ทำเอาเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง “แพร วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา”เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง VATANIKA เจ็บช้ำสุดๆเมื่อลูกน้องรวมหัวกันลักลอบนำสินค้า ไปขายในราคาต่ำมากๆ แถมยังขายของที่ทางแบรนด์ไม่ได้ผลิต แต่ไปติดป้ายแบรนด์ VATANIKA ไปขายให้กับลูกค้า โดยเงินโอนเข้ากระเป๋าตัวเอง ทำให้ทางบริษัทเกิดความเสียหายอย่างมาก
โดยวานนี้ ( 23 ก.พ. 64 ) แพร วทานิกา พร้อมทนายความส่วนตัว ดินทางเข้าแจ้งความที่สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีกับพนักงานบริษัทบางส่วนที่กระทำผิด
ซึ่ง แพร วทานิกา มีสีหน้าที่เศร้า พร้อมเปิดใจว่า “ เสียใจ เสียความรู้สึก เพราะก็คิดว่าเราก็ดูแลลูกน้องค่อนข้างดีและอยู่กันมานาน เราอยู่กันเหมือนครอบครัวด้วย เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ผิดหวัง ก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาความเชื่อใจ ความให้ใจที่เรามีให้มาตลอด และโอกาสดีๆ มาทำกัน ตอนแรกไม่คิดว่าเป็นเขา คิดว่าเขาต้องจำนนต่อหลักฐาน ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น จริงๆแล้วอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของบริษัทฯ ด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากมีการแอบอ้างชื่อแพร และมีลูกค้าหลายคนที่ได้รับข้อมูลที่บิดเบือน และเราคุยกับลูกค้าแต่ละคน เขาก็พูดกับแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย เลยรู้สึกว่าเราอยากจะออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง และให้กฎหมายเป็นตัวตัดสินของเรื่องนี้ ยังไม่ได้ยินคำขอโทษจากเขา เรื่องที่เกิดขึ้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือมันทำให้เราได้ระวังตัวมากขึ้น และทำระบบบริษัทฯ ให้รอบคอบมากกว่านี้ แต่ที่สำคัญที่สุดเลยมันทำให้เราต้องกลับมาคิดว่าในการที่เราจะให้ใจใครก็ต้องระวังให้ดีกว่านี้”
ด้านทนายได้เผยว่า “ กรณีนี้ลูกจ้างของบริษัทฯ กระทำความผิดอาญา ทางบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากลูกค้าที่ร้องเรียนมาว่า สินค้าที่ได้ซื้อจากบริษัทฯ เป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพทางบริษัทฯ ก็ขอให้ส่งสินค้ามาตรวจดู ก็พบว่าสินค้าไม่ได้ผลิตโดยบริษัทฯ แต่ว่ามีป้ายชื่อของ Vatanika เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ ติดอยู่ หลังจากนั้นก็มีลูกค้าบางรายได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าได้ซื้อสินค้าจากพนักงานของ บริษัทฯ ในราคาที่ต่ำกว่าปกติเป็นอย่างมาก และให้มีการโอนเงินเข้าบัญชีของลูกจ้างจึงต้องมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ได้ให้ลูกจ้างมาพูดคุย สอบถาม ซึ่งลูกจ้างทุกคนก็ยอมรับด้วยการจำนนต่อหลักฐาน มีหลักฐานการโอนเงินจากลูกค้าเข้ามายังบัญชีของลูกจ้าง แต่ลูกจ้างก็ไม่เคยมีการโอนเงินต่อให้กับบริษัท
มีความผิดที่ทำอยู่ชัดเจนอยู่สองประการ หนึ่งคือนำสินค้าที่ไม่ใช่ของบริษัทฯ ไปขายให้กับลูกค้า สองคือลักลอบเอาสินค้าของบริษัทฯ ออกไปขายในราคาที่ต่ำมาก ลูกจ้างทุกคนได้ทำหนังสือยอมรับสารภาพการกระทำความผิดที่ได้กระทำมาทั้งหมด วันนี้ผมกับคุณแพรมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อนำเอกสารเพิ่มเติมเหล่านี้มามอบให้กับพนักงานสอบสวน ซึ่งมีลูกจ้างที่กระทำผิดหลายคน ถามว่ามูลค่าการเสียหายเท่าที่ตรวจสอบหลักหลายล้าน
ความเสียหายที่ทางลูกจ้างเขาก่อขึ้นมามีความผิดอยู่สองส่วนนะครับ ส่วนที่หนึ่งคือทางอาญา ก็คือเป็นการกระทำลักทรัพย์ของนายจ้าง ซึ่งโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ส่วนที่สองเป็นส่วนเกี่ยวกับการละเมิดต่อนายจ้าง เอาสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพที่ไม่ได้ผลิตจากบริษัทฯ ไปขายแก่ลูกค้า ซึ่งในขณะที่เขากระทำความผิดเนี่ย เขามีฐานะเป็นลูกจ้างของบริษัทฯ ก็ถือว่าลูกจ้างละเมิดต่อนายจ้างในทางแพ่ง ซึ่งทางบริษัทฯ ก็มอบหมายให้ผมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งพอหลังจากที่เรารู้เหตุการณ์ย้อนขึ้นไปพบว่าเขาทำมา 2-3 ปีแล้ว มันสร้างความเสียหายอย่างมาก ความผิดที่เราแจ้งความนี้มันเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ครับ มันต้องเดินไปถึงที่สุดอยู่แล้ว ส่วนพนักงานพ้นสภาพหมดเลยไหม อันนี้ไม่ขอตอบนะครับ มันหมิ่นเหม่ต่อเรื่องกฎหมาย “
ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทำเอาไฮโซสาว แพร วทานิกา ยิ้มไม่ออกเลยทีเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนในเรื่องของคดีก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจต่อไป สุดท้ายแล้วผู้กระทำก็ต้องได้รับโทษนั่นเอง