เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ เล่าเหตุการณ์ บ้านอยู่ระแวกรัศมี ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว ลั่น พร้อมเคลียร์ แคทรียา

เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ เล่าเหตุการณ์ บ้านอยู่ระแวกรัศมี ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว ลั่น พร้อมเคลียร์ แคทรียา บอก ถ้าเขาติดต่อมาก็พร้อมเคลียร์ เรื่องจะได้จบ

ผุดโปรเจกต์ใหม่อีกแล้วสำหรับดาราสาวสุดเซ็กซี่ เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์ ที่ล่าสุดเจ้าตัวออกผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Marcella Collagen (มาร์เซลล่า คอลลาเจน) แว่วมาว่า ดูแลเองทุกขั้นตอน ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว รวมถึงอัปเดตกรณีที่มีปัญหาธุรกิจกับ แคทรียา อิงลิช ยังเคลียร์กันไม่จบ ว่าไปถึงไหนแล้ว โดย เมเปิ้ล เผยว่า

“แบรนด์นี้เป็นแบรนด์น้องใหม่ ของ เมเปิ้ล เอง ทานเอง ปรับสูตรทำมา 2 ปี กว่าจะออกมา อยากจะทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพให้ได้ทานกัน เป็นส้มสีเลือดที่นำเข้าจากอิตาลี ทุกอย่างเริ่มจากตัวเองก่อน ลองเอง”

ลงทุนเยอะไหม ?

“ก็เยอะพอประมาณอยู่ค่ะ ทุกอย่างคือทำเต็มที่ อยากให้ทุกคนสุขภาพดี อนาคตอาจจะมีการไปขายที่ต่างประเทศ คุยกับทางจีนไว้แล้วด้วยค่ะ ธุรกิจนี้ทำร่วมกันกับคนในครอบครัว ถามว่าคาดหวังไหม ก็คาดหวังนะคะ ทำเต็มที่ ช่องทางการขายก็มีทั้งเพจ ไอจี ทุกอย่างเลยค่ะ วันนี้ 12 ตอน 1 ทุ่ม จะมีการไลฟ์สด ให้ 80 คนแรก มาทำธุรกิจกับเราโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ถ้าเกินจากนั้นก็มีค่าสมาชิกคนละ 300 บาท”

โควิด ส่งผลกระทบขนาดไหน?

“โอ้โห…. ก็ยังมีถ่ายอยู่ค่ะ ละครก็มีถ่าย ยูทูบก็ยังทำช่อง Maples Phatchuda Channel ละครก็ยังมี ปล้นลอยฟ้า เร็วๆนี้อีกประมาณ 1-2 เดือนนี้กำลังจะออกแล้ว ส่วนอีเวนท์ก็ไม่มีเลย ก็แย่เหมือนกัน เราอาจจะมีครอบครัวซัพพอร์ตบ้าง คุณพ่อคุณแม่ก็เข้าใจนะ กับสถานการณ์แบบนี้ ท่านก็บอกให้หันมาทำธุรกิจดีกว่า ทางบ้านก็เป็นนักธุรกิจอยู่แล้ว เราก็ต้องทำใจยอมรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยที่กำลังเจอกันสถานการณ์แบบนี้ อย่าคิดสั้น ทุกคนบนโลกนี้โดนหมด กระทบหมด อยากให้สู้นะคะ ทุกอย่างมีทางออก เปิ้ลเองช่วยนี้ก็ต้องประหยัด”

เห็นว่า ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว ใกล้บ้านเราเหมือนกัน เล่าเหตุการณ์ ให้ฟังหน่อย ?

“ใช่ค่ะ เหตุการณ์ห่างจากบ้านเปิ้ล 8-10 กิโล ควันเยอะมากเลย ไม่ได้รับความเสียหายค่ะ ตอนนั้นอยู่บ้านตลอด ตื่นเช้ามาได้กลิ่นควัน เปิดประตูออกมาดู มันเหมือนเมฆครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก ถามว่ากลัวไหม ก็กลัวนะคะ เพราะที่บ้านมีคุณพ่ออายุเยอะด้วย แล้วก็มีหลาน กลัวเวลาเขาออกมาข้างนอก แล้วฝนตก ถ้าเป็นฝนแรกเปิ้ลมองว่าอันตรายมาก มันเป็นสารพิษ สารเคมีต่างๆ อาจจะมีผลกับร่างกายได้”

“เราก็ฟังข่าวตลอด เขาบอกให้อพยพ ระแวก 5 กิโล ถึง 8 กิโล ประมาณนี้ เราก็คิด แต่เราอยู่ 8-10 ยังไกลหน่อย จะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าที่บ้านเคยไฟไหม้ เมื่อตอนหนูอยู่ประมาณ ป.3 ตอนนั้นหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเลยนะ คืออำเภอที่อยู่โดนทั้งระแวกเลย ประมาณ 50 หรือ 100 หลังคาไปหมดเลยนะ ตอนนั้นกลัวมาก ทุกวันนี้ก็ยังฝังใจ โรงงานของคุณพ่อก็เคยค่ะ เป็นโรงงานยางพาราที่ใหญ่พอสมควร อยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ทำเกี่ยวกับส่งออกยางพารา ยางมันไม่ใช่แค่ 2-3 ตัน มันเยอะมาก เคยรู้สึก เคยประสบมา ก็อยากให้กำลังใจกับคนที่โดนเรื่องนี้ เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้น มันย้อนภาพกลับมา ยังคุยกัยคุณพ่ออยู่เลย”

อัปเดต เรื่องธุรกิจกับ แคทลียา อิงลิช หน่อย?

“ เปิ้ล ก็ไม่อยากพูดอะไรเยอะแล้ว เอาเป็นว่ารอทางฝั่งทนาย เปิ้ล ดีกว่า ขอเคลียร์เอกสารทั้งหมด เดี๋ยวจะมาพูดให้ทุกๆได้รับรู้ว่าความจริงเป็นยังไง เปิ้ล ไม่ได้อยากโจมตีใครนะ เปิ้ล เองก็ไม่ได้บอกว่าตัว เปิ้ล ดีนะ อยากให้ทุกคนฟังความทั้ง 2 ฝ่ายก่อน แล้วค่อยมาพิจารณาว่าใครพูดจริง ใครพูดไม่จริง อย่าฟังความข้างเดียว แล้วมาตัดสิน อยากให้รอฟังก่อน ถ้าเราผิดจริงๆเรายอมรับ แต่ทางนั้นยังไม่มีหลักฐานว่าเราทำผิดจริงๆก็จะมากล่าวหาเราอย่างนี้ไม่ได้”

กลัวไหมว่าการที่เราไม่พูด คนจะเชื่อทางนั้น เราเองจะโดนโจมตี?

“ทุกวันนี้ก็เป็นแบบนั้นนะ ตัว เปิ้ล เองจริงๆก็อยากพูด พอออกมาพูดกลายเป็นว่า ออกมาพูดทำไม คิดในทางกลับกัน ถ้าพี่โดนอย่างหนูล่ะ ถ้าคนมาตั้งข้อกล่าวหาพี่แบบนี้หรือพี่มีข่าวแบบนี้พี่จะอยู่นิ่งไหม เปิ้ลเองก็ออกมาพูดในระดับหนึ่ง อยากให้พี่ๆนักข่าวเปิดใจในการนำเสนอข่าว ไม่ใช่ไปมุ่งประเด็นฝั่งพี่เขาคนเดียว แล้วไม่มาสัมภาษณ์ เปิ้ล เลย กลายเป็น เปิ้ล คือจำเลยสังคม ว่าเราเป็นคนผิดไปแล้ว ซึ่งเราไม่ได้เป็นแบบนั้น พอมีข่าวออกมาก็ต้องออกมาพูดบ้าง เราไม่ได้พูดเข้าข้างตัวเอง อยากให้ฟังทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าเคลียร์กันจริงๆก็เอาทนายทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกัน จะได้ไม่ต้องมีคำถาม ทุกอย่างที่ เปิ้ล พูดมา เปิ้ล มีหลักฐานหมด เลยอยากให้ทางพี่แคท มาคุยกันดีหว่า จะได้จบ ทางเรายังทำธุรกิจ มีข้อสงสัยแบบนี้ ใครจะมาซื้อของเรา หรือทำงาน ทำธุรกิจกับเรา ก็อยากให้มาเคลียร์กัน เรื่องจะได้จบ ”

เขาติดต่อมาบ้างไหม?

“ไม่ค่ะ เราก็พร้อมเสมอ ถ้าเขาติดต่อมาก็ พร้อมเคลียร์ ค่ะ อยากให้มาเคลียร์กัน เรื่องจะได้จบ เราจะได้ไปทำอย่างอื่น ใครผิด ใครถูก ใครมีประเด็นกันแบบไหน มีข้อสงสัยอะไรตรงไหน ก็จะได้เคลียร์ให้ชัด ถ้า เปิ้ล ผิดจริงๆ เปิ้ล ยอมรับ แต่คุณก็ต้องยอมรับว่า คุณไม่ได้มีหลักฐานที่แน่ชัดคุณไม่สมควรมาตั้งแง่ให้คนมองเปิ้ลเป็นคนไม่ดี แล้วตกเป็นประเด็นของสังคม เราเองเราก็รับไม่ได้นะ ครอบครัวเราก็รับไม่ได้ ถึงบอกว่า ย้อนกลับไปเป็นตัวคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าคุณเป็นเราในวันนี้”

เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไหม?

“ก็เสียใจนะคะ เพราะว่าตอนแรกคุยกันก่อนจะทำร้าน คุยกับพี่เขาว่า พี่ธุรกิจคือธุรกิจนะ เพื่อนคือเพื่อนนะ อย่ามาโกรธ อย่ามาเกลียดกัน ทำอะไรก็อยากจะชัดเจน เรามีบัญชีภายใน มีบัญชีภายนอกมีทุกอย่างครบหมด ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก็เสียใจ พี่แคท ก็เป็นพี่คนนึงที่ เปิ้ล นับถือ เป็นคนนึงที่ เปิ้ล ชอบเหมือนไอดอลเราตั้งแต่เด็กๆ พอได้รู้จักก็ดีใจที่มีพี่เขาเป็นพี่สาว เป็นเพื่อน พอเห็นเขาสนใจเรื่องธุรกิจก็คิดว่าดีสิ พี่เขาเป็นบุคคลมีชื่อเสียงลองมาทำดูด้วยกันก็ได้ ตามข้อตกลงที่ได้คุยกันไว้ ณ ตอนนั้น ยังเคยคุยว่าเราอย่าทะเลาะกันนะพี่ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เคยคิดไม่ดีกับพี่เขาเลย ก็แค่อยากเคลียร์ให้จบ พอเคลียร์แล้วอยู่ที่ว่าจะคุยกันได้ต่อหรือเปล่า แต่ เมเปิ้ล เองไม่คิดทำร้ายเขาเลย คนที่โดนทำร้ายตอนนี้คือหนูนะ”

เรียกว่าเป็นการตอบคำถามค่อนข้างเคลียร์เลยทีเดียว เรื่องของทั้ง เมเปิ้ล และ แคท จะเคลียร์เมื่อไหร่ จบลงอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป หากมีอะไรคืบหน้า จะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ