หวาย ซัดกลับ นิกกี้ พูดโกหก ซัดเตรียมโชว์บิล หลักฐาน

หวาย ปัญญ์ธิษา งัดหลักฐานเป็น บิลค่าซ่อม โทรศัพท์เมื่อ 10 ปีก่อน พร้อมแจงเหตุผลต่างๆตามในบิล ด้าน นิกกี้ นิโคล กิตติวัฒน์ สวนกลับทันควัน พร้อมชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับ iPhone ให้เห็นแบบชัดๆ

เรียกว่าเป็นมหากาพย์ดราม่าเดือดเลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องราวของนักร้องสาว หวาย ปัญญ์ธิษา กับดารานางแบบสาว นิกกี้ นิโคล กิตติวัฒน์ ที่ต่างฝ่ายต่างงัดหลักฐานต่างๆ ออกมาโต้กันแบบไม่จบสิ้น โดยเรื่องนี้จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากการที่สาว หวาย ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวในวัยเด็กกับเพื่อนสนิทฝาแฝด ผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว โดย หวาย กับ เพื่อนฝาแฝด เคยมีอดีตที่ไม่ดีด้วยกัน เรียกว่าไม่ดีจนทำให้ หวาย ถึงขั้นลั่นเอาไว้เลยว่า แม้จะคิดถึงอย่างไร แต่คงไม่ขอกลับไปคบ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นคือ หวาย ได้ทำมาม่าหกใส่ blackberry ของเพื่อนคนนั้น และได้นำไปซ่อมให้ แต่เพื่อนคนนั้นเกิดไม่พอใจ อยากได้ iPhone เครื่องใหม่แทน เลยไปฟ้องคุณแม่ และก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวจน หวาย กับฝาแฝดคู่นั้นก็ได้เลิกคบกันไป

จนเรื่องนี้กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล เพราะชาวเน็ตต่างอยากรู้ว่าฝาแฝดสองคนนั้นคือใคร กระทั่งสาว นิกกี้ ที่มีฝาแฝดชื่อว่า มิลลี่ คามิลลา กิตติวัฒน์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่าได้มีบุคคลหนึ่งกำลังนำเรื่องเกือบ 10 ปีที่แล้วมาพูดในที่สาธารณะ และเป็นการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือน และไม่เป็นความจริง ทำให้เกิดผลกระทบต่อชื่อเสียง พร้อมงัดหลักฐานต่างๆ ออกมาตอบโต้

จนทำให้ หวาย ต้องออกมาโพสต์อินสตาแกรมสตอรี่โต้กลับข้อความของสาว นิกกี้ แบบรัวๆ ด้วยข้อความว่า “กล้ามาก”, “โกหกอีกแล้วนะคะ อายบ้างไหมถามจริง”, “iPhone กู”, “คิดได้หนอ น่ากลัวจัง ก็ซ่อมแล้วไงคะแล้วยินดีซื้อ iPhone ใหม่ให้ด้วยหลังเกิดเหตุ ถ้าโทรศัพท์ใช้ไม่ได้ แต่ดันเลิกเป็นเพื่อนกันก่อน too bad แล้วถ้าจะเกิด 10 ปีที่แล้วทำไมดิฉันจะพูดไม่ได้ค่ะ ไม่ใช่ทุกคนที่มีเจตนาไม่ดีเหมือนคุณนะคะ” โดยหลังจากโพสต์ได้ไม่นาน หวาย ก็ได้ลบสตอรี่ทั้งหมดออกไป

ล่าสุด หวาย ได้ออกมาโพสต์หลักฐานเป็น บิลใบเสร็จ ที่ได้รับมาจากร้านซ่อมโทรศัพท์เมื่อ 10 ปีก่อน พร้อมระบุข้อความชี้แจงว่า

“นี่คือบิลจากร้านที่เราได้เอาโทรศัพท์ไปให้เขาเช็คในวันนั้นนะคะ เรื่องมัน 10 ปีมาแล้ว เราไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย แต่เราจะได้ยินเรื่องนี้มาตลอด เลยขออธิบายหน่อย #จากบิล

– ที่เขียนว่า ล้างเครื่อง 700 บาท คือการไล่เอาความชื้นออกจากเครื่องนะคะ ซึ่งจริงๆแล้ว มันก็เท่านั้นค่ะ คือโทรศัพท์ใช้ได้ตามปกติ ไม่ได้มีอะไรเสียหาย

– ที่เปลี่ยนที่กด สวิตช์ 1000 บาท คือ น้องบอกว่าเวลากดมันติดขัด อาจจะเพราะโดนน้ำ (เราทำให้เลยถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้) , น้องบอกว่าระบบมันรวนหรือเปล่า เราให้ช่างตั้งค่าให้ใหม่ให้เลย เพราะ format เก่าในโทรศัพท์มันไม่ถูกต้องอยู่แล้วค่ะ

โปรดอ่าน ** ตรงที่ทำให้ AB ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับน้ำเลยนะคะ , มันเกี่ยวกับการใช้งานค่ะ อะ พอแล้วนะสำหรับคนที่มีข้อสงสัยว่าทำไมทำโทรศัพท์คนเจ๊ง แล้วไม่ยอมซื้อเครื่องใหม่ให้ ก็มาดูตามนี้ได้เลยค่ะ ว่าเครื่องมันเจ๊งหรือเปล่า ถ้าไม่ได้เลิกคบกัน เพราะน้องอยากได้ iphone ใหม่แล้วทำไมถึงตัดขาดกันที่ MBK คะ ทิ้งเราร้องไห้คนเดียว ทำไมคะ จบนะคะกับเรื่องนี้”

ซึ่งพอ หวาย ได้ชี้แจงเสร็จ ทางด้าน นิกกี้ ก็ได้โพสต์อินสตาแกรมสตอรี่โต้กลับแบบทันควัน ด้วยการอธิบายรายละเอียดของโทรศัพท์ iPhone ว่าปุ่มไหนอยู่ตรงไหน และเรียกว่าอะไร และ นิกกี้ ยังได้ทำการรีโพสต์สตอรี่จากเพื่อนที่มาช่วยชี้แจงในเรื่องนี้อีกด้วย โดยเพื่อนของ นิกกี้ ได้ลงข้อความไว้ว่า

“ขอยุ่ง และหวังว่าจะได้ยุ่งเป็นครั้งสุดท้าย เพราะรู้สึกไม่โอเคมากๆ ที่เพื่อนต้องเจออะไรแบบนี้ เท่าที่เราหามานะ

-คำว่า region format ใช้กับ iPhone

-ถ้าเป็น BB จะใช้ region เฉยๆ

-ตอนนี้ iPhone ก็ยังเป็นแบบนี้อยู่นะคะ ลองเข้าไปดูกันได้

ที่ต้องทำขนาดนี้เพราะ…ในบิลของหวายไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่าเป็นโทรศัพท์ยี่ห้อไหน แต่ถ้าใครยังจำได้ BB ปิดเครื่องด้วยปุ่มวางสายนะคะ ร้านน่าจะเขียนปุ่มวางสายมากกว่า on/off หรือเปล่า? บวกกับคำศัพท์ที่ได้แจ้งไปข้างบนค่ะ คงทำได้เพียงเท่านี้ ก็เสียเวลาชีวิตที่คนๆ หนึ่งต้องมานั่งชี้แจงเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ก่อแล้ว”

พร้อมทั้งยังได้ลงรูปชี้แจงตามข้อความที่ได้พิมพ์ไว้ในเบื้องต้น ซึ่งสาว นิกกี้ ก็ได้พิมพ์ข้อความ “ขอบคุณ” ตอบกลับเพื่อนคนดังกล่าวไป และยังได้โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ แปลเป็นไทยได้ใจความประมาณว่า

“เรารู้ความจริง! ขอบคุณมากทุกคนที่ส่งข้อความมาสนับสนุน และช่วยเหลือฉัน ฉันรักพวกเธอทุกคน ฉันซาบซึ้งกับทุกคนมาก และขอบคุณพวกเธอทุกคนมาก พวกเธอแสดงให้ฉันเห็น ว่าจริงๆฉันไม่ได้อยู่คนเดียวในเรื่องนี้ รักพวกเธอนะ ทุกคนรู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร”

ซึ่งพอไปดูทวิตเตอร์ของ หวาย ก็เห็นมีข้อความทวีตไว้ว่า “จบก็จบ อย่ามีอีกนะ” พร้อมอีโมจิรูปหัวใจสีชมพู

งานนี้หวังว่าเรื่องนี้คงจะจบได้จริงๆ อย่างที่ทั้ง 2 ฝ่ายพูดเอาไว้ ถึงจะจบแบบไม่ค่อยเคลียร์สักเท่าไร แต่ก็คงดีกว่าการโต้กันไปมาแบบนี้ แถมยังทำให้เกิดศึกระหว่างแฟนคลับอีกด้วยนั่นเองค่ะ