหาอะไรที่มั่นคงกับชีวิตเลยลองปรึกษารุ่นพี่ที่เป็นแอร์อยู่แล้วว่าเราต้องทำยังเพราะเราไม่เข้าใจว่าชีวิตการสมัครงานคืออะไรเราไม่รู้ เราไม่เข้าใจเลยว่าเราต้องทำอะไรบ้างเราต้องเตรียมอะไรบ้าง พอดีเลยที่เราโทรไปหารุ่นพี่คนเดียวเขาก็บอกเราว่าพอดีเลยตอนนี้ที่แอร์เอเชียเปิดรับสมัครอยู่ให้เราไปสมัครเลย

งานนี้เจ้าตัวก็ได้เผยสถานะหัวใจ อีกทั้งเคลียร์เรื่องแหวนนิ้วนางข้างซ้าย ว่า “พอเราเข้าไปแล้วเวลาเราเทรนด์เราก็เทรนด์กันเป็นกลุ่มเราก็เจอเขาตอนแรกที่เราเจอคือ สภาพคือเพื่อนกันค่ะ จนเราสนิทกันมากขึ้นรู้จักกันมากขึ้นความชอบคล้ายกัน กิจกรรมที่เราทำคล้ายกัน นิสัยคล้ายกันเราเลยคลิก แล้วเขาก็ตรงสเปกเราด้วย

ทิว ไปเจอแม่แล้วเป็นจังหวะที่เรายังไม่ได้บอกแม่ด้วยว่าเราคุยกันอยู่นะ แต่เป็นจังหวะที่เราไปเทรนด์กลับมาแล้ว ทิว เขาก็ยืนรอเป็นเพื่อน มด เพราะรอคุณแม่มารับพอเราขึ้นรถไปแม่ก็ไม่ได้ถามอะไรเลย แต่พอเรามารู้ทีหลังคือแม่รู้ตั้งแต่วันนั้นแล้วว่าคือคุยกันอยู่แน่นอน แล้วแม่เขาก็โอเคตั้งแต่วันนั้นแล้ว

อันนี้เป็นแหวนแทนใจคบกันมาก็ 2-3 ปีแล้ว ถามว่าคิดเรื่องแต่งงานไหมจริงๆแล้ว มด กับ ทิว ตั้งแต่ตอนแรกที่คุยกันก็คุยกันว่าเราก็โตๆกันแล้วเนอะ เราไม่ใช่เด็กๆที่คบกันแล้วไม่มีจุดหมาย เราก็ได้คุยว่าจุดหมายของเราคืออะไร เรามองอนาคตด้วยกันไหมเราก็มองอนาคตร่วมกัน ก็คิดว่าอาจจะแต่งงานอยู่ด้วยกันแต่เราไม่รีบนะคะ เมื่อไหร่เมื่อนั้น (หัวเราะ) เอาให้เขารู้สึกว่าเขาพร้อมก่อนไม่อยากไปเร่งอะไรเขา