หลังจากกรณี่ที่นักแสดงตลกชื่อดัง อ่าง เถิดเทิง ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวกับสื่อ พูดถึงความลำบากของตนเอง จากพิษ โควิด ที่ตอนนี้หมดตัว งานก็ถูกเลิกจ้าง ไม่มีแม้แต่เงินที่จะซื้อมาม่ากิน รถที่ใช้ขับไปหาผู้ใหญ่ ก็เสียซ่อมมาแล้วก็ยังไม่หาย โดยเจ้าตัวยังบอกอีกว่าเงินที่ได้จากการเล่นตลกในสมัยก่อนนั้น ให้ภรรยาคนแรกเก็บทั้งหมด ซึ่งตอนนี้เลิกกันมานานแล้ว และตนเองก็อยู่กับภรรยาคนที่สองมาได้ 7 ปี วอนผู้ใจดี บริจาคเงินช่วยเหลือ
ล่าสุด ปุ๋ม พจมาน อดีตภรรยา ได้เปิดใจถึง อ่าง เถิดเทิง ผ่าน อมรินทร์ ทีวี ถึงปมที่อีกฝ่ายพูดว่า ให้ตนเก็บเงินนั้น เจ้าตัวขอ โต้กลับ พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยเอาสมบัติไป ปุ๋ม พจมาน เผยว่า
“คบกับ อ่าง เถิดเทิง จริง คบกันมา 7 ปี เรื่องสมบัติของ อ่าง เถิดเทิง นั้น ในสมัยนั้น อ่าง เถิดเทิง ดังมาก ได้ค่าตัววันละ 3 หมื่นบาท ยืนยัน อ่าง เป็นคน ฟุ่มเฟือย เป็นคนไม่เก็บเงิน สาเหตุที่จะต้องจบความสัมพันธ์ คือ ในสมัยนั้น อ่าง มีชื่อเสียงโด่งดัง มีรายได้เยอะ แต่ อ่าง ติดอบายมุข ห้ามก็ไม่ฟัง ยืนยันไม่ได้เอาสมบัติของ อ่าง มาใช้ ตอนเลิกกัน เงินก็ไม่ได้เอา เขาหมดตัวก่อนจะเลิกกัน ได้มาเท่าไหร่ก็ไม่ได้ให้กับหนู รับรู้มาตลอดว่าตอนอีกฝ่ายออกงาน ก็จะไปเที่ยวผู้หญิง เขา เจ้าชู้ มาก เพื่อนๆไม่มีใครยืมเงินเขา เพราะร่างกายเขาไม่สมบูรณ์ ทรัพย์สินในอดีตที่มีมาด้วยกันคือรถยนตร์ ตอนนี้ได้ขายทิ้งไปแล้ว ได้เงินมาไม่กี่หมื่นบาท ยอมรับน้อยใจมากว่าทำไม อ่าง เถิดเทิง ถึงให้สัมภาษณ์หาว่าหนูเอาเงินเขาไป ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องจริง เขาให้ร้ายเราแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ต้องออกมาพูดบ้างแล้ว เพราะจะต้องออกมาปกป้องตัวเอง”
ด้าน อ่าง เถิดเทิง ก็ได้เปิดใจอีกครั้งว่า
“ตอนนี้จนจริง เรื่องรายได้ในสมัยก่อน ได้เดือนละ 3 แสน เป็นเงินมาจากการเล่นตลก ซึ่งตนเองอ่านหนังสือไม่ออกไม่รู้ข้อมูล เลยให้ภรรยาเก่าเป็นคนจัดการ เป็นผู้จัดการทั้งหมด โดยไม่รู้ว่าจำนวนเงินกี่ล้านกันแน่ ยืนยันยกทรัพย์สินให้ภรรยาเก่า ไม่ได้เอาอะไรมาเลยสักบาท เพราะยังรักลูกชาย ส่วนกรณีติดการพนัน และพริตตี้ ยืนยันว่าไม่ได้ติดการพนัน ตอนนี้เป็นช่วง โควิด หมดตัวจริงๆ แต่ก่อนเล่นการพนันจริงแต่ไม่ได้เล่นเยอะ เมื่อก่อนมีข่าวว่า อ่าง เข้าไปเอนเตอร์เทนในบ่อน เพราะคนที่ให้ไปคิดว่าตัวเองเป็นตัวนำโชคเลยให้ไปยืนข้างๆช่วยเสริมโชค อ่าง ก็จะได้ประมาณ 2,000-3,000 บาท เรื่องแอลกอฮอล์ไม่ยุ่งเพราะสุขภาพไม่ดี”
ซึ่งถ้าฟังจากทั้ง 2 ฝั่งแล้วก็ดูเหมือนว่าข้อมูลไม่ตรงกันอยู่หลายเรื่อง งานนี้ก็ต้องแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนแล้วนะคะ ว่าจะตัดสินใจเชื่อฝั่งไหน แต่สุดท้ายแล้วชีวิตก็ต้องสู้ ต้องดินต่อ ช่วงเวลานี้ลำบากกันทุกคน แอดขอเป็นกำลังใจให้ผ่ายวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะคะ