รัศมีแข-มดดำ ขึ้นศาลตามนัด กรณี ไฮโซแชมป์ ฟ้องหมิ่นประมาท

รัศมีแข พร้อมพิธีกรชื่อดัง มดดำ คชาภา เดินทางมาศาลอาญาเพื่อเข้าไต่สวนคดีความ กรณีถูกไฮโซชื่อดัง แชมป์ จิรัฏฐ์ ฟ้องหมิ่นประมาท

จากกรณีดาราดัง รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ถูก ไฮโซแชมป์ จิรัฏฐ์ ทำร้ายร่างกายในผับตั้งแต่ปี 2563 ทำให้ทาง รัศมีแข ฟ้องอีกฝ่ายในคดีทำร้ายร่างกาย โดยทางพิธีกรชื่อดัง มดดำ คชาภา ก็ได้อ่านข่าวนี้ และมีการพูดพาดพิงถึงอีกฝ่ายผ่านรายการ ทำให้ทาง ไฮโซแชมป์ ยื่นฟ้องกลับทั้งคู่ในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งวันนี้ (14 ก.พ. 2565) รัศมีแข และ มดดำ ได้เดินทางมาขึ้นศาลอาญาตามนัดเพื่อเข้าไต่สวนในคดีหมิ่นประมาท

โดย นายไพศิษฐ์ ชาครานนท์ ทนายความได้เผยว่า “วันนี้เรามาเพราะศาลท่านให้มาไกล่เกลี่ยกัน คดีนี้เกิดขึ้นจากการที่เขาฟ้องนัดแรกเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 มาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นตัวทางทนายและโจทก์เองขอเลื่อน คดีนี้ขอเลื่อนมาครั้งหนึ่ง มันก็มีการเลื่อนด้วยตามคำสั่งศาลด้วยระเบียบของโควิด จนมาเป็นวันนี้ 14 กุมภาพันธ์ 2565 แล้วในวันนั้นที่ศาลท่านเลื่อนท่านได้กำชับว่าอยากให้ทุกคนมาวันนี้เพื่อเจตนาจะให้ไกล่เกลี่ยกัน เพราะศาลท่านมองว่ามันเป็นคดีที่คุยกันได้ ตัวผมเองแล้วก็ทางทนายของคุณมดดำเองเราก็เชิญทั้งแขมา แล้วก็คุณมดดำมา เพื่อที่จะมาศาล ตามที่ศาลท่านอยากให้มา ทางเราก็มาด้วยเจตนาที่ดีและอยากคุยกันจริงๆ แต่ท้ายที่สุดคือไม่เจอเหมือนเดิม ขอเลื่อนเหมือนเดิม ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว จริงๆ แล้วถามว่าผมคัดค้านไหม ผมคัดค้าน แต่ศาลท่านมองว่าถ้าเป็นอย่างนี้ก็นัดให้ไวขึ้นหน่อย ครั้งต่อไปก็เป็นวันที่ 25 เมษายน 2565 โดยต้องเรียนอย่างนี้ว่าฝั่งคู่กรณีถ้าพูดถึงโจทย์นะเท่าที่ทราบคือผมไม่รู้ว่าเขากลับมาจากต่างประเทศหรือยัง แล้วในส่วนของคดีอาญาที่ทางผมเองฟ้องอยู่ที่แขวงพัทยา แล้วก็ที่อัยการฟ้อง ที่ผมทราบตอนนี้ก็มีการออกหมายจับอยู่ด้วย กับคดีนี้ที่เป็นหมิ่นประมาทก็ต้องแยกกัน สำหรับวันนี้ท้ายที่สุดก็คือไม่ได้คุยกัน จริงๆ แล้วต้องบอกก่อนว่าการไกล่เกลี่ยมันเกิดขึ้นได้ตลอดอยู่ในศาลก็ได้ นอกศาลก็ไกล่เกลี่ยได้ ทางเราเองไม่ได้รับการติดต่อมามากกว่า ถ้าได้รับการติดต่อเราก็ยินดีคุยกับเขาอยู่แล้ว แต่ ณ วันนี้ก็คงยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ”

ด้าน รัศมีแข กล่าวถึงความรู้สึกในตอนนี้ว่า “เอาจริงๆ เรามีความรู้สึกว่าภูมิใจในตัวเอง ตั้งแต่เราโตขึ้นมา เราไปเรียนอยู่ต่างประเทศ การศึกษาทุกอย่างที่เราได้รับมันส่งให้เรามองตัวเราเองว่าเราเป็นคนที่คู่ควรที่จะอยู่ในสังคม แล้วก็อีกหนึ่งความภูมิใจก็คือการที่ได้เป็นลุง เป็นน้า เป็นหลาน ถามว่าหน้าที่ตรงนี้คืออะไร คือเราทำตามทุกอย่างตามที่กฎหมายได้ระบุไว้ เราทำหน้าที่ของเราแม้กระทั่งตัวเราจะโดนฟ้องร้องเองก็ตามแต่เราก็มาเพื่อที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ เพราะนั่นคือหน้าที่ของเรา สำหรับแขแล้วทำผิดหรือว่าทำถูกทุกคนต้องรับผิดชอบในตรงนั้นด้วย

กับคดีหมิ่นประมาทตรงนี้อยากจะให้มันเป็นอย่างไร ทาง รัศมีแข เผยว่า “ต้องปรึกษาทนาย เพราะอย่างที่บอกว่าแขไม่ได้อยู่เมืองไทย แขไม่รู้ ว่าระบบการจัดการที่นี่ทำอย่างไร เพราะการมาศาลทุกครั้งของแข ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องคดีของแขที่เคยเกิดขึ้น อันนี้ขอบอกตรงๆ เลย สมองแขจะคิดในระบบว่าที่สวีเดนเป็นแบบนี้ แล้วแขเลยคิดว่าที่นี่ก็น่าจะประมาณนี้ กับทางพี่มดดำวันนี้ก็ได้คุยกัน ที่เหลือก็ให้เป็นหน้าที่ของทางทนายหมด ทางพี่มดดำก็ไม่เครียด เราก็ต่างฝ่ายต่างคุยกัน ก็บอกว่าเราทำหน้าที่ของเราในส่วนที่มันจะเป็น ศาลเรียกเราก็มา แล้วเดี๋ยวครั้งหน้าต่อไปจะเป็นอย่างไร ก็ให้เป็นตามขบวนการไป แต่ขอบอกก่อนว่าถ้ายิ่งยื้อตัวเลขยิ่งขึ้น”

ด้านทนายกล่าวเสริมว่า “จริงๆ แล้วเรื่องการเรียกค่าเสียหายเราก็เรียกได้ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องอยู่ที่ศาล ในคดีนี้ทาง คุณมดดำ เป็นจำเลยที่ 1 คุณรัศมีแข เป็นจำเลยที่ 2 คราวนี้ในส่วนของค่าเสียหายเขาไม่ได้เรียก เขาเรียกในส่วนของ ว่าให้ลงโฆษณา ขอโทษผ่านสื่อ ก็จะมีอยู่แค่นั้น ท้ายที่สุดถ้าเราคุยกันไม่ได้ในคดีนี้ก็ให้เป็นตามกระบวนการกันต่อไป สืบพยาน สู้คดีกันต่อไปตามหลักกฏหมาย ถ้าครั้งหน้าเขาไม่มาอีก ศาลท่านมองว่าต้องกำชับแล้ว กำชับว่าถ้านัดหน้าไม่มาก็คงต้องสั่งจำหน่ายคดี ยกฟ้องไปเลย”

ในส่วนคดีของการทำร้ายร่างกายทาง รัศมีแข กล่าวว่า “อย่างที่บอกว่าจริงๆ แล้วเราอยู่ในประเทศที่มีกฎหมาย แล้วกฎหมายก็คุ้มครองสิทธิ์ของเรา กับสิ่งที่แขสูญเสียไปคนบอกว่าหน้าแขอาจจะไม่เป็นอะไร แต่ความรู้สึกของแขข้างใน ใครรักษาได้บ้าง อันนี้นั่นแหละที่มันมีมูลค่ามากที่สุด”

คลิปอีจันแนะนำ
เจนี่ อัปเดตคดีคนบูลลี่ลูกสาว