หรั่ง ซิลลี่ฟูลส์ ขอพูดถึง โต วีรชน ลั่นขอถอนคำพูดที่ไม่ดี

หรั่ง ซิลลี่ฟูลส์ ขอพูดถึง โต วีรชน ลั่นขอถอนคำพูดที่ไม่ดี ขออโหสิกรรม รับอยากให้เรื่องจบ

เชื่อว่าถ้าใครเป็นแฟนคลับ แฟนเพลงของ วง ซิลลี่ฟูลส์ ก็พอจะทราบดีว่า เมื่อก่อนนี้เพลงชอบวงนี้โด่งดังมากๆ เรียกว่าวัยรุ่นยุค 90 นี่ร้องได้เกือบทุกเพลง ต่อมาในช่วงปี 2547 ซิลลี่ ฟูลส์ ออกอัลบั้ม King Size ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าจะเป็นอัลบั้มสุดท้ายที่มี โต วีรชน เป็นนักร้องนำ

อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2549 ได้เกิดเหตุฟ้าผ่ากลางใจแฟนเพลง โต ประกาศแยกทางกับวง ซิลลี่ ฟูลส์ ในขณะที่วงกำลังเป็นที่นิยมอันดับต้นๆของเมืองไทยในเวลานั้นอีกด้วย

โต ให้เหตุผลว่า การไปเล่นตามผับ สถานบันเทิง รวมไปถึงการโฆษณาสินค้าบางอย่างนั้นผิดกับอุดมการณ์และศาสนา เมื่อนักร้องนำไม่สะดวกใจ สมาชิก 3 คนที่เหลือนั้นเป็นฝ่ายโหวตให้ โต ออกจากวง แต่ยืนยันว่าการแยกทางครั้งนั้นไม่ได้มาจากการผิดใจหรือการทะเลาะกัน

ทั้งนี้เวลาผ่านไปกว่า 15 ปีแล้วล่าสุด หรั่ง มือเบส ซิลลี่ฟูลส์ ได้ออกมาพูดถึง โต อีกครั้ง ในไฟล์สดเฟซบุ๊กของตัวเอง โดย หรั่ง เผยว่า

“ขอพูดอะไรซักอย่างนึง ขอพูดถึงไอ้ โต นะ โต วันนี้มันเหมือนเพลงนี้แหล่ะ ชื่อเพลงว่าแพ้ความอ่อนแอ ทุกวันที่ผ่านมาที่กูไม่มีมึง เหมือนที่กูเล่าตั้งแต่ตอนแรกพวกกูเป็นหัวหมา ก็เดินไม่รู้ทิศรู้ทาง มาจนถึงทุกวันนี้ ล้มบ้างลุกบ้าง วันนี้กูมีความอิสระแล้ว กูจะไม่จองเวรจองกรรมกับมึงแล้ว ขอให้มึงมีความสุขกับชีวิตมึงนะ กูก็จะเดินในทางใหม่ของพวกกูทั้งหมด กูไม่คิดว่ากูจะได้มา แต่วันนี้กูได้ สิ่งที่มึงทำกับกูหรือกูทำกับมึง กูจะ ขอโหสิกรรม ให้มึงหมด กูจะไม่จองล้างจองผลาญมึง เหมือนที่กูเคยพูดไว้ว่ากูจะจองล้างจองผลาญมึง กูขอถอนคำพูด กูขอเลิกคำ นี้ ขอให้มีชีวิตที่ดีนะเพื่อน ขอทางให้กูได้เดินบ้าง ขอให้ทุกคนโชคดี ไอ้โตก็ขายเนื้อดีอยู่แล้ว อันนี้อยากพูดให้แฟนเพลงเข้าใจ อยากให้มันจบๆไป”

“ขอพูดถึง Hangman ด้วยแล้วกัน น้องทุกคนที่กำลังเริ่มทำ ที่ตามรอยตรงนี้อยู่ก็ขอให้ประสบความสำเร็จ ไปในทางที่ตัวเองอยากได้ โดยที่ไม่มีไอ้ โต ร้องแล้วก็ไปทำตามทางของตัวเองนั่นแหละ”

ต่อ อดีตมือกลอง กล่าวเสริมต่อว่า

“นี่คือความในใจของคนคนหนึ่ง ที่พยายามจะอธิบายให้ฟังทั้งหมด ถ้าคุณดูตั้งแต่แรกคุณจะรู้ว่าความกดดัน ความลำบากความอยู่ยาก ความเหน็ดเหนื่อยความท้อแท้ ที่มันเกิดกับวงดนตรีวงนึงที่คุณเห็นว่ามันยิ่งใหญ่ แต่วันนึงมันไม่ใช่แบบที่คุณรู้สึกแบบนั้น แล้วมันเกิดกับคนที่คุณชื่นชอบอยู่เนี่ยแหละ แต่พวกเราไม่มีทางที่จะพูดออกมาได้ว่าเราท้อ แต่วันนี้มันคือการปลดล็อคอะไรบางอย่าง เรากำลังจะบอกกับทุกๆคนว่า โต ไซม่อน หรือ Hangman เราอยู่กันอย่างเป็นพี่น้อง เราไม่ต้องไปพาดพิงกันต่างคนต่างทำมาหากิน แล้วก็ใช้ชีวิตให้มีความสุข”

หรั่ง : ไปเถอะไปตามทางของตัวเองทุกคน แฟนเพลงด้วยนะ พวกมึงปลดกูเถอะ

ต่อ : ถ้าคุณอยากได้ดนตรีดีๆ เราทุกคนต้องมองโลกในแง่บวกมากขึ้น โลกทุกวันนี้มันแย่พออยู่แล้ว ถ้าคุณยังมาทับถมกันมันยิ่งไม่ได้สร้างพลังบวก อยากให้ทุกคนมองเห็นเป็นภาพบวกทั้งหมด คุณเห็นแล้วว่าเท่าที่เราเล่ามาผู้ชายคนนี้ ที่คิดเพลงของซิลลี่ ฟูลส์มาดังๆทั้งหมด ผู้ชายคนนี้หมดไฟไปแล้ว แต่วันนี้ เค้ากำลังจะมีไฟ ทำเพลงดังๆขึ้นมาอีก ผมไม่รู้ว่ามันจะดังหรือไม่ดัง แต่มันจะเป็นเพลงที่ผ่านมือผู้ชายคนนี้ที่เคยทำให้เพลงมันดังมาแล้ว แล้วก็มีน้อง ริม ที่เข้ามาเติมเต็มศักยภาพ ผมก็จะมาร่วมแจมในโปรเจกต์ พี่รัตน์ เบน ก็เข้ามาร่วม ถึงบอกว่า ซิลลี่ ฟูลส์คือครอบครัว ครอบครัวนี้จะเติมความสุขให้ทุกคนในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพลงเรื่องของคอนเสิร์ต อย่าแยกให้ใครไปไหนจากใคร วันนี้เรารวมกันเป็นก้อนใหญ่ๆ

หรั่ง : จริงๆกูอยากบอกอย่างหนึ่งนะ ทุกคนมันมีความรักความชัง เราจะเอาใจแค่ตัวเองไม่ได้ นึกถึงคนอื่นด้วย กูชอบคำของ โรงเรียนกูที่สุด นัทสิยาโลกวฑฺฒโน แปลว่า อย่าทำตนเป็นคนรกโลก เพราะถ้าเราไม่รกโลก โลกก็จะสวยงามขึ้น

สะอาดขึ้น

แอดว่าการให้อภัยกันถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่แน่ว่าอนาคตวง ซิลลี่ฟูลส์ อาจจะกลับมาทำเป็นโปรเจกต์พิเศษกันก็ได้นะคะใครจะไปรู้ แต่ตอนนี้ถือว่า มิตรภาพของความเป็นเพื่อนน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นนั้นเองค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
เสี่ยชัช สายเปย์ ชิมรางละคร เล่นซีรีส์วายครั้งแรก