ยังคงเป็นข่าวที่สะเทือนใจครอบครัว รวมถึงแฟนคลับ ของอดีตดาราดังยุค 90 อย่าง ไมเคิล พูพาร์ต ที่ได้ตัดสินใจยิงตัวเอง เสียชีวิต ในห้องพัก เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้วันที่ 17 ม.ค. น้องชายอย่าง ศุภกร วาสนารุ่งกิจ ได้เป็นคนไปรับร่างไร้วิญญาณของพี่ชาย ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยในวันนั้น ทางน้องชายได้มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า พี่ชายนั้นเป็นโรคซึมเศร้ามา 2 ปีแล้ว และได้กลับมารักษาตัวที่กรุงเทพได้ประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งตนเองคิดว่าการที่พี่ชายตัดสินใจทำแบบนี้อาจจะเป็นเพราะมีปัญหากับ แฟนสาว ที่คบกันมานาน 20 ปี
อย่างไรก็ดี ในงานรดน้ำศพวันแรก อั๋น โอลิเวอร์ ก็ได้เปิดใจกับสื่อทั้งน้ำตาถึงพี่ชายเช่นกัน ว่า พี่ชายป่วยเป็นซึมเศร้าจริง และที่ผ่านมาก็ให้กำลังกันใจมาตลอด เชื่อว่าพี่ชายหมดห่วงแล้ว ส่วนตัวไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตของพี่ชาย ส่วนในเรื่องของการทะเลาะกับแฟนนั้น ตนเองคิดว่าเป็นเรื่องเซนซิทีฟ ไม่คิดจะโทษใครทั้งสิ้น แต่อยากให้แฟนของพี่ชายมากราบศพพี่ชายของตนเป็นครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ดี ล่าสุด 18 ม.ค. ทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้มีการสัมภาษณ์ คุณเอ็ม หรือที่ ไมเคิล เรียกว่า แพร แฟนสาวของ ไมเคิล พูพาร์ต ซึ่งเป็นคุณแม่ของนักร้องนักแสดงหนุ่ม บาส สุรเดช ที่หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของ ไมเคิล ก็ได้ออกมาโพสต์ไว้อาลัยต่อการจากไป พร้อมทั้งเปิดใจกับทางรายการว่า รู้จักกันนานกว่า 20 ปีแล้ว และเพิ่งห่างกันเมื่อ 5-6 เดือนที่ผ่านมา ตอนที่เขาป่วยตนเองก็เป็นคนดูแลมาตลอด และได้พา ไมเคิล ไปรักษาที่โรงพยาบาลที่เชียงใหม่ ซึ่งมีประวัติในการรักษาอยู่ที่นั่น
ทั้งนี้ เป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน ทำให้ตัวเองและลูกขับรถย้ายกลับเชียงใหม่ และที่ผ่านมามีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ตลอด ตนทราบดีว่า ไมเคิล อยากกลับมาเป็นเหมือนเดิม
โดยในการพูดคุยครั้งสุดท้ายคือ ตั้งแต่ 6 โมง ของวันที่ 15 ม.ค. จนถึง 4 ทุ่ม ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งของจังหวะการคุยเหมือน ไมเคิล มีอารมณ์โมโห เธอก็เลยบอกว่าอย่าทำอย่างนั้น สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะไม่คุย และทาง ไมเคิล ก็ส่งคลิปเสียงมา ซึ่งตอนนั้นเธอไม่ได้เปิดฟัง แต่มาเปิดฟังทีหลัง เหมือนเป็นการพูด สั่งลา ครั้งสุดท้าย ว่า
“หากชาติหน้ามีจริง หวังว่าเราจะได้พบกันอีก จำไว้นะครับว่าผมรักคุณจนสุดหัวใจ ถึงแม้มันจะมีผิดพลาดไปในชีวิตนี้ มันจะเป็นเรื่องของในอดีตแล้วและไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ แต่ในภพภายหน้าหวังว่า แพร คงจะรู้สึกเหมือนกันกับผม ขอให้เรามาเจอะเจอกันและประสบความสำเร็จในชีวิตคู่กันในภายภพหน้านะครับ เพราะต่างคนต่างรักกันมาก ก็พรรณนามาเยอะแยะแล้ว ผมจะจบแต่เพียงเท่านี้แหละ
อยากจะบอกเป็นประโยคสุดท้ายว่า ลาก่อนนะครับที่รัก รักคุณจนสุดหัวใจ ขาดคุณไม่ได้ในชีวิต และอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าไม่มีคุณในชีวิต คิดแต่สิ่งดี ๆ ให้ผม ให้ผมหลุดพ้นจากความทุกข์ ขอบคุณครับ ผมลาแต่เพียงเท่านี้แหละ”
ทั้งนี้ คุณเอ็ม ยังบอกอีกว่า คาดว่า ไมเคิล น่าจะตัดสินใจจบชีวิตในวันนั้นหลังจากวางสายกันไปตอน 4 ทุ่ม เธอยังบอกอีกว่า ช่วงตี 3 หมาที่บ้านเห่าแล้วก็มีเสียงดังก๊อกแก๊กในบ้าน จนถึงตอนนี้ตนเองไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะว่าพี่เขาก็เสียไปแล้ว ถ้าพูดไปก็ไม่ดีกับคนที่เสียไป พี่โอ๋กับเอ็ม รู้ดีที่สุด ดังนั้นก็ขอเก็บสิ่งดีๆเอาไว้ดีกว่า จริงๆก็เสียใจมาก ทำใจมาเกือบ 3 ปี ก็ร้องไห้ทุกวัน ตั้งแต่ ไมเคิล เปลี่ยนไป ถามคำตอบคำ เวลานอนด้วยกันก็หันหลังให้ เธอยอมรับว่าเธออาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ไมเคิล ตัดสินใจแบบนี้ เพราะว่า ไมเคิล อยากจะกลับมาอยู่กับเธอ แต่ว่าเขาก็ตัดสินใจไปแล้วว่าเขาจะไปอยู่ตรงโน้น ชีวิตของตน ตนก็ตัดสินใจว่าจะเลิกกันแล้ว ส่วนเรื่องที่เลิกกันเพราะมือที่สามหรือไม่ เธอก็บอกว่าไม่อยากจะพูดอะไร เพราะคนที่เสียไปแล้ว ก็อโหสิกรรมไปแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่า เธอจะไปร่วมงานศพหรือไม่ ซึ่งจริงๆแล้วตนเองก็อยากจะไปร่วมงาน และกราบศพเป็นครั้งสุดท้าย แต่พอเป็นข่าวออกมาเธอก็กำลังคิดอยู่ว่าจะยังไงดี
งานนี้แอดเชื่อว่า การสูญเสียที่เกิดขึ้น ก็สร้างความเสียใจให้กับทุกๆฝ่าย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรคนที่เสียไปแล้วก็ได้จากไปอย่างสงบแล้ว เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้ ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป แอดขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวของพี่ ไมเคิล อีกครั้งนะคะ