โซเชียลฮือฮา 2 ทนาย​ ตอบตรงกัน​ ใครคือผู้ต้องหาในคดี​ แตงโม

4​ ทนาย​ ชื่อดัง​ ร่วมวิเคราะห์​สาเหตุ​การเสียชีวิต​ แตงโม​ นิดา​ ทำเอาโซเชียลฮือฮาเมื่อ 2 ทนาย​ ตอบตรงกัน​ ใครคือผู้ต้องหาในคดี​นี้

ยังคงเป็นที่จับตามองสำหรับ​ ปมการเสียชีวิต​ ของ​ นักแสดงสาว​ แตงโม​ นิดา​ รายการ​ โหนกระแส​ ได้เชิญ​ 4 ทนาย​ ชื่อดัง​ ไม่ว่าจะเป็น​ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์, ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด, ทนายรณณรงค์ แก้วเพชร และทนายเกิดผล แก้วเกิด​ มาร่วมกันวิเคราะห์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต​ ว่าคดีดังกล่าวเป็นเพียงอุบัติเหตุ​จริงหรือไม่​ พร้อมเผยมีกนึ่งคนต้องขค้นศาล

ทำไมคนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก?

เดชา : จริงๆ มีคนตกเรือตาย จริงๆ ไม่มีอะไร แต่ที่เป็นกระแสเพราะเป็นดาราดัง สองพอเกิดเหตุ มีพฤติกรรมคนในเรือ ไม่ทำเหมือนวิญญูชนทั่วไป ปกปิดอะไรต่างๆ ไม่พบตำรวจ​ ไม่ให้ข้อมูลต่างๆ ยิ่งทำให้คนอยากรู้ มีอยู่แค่นี้

ทำไมถึงไม่เหมือนวิญญูชนทั่วไป คืออะไร?

เดชา : เวลาเพื่อนฝูงตกน้ำต้องกระโจนไปช่วย นั่งเรือในเรือจนกว่าจะช่วยเพื่อนมาได้ ไม่มีใครกลับบ้านไปนอนกับลูกหรอก คนพวกนี้มีลักษณะทางจิตที่ผิดปกติ แต่ไม่ถึงกับบ้า ไม่แน่ ลองไปศรีธัญญาดู อาจมีใบรับรองแพทย์ คนทั่วไปไม่มีใครเขาทำ คุณหนุ่มมีเพื่อนแบบนี้ไหมล่ะ ตกน้ำแล้วกลับบ้านก่อนนะ คิดว่าว่ายน้ำกลับบ้านเอง

ทนายตั้มมองอย่างไร เป็นคนที่มีกระแสก่อนหน้านี้ว่าจะรับเป็นทนายให้คุณปอ?

ตั้ม : คือผมมองว่าที่เป็นข่าวดังเพราะส่วนหนึ่งคนเสียชีวิตคือคุณ​ แตงโม ตอนแรกยังหาไม่เจอ คนก็ลุ้นกันว่ามีโอกาสรอดชีวิตไหม จนในที่สุดพบว่าเสียชีวิตแล้ว เรื่องนี้ตอนนั้นที่ไปเกี่ยวข้อง ผู้กำกับแหละมาเอ่ยชื่อผม ผมเลยมีชื่อในเรื่องนี้ ฝ่ายคุณปอกับคุณเบิร์ตเขาติดต่อมา อยากถามความเห็นผมว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาต้องถูกดำเนินคดีข้อหาอะไรบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วเขามีทนายความอยู่ก่อนแล้ว ผมก็แนะนำบอกไปว่าข้อหาประมาท

เขาติดต่อวันไหน?

ตั้ม : วันที่เขาไปโรงพัก จำวันที่ไม่ได้ ตอนเขาติดต่อมาผมอยู่โคราช เขารอผมกลับมาตอนเย็น ก็ได้มีการคุยกันไม่นาน เพราะเขาต้องรีบกลับไปหาตำรวจ​ แต่ผมไม่ได้เป็นทนายในเรื่องนี้ เพราะเขามีทนายอยู่ก่อนแล้ว

พี่รณณรงค์ เข้าไปดูพี่ชายเขา?

รณณงค์ :   พี่ชายเขาติดต่อมาหาผมให้ทำคดีให้เขาหน่อย เขาบอกไม่รู้ต้องทำอย่างไรต่อ งงไปหมดแล้ว เพราะเรื่องเพิ่งเกิด มีคนบอกให้ไปหน่วยงานโน้น หน่วยงานนี้ เราเลยบอกว่ารอให้ภูธรภาค 1 ทำไปก่อนสักพักหนึ่ง อย่าเพิ่งย้ายไปดีเอสไอ มันเพิ่งเกิดใหม่ ให้ตำรวจทำให้เรียบร้อยก่อน ไปดูว่ากลุ่มผู้เสียหายตรงไหนที่ยังติดใจ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้บอกมาเดี๋ยวจะหาวิธีให้ตำรวจเขาถึงที่สุด ผมยังติงเลยนะว่าทำแผนทำอะไรน่าจะให้ทางญาติขึ้นไปบนเรือด้วย ลูก น้อง เขาหล่นลงไป จะได้รู้ว่าแบบไหน ซึ่งเจอหลายๆ คดี ผ่านไปหลายปี หลายเดือน ตำรวจไม่เอาข้อมูลอะไรให้เลย แต่นี่เพิ่งเกิดใหม่ๆ ก็ให้เขาเคลียร์ไปเลย ผมเคยไปลงเรือจำลองเหตุการณ์ เขาก็ให้ไปบันทึกภาพ ดูได้ พอเข้าสู่กระบวนการศาล บางครั้งศาลเอาเฉพาะวิดีโอหรือภาพนิ่งของเราไปดูอย่างเดียวก็มี มันต้องเก็บหลักฐานฝ่ายผู้เสียหายไว้ด้วย เผื่อวันข้างหน้าเขาไปเรียกค่าเสียหายต่อ ทำเก็บเอาไว้ก่อน

มีเรื่องค่าเสียหายแน่นอน?

รณณรงค์ : ประมาท ทำลูกเขาตาย ก็ต้องจ่ายหรือเปล่า จะไปขอโทษอย่างเดียวก็คงไม่ได้ ประมาทมันตั้งข้อหาง่ายเพราะกฎหมายเขียนไว้ชัด ว่าคนขับเรือมีหน้าที่อะไรบ้าง ชูชีพก็ไม่ให้ใส่ แสดงว่าไม่ได้ผ่านการอบรมการขับเรือมาเลย ถึงได้ไม่รู้ไง แต่พยายามบอกว่ามีชูชีพเยอะ ถ้ามีชูชีพเยอะวันนั้นน่ามีคนโดดตามไปนะ หอบชูชีพไปด้วย ถ้าเป็นผม ผมเอาชูชีพโดดตามไปแล้ว คนปกติเขาทำกันอย่างนี้ ผู้หญิงหรือเด็กตกน้ำ ชูชีพอยู่ข้างๆ ก็หอบไปสิ ไม่จมหรอก ไม่ใช่มาบอกตอนหลังผ่านไลฟ์สด ดูเฟกไงไม่รู้

พี่เกิดผล มองอย่างไร?

เกิดผล : ในส่วนตัวผม ยังไม่ได้พูดถึงรายละเอียด แต่เห็นด้วยกับอาจารย์​เดชา คือถ้าเป็นอุบัติเหตุจริงทำไมมันมีพิรุธ หมายถึงพฤติกรรมของเพื่อน สมมติรถชนกันบนถนน คนขับรถถ้าไม่ได้จงใจชน หรือไม่รู้จักกัน เขามักจะหลบหนี ถ้าไม่เจตนาชนเราจะอยู่รอที่เกิดเหตุไหม อันนี้เพื่อนเองตกน้ำ เราไม่ได้เป็นฆาตกร ไม่ได้ทำร้ายเขา ทำไมต้องปรึกษาทนาย โดยที่ยังไม่ได้ถูกตั้งข้อหาด้วยซ้ำ ทำไมไม่พูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องกลับไปตั้งหลัก อย่าว่าแต่ทนายเลย ผมว่าทุกคนในประเทศก็สงสัยเพราะมันขัดแย้งกับวิญญูชนทั่วไปที่เกิดอุบัติเหตุ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องซักซ้อม ทำไมต้องเตรียมการ ก็พูดไปตามความจริง ผมขับรถมาเบรกไม่ทันก็ชน ก็แค่นั้น ตกน้ำไปก็เล่าเหตุการณ์ไปตามจริง ไม่มีอะไรต้องซักซ้อม หรือโทรหาทนาย ในเมื่อเขายังไม่ตั้งข้อกล่าวหาคุณเลย เขาอาจเรียกคุณไปในฐานะพยานเฉย

หลายคนไม่เชื่อว่า​ แตงโม​ ไปนั่ง​ ปัสสาวะ​ท้ายเรือ ความน่าจะเป็น มองอย่างไร?

ตั้ม : ที่เขาเล่าให้ฟัง ก็เหมือนที่เขาตอบสื่อมวลชน เขาเล่าว่ามีการไปปัสสาวะจริง ตอนนั้นไม่เห็นภาพเรือและไม่ได้คุยกับ​ แซน ก็ไม่รู้เรื่องราวเป็นอย่างไร แต่ถามว่าปัสสาวะได้ไหม ดูจากหลายคนที่รีวิว บางคนบอกว่าได้ บางคนบอกว่าไม่ได้ ผมเลยไม่รู้ว่าจริงๆ จะได้หรือไม่ได้ ก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละคนดีกว่า

รณณรงค์ : แล้วพี่ตั้มได้ไหม

ตั้ม : ผมก็ยืนปัสสาวะสิ

โอกาสเดินไปปัสสาวะ คิดว่ามีไหม?

เดชา : ถามผม ถ้าคนปกติ ไม่ได้บ้า ไม่ได้เมา เขาจะทำกันแบบนี้เหรอ นี่ข้อแรก สอง​ แตงโม​ เป็นบุคคลมีชื่อเสียง เป็นดารา สามเป็นสุภาพสตรี สี่คนในเรือไม่ได้รู้จักกันทุกคน ผมว่าเขาน่าจะมีความละอายต่างๆ ไม่น่ามีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น

แซน​ นั่งอยู่ท้ายเรือ ด้านหน้าเป็น​ กระติก​ นั่ง ถัดมาก็ปอ ขวามือตรงเรือเป็นเหมือนเบิร์ต มีคุณจ๊อบนั่งถัดลงมาหลังคนขับ เขาเดินมานั่งยองๆ แบบนี้ ประเด็นถ้าเป็นอุบัติเหตุจริง มันมีเงื่อนงำอะไรหรือเปล่า ด้านหลังไม่มีอะไรเลย แตงโม​ ไปถึงเกาะแล้วนั่งยองๆ ใช้มือด้านซ้ายแหวกบอดี้สูท ปัสสาวะเสร็จจับขาแล้วยึดตัวเองขึ้นมา ตัว​ แซน​ ไหลลงมาเพราะแรงโน้มถ่วงที่ดึง ปรากฏ​ แซน​ บอกว่า​ แตงโม รอแป๊บหนึ่งกูเสียหลัก ขอหาหลักก่อน เขาบอกว่า​ แตงโม​ เลยปล่อยมือจากขาเพื่อไปเกาะหลักของเรือ ถ้ามีหลักเรือจริงๆ ทำไม​ แตงโม​ ไม่เกาะตั้งแต่แรก เป็นไปได้ไหมอาจเป็นกรณีที่​ แตงโม​ เกาะขาไว้ พยายามลุกขึ้น แซน​ นั่งเล่นโทรศัพท์ เหมือนถูกกระตุกเหมือนจะตกน้ำ เลยดึงขากลับ มือ​ แตงโมเลย​ หลุดแล้วตกลงไปหรือเปล่า มีโอกาสความน่าจะเป็นบ้างไหม?

ตั้ม : มันก็เป็นไปได้ เมื่อกี้ก่อนเข้ารายการ ก็คุยกันว่า ถ้าเกิดจากปฏิกิริยาอัตโนมัติของ​ แซน แตงโม​ บอกว่ากำลังจะลุกขึ้นมาจริงๆ แล้วมีแรงดึงของเรือ แซน​ อาจตกใจพลั้งพลาดขากระเด้งขึ้นไป ทำให้​ แตงโม​ ตก ตรงนี้เราก็ไม่รู้ไง เพราะมี​ แซน​ รู้คนเดียว คนในเรือทุกคนก็ไม่รู้หรอก เพราะตามคำบอกกล่าวเขาอยู่ด้วยกันแค่ 2 คน ในเรือก็ไม่มีกล้องวงจรปิด พิสูจน์ค่อนข้างจะยากว่ามันอย่างไร

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง แซน​ มีความผิดไหม?

เดชา : ผมว่าบุคคลนี้มีความสุ่มเสี่ยงที่จะโดนออกหมายเรียกหรือหมายจับ ทำไปทำมา การ​ ตกเรือ​ หรือความตาย เป็นการกระทำของเธอหรือไม่

ถ้าเขาบอกเป็นสัญชาตญาณ?

เดชา : ถ้าคนทั่วไปที่ไม่ได้บ้า ไม่ได้เป็นโรคจิต ถ้าเพื่อนจะทำอะไรที่มีความเสี่ยงต้องห้ามปราม

รณณรงค์ : ผมว่าก็ต้องเหนื่อยหน่อยนะ ต้องไปพิสูจน์ให้ได้ว่าเขาประมาทเลินเล่ออย่างไร แต่ยังสงสัยว่าถ้ามีแค่นี้จริงๆ ต้องเป็นคนแรกที่อยู่เจอตำรวจที่สุด แต่กลายเป็นว่ากลับไปกันหมดเลย ในสภาวะตอนนั้นมีแค่นี้จริงๆ หรือเปล่า หรือมีการขับเรือปกติแบบนี้ตลอดหรือเปล่า ก่อนตกลงไป มีคนตั้งข้อสันนิษฐานว่าช่วงนั้นมีการขับเรือฉวัดเฉวียนหรือเปล่า ประกอบกับอาจไปเจอกับคลื่นพอดี เรือเลยจัมพ์ จังหวะนั้น​ แตงโม​ เลยหล่นลงไป ก็เป็นไปได้ แต่อยู่บนเรือกันหมด ทำไมไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เลย และไม่พยายามอธิบายด้วย บอกแค่ว่าไม่รู้ไม่เห็นอย่างเดียว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกมาก ที่แปลกที่ว่าผมกำลังพูดถึงตำรวจแปลกนะ ไม่ใช่พยานแปลกอย่างเดียว เรื่องนี้ถ้าเกิดขึ้น ตำรวจนนท์ต้องอายัดเรือ ไม่ให้ใครเอาไปล้าง อายัดไว้ก่อนแล้วเอาตำรวจไปเฝ้า  เพราะมีสิทธิ์ตามกฎหมาย กันพยานไว้มาสอบปากคำยังได้เลย ทำไมปล่อยออกไป เกรงใจคนรวยหรือเปล่า ผมตั้งคำถาม ถ้าทำแบบนี้ตั้งแต่แรก บอกทุกคนให้อยู่สอบปากคำหมด วันนี้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่ต้องเหนื่อยเลยเพราะหลักฐานอยู่ครบหมดแล้ว พอวันแรกคุณไม่ได้ทำ คุณจะมาเอาวันหลัง เขาได้มีโอกาสปรึกษาหารือ คุยกับทนายหลายท่านแล้วก่อนมาเจอกับตำรวจมันจะเหลือหลักฐานอะไรให้เราตามต่อ มันเป็นความบกพร่องในหน้าที่ของใครล่ะ

ไม่ได้ชี้นำสังคม แค่วิเคราะห์ ถ้าเกิดเรื่องนี้มองในมุมฆาตกรรม มองได้ไหม?

รณณรงค์ : ต้องถามก่อนจะฆ่าเพื่ออะไร

ที่เขาพูดกัน มีการจะไปล่วงละเมิด​ แตงโม แตงโม​ ไม่ยอม พยายามหลบเลี่ยงจนพลัดตกน้ำ เพราะเขาดูแก้วไวน์มีแก้วเดียว มีร่องรอยบาดแผลบนตัวคนในเรือ แม้แต่คลิปสุดท้ายของ​ แตงโม มีคำว่าไปเอาเพื่อนมา มันมองมุมแบบนั้นได้ไหม?

รณณรงค์ :  มองได้ แต่มันพิสูจน์ยาก ถ้าพูดประเด็นนี้ พยานบุคคลมีแค่นี้ แล้วเขาบอกว่าไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเลย ไม่มีวัตถุพยานอื่นชี้เชื่อมโยงเลย เว้นแต่ว่าจะไปเจอในเล็บคุณ​ แตงโม บังเอิญมีดีเอ็นเอคนอื่นอยู่ นั่นถึงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องถึงจะพลิกได้

เกิดผล : ผมยังมองไม่เห็นมูลเหตุในการฆาตกรรม จากข่าว ไม่ว่ากระแสไปทิศทางไหนก็แล้วแต่ มันไม่มีเหตุต้องฆ่าผู้หญิงคนหนึ่ง เพื่ออะไร พลั้งเรืออีกเรื่องนะ ถ้าฆาตกรรมโดยวางแผนมา ผมยังมองไม่ออกว่าเขาจะฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งโดยที่ผู้หญิงอีกสองคนในเรือเป็นเพื่อนเขา จะไม่รู้สึกอะไรเหรอ หรือวางแผนกัน ถ้าประเด็นนั้น วางแผนฆ่า ส่วนตัวมองไม่เห็น แต่ถ้าพลั้งมือ หรือล้อกันเล่นแล้วพลาดพลั้ง ก็ว่ากันไป อาจเกิดขึ้นได้ ก็ถือว่าเป็นคดี เขาประมาทไปหรือเปล่า หากหยอกล้อกันเล่นแล้วผลักกันตกน้ำ เป็นประมาทไหม เห็นเขาตกน้ำแล้วไม่ช่วยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เล็งเห็นผลได้ไหมเขาตกน้ำไป ขณะนั้นเขาเมาหรือเปล่า ครองสติได้ไหม ถ้าเมาครองสติไม่ได้ เขาตกน้ำแล้วคุณไม่ช่วย ก็เคยมีฎีกา ตำรวจไล่จับผู้ร้าย ผู้ร้ายกระโดดลงน้ำ แล้ววนขึ้นฝั่งไหนไม่ได้ตำรวจวิ่งดักไว้ สุดท้ายว่ายไม่ไหว จมน้ำตาย อย่างนี้ศาลฏีกาเคยลงโทษข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา สมมติคุณเห็นเพื่อนเมาแล้วครองสติไม่ได้ตกน้ำไปแล้วคุณไม่ช่วย ไม่โยนชูชีพ จากอุบัติเหตุก็อาจเป็นเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผลได้

เดชา : การมโนก็มโนได้ จินตนาการไป ว่างๆ ไม่ทำไรก็นั่งฝันได้ แต่โดยหลักกฎหมาย ผมทำคดีฆ่าเยอะ โดนฆ่าอะไรก็ติดต่อผมได้ โดยทั่วไปอันดับแรกเขาดูแรงจูงใจ สาเหตุโกรธเคืองร้ายแรงมากไหม ถึงขนาดต้องฆ่ากัน เช่นแย่งเมียแย่งผัว ทรัพย์สมบัติจำนวนมาก คู่แข่ง ยาเสพติดมีไหม ดูแล้วไม่น่ามี อาวุธมีไหมขวดมีดปืนทุบหัวมีไหม ไม่มี สามร่องรอยการเกิดแผลดูแล้วน่าจะเกิดในเรือไหม ฟังแล้วบาดแผลไม่น่าเกิดในเรือ

ผลชันสูตรแถลงแล้ว ช่วงล่างมีบาดแผลรอยลึกด้านข้างขา อาจโดนของมีคมหรือใบพัด?

เดชา : แล้วก็ดูพฤติการณ์ในการทำความผิด สามารถพิสูจน์เจตนา ดูว่ามีอะไร แต่ดูๆ แล้วไม่น่ามี ถามผมเหมือนคนเมาไวน์ไปอยู่บนเรือ เสร็จแล้วมีอุบัติเหตุ ซึ่งเกิดจากอะไรผมไม่ทราบ แต่ผมมองว่าทุกคนเมา ใครบอกไม่เมาไม่เชื่อ

ตัดเรื่องฆาตกรรม?

เดชา : ไม่มีหรอก

ทนายตั้มล่ะ?

ตั้ม : ก็เห็นด้วยกับทั้งสามท่าน แต่ขอเสริม ดูลักษณะอาการตัวผู้อยู่ในเรือ การให้สัมภาษณ์สื่อ การมาพบผม หรือการไปให้การตำรวจทุกคนมีบันทึกไว้หมดแล้ว ลักษณะการแสดงออก ผมว่าไม่ใช่คนก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรงมา เพียงแต่ว่าเขากลัวความผิดเรื่องประมาทเท่านั้นเอง ว่าต้องโดนคดีอะไรอย่างไรบ้าง ส่วนอื่นๆ มูลเหตุจูงใจ พยานหลักฐานบนเรือ อย่างที่ทุกคนตอบไปเลย

พลั้งมือเป็นไปได้ไหม?

ตั้ม : อันนี้แซนรู้แค่คนเดียว

ผู้ชายที่บอกไปลวนลาม ไม่น่าจะมี?

รณณรงค์ : แผลที่ขาไง ไม่เคยเห็นใครลวนลามแล้วเอามีดไปกรีดขาคนอื่น ไม่เคยเห็นจริงๆ ถ้าใครเคยเห็นบอกหน่อย พอแผลที่ศพออกมาเจอ ก็มองอย่างเดียวว่าตอนหล่นลงไป ก็อาจไม่มีแผลเลยก็ได้ แสดงว่าบนเรือก็ไม่น่ามีอาวุธอะไร จะมีใครเอามีดมาบังคับนางเอก มันยากนะ ถ้าทำกันขนาดนั้น ผมว่าที่เหลือน่าจะไม่ยอม

ตั้ม : ใช่ ลวนลามบนเรือไม่ได้อยู่กันแค่สองต่อสอง อยู่กันหลายคน ถ้าลวนลามนางเอกดัง เขากลับขึ้นฝั่งมาเป็นเรื่องแน่

เดชา : มือถือก็มี ส่งไลน์ก็ได้ ไลฟ์สดยังได้เลย

ผมก็มองอย่างนั้น มองว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ แต่เป็นอุบัติเหตุที่มีเงื่อนงำ ซึ่งอาจเกิดจากเขากลัวและพูดอะไรสะเปะสะปะ?

รณณรงค์ : กลัวอะไร ก็แค่มาให้ปากคำ

ทุกคนมีความกลัวหมดเลยนะ หนึ่งกลัวนักข่าว สองเรื่องคุณปอ อาจกลัวเรื่องกระแสสังคม เพราะเขาทำงานทำอะไร เรื่องการขับเรือล่ะ มองอย่างไร?

ตั้ม : การขับเรือที่ไม่มีใบอนุญาต ผมมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย โทษไม่ถึงจำคุกหรอก แต่เรื่องที่เขากังวลและกลัวคือประมาทมากกว่า ตอนเขามาขอความเห็นจากผมนะครับ ในส่วนเรื่องเรือเป็นแค่เรื่องนิดๆ หน่อยๆ แค่นั้นเอง ไม่น่าจะเป็นประเด็น

ทำไมทำให้สังคมจับตามอง ทำไมไม่อยู่ช่วยเพื่อน สองทำไมไม่ปรากฏตัวตั้งแต่แรก สามมีบาดแผลเกิดขึ้นของแต่ละคน คนก็สงสัยอีก พี่มองอย่างไร?

รณณรงค์ : ก็หนีไงตอนแรก ตกใจก็เลยหนี ประกอบกับตัวเองดื่มกันมาด้วย กลัวโดนดำเนินคดีเพิ่มหรือเปล่า เลยกลับบ้านไปก่อน ก็เห็นหลายคนทำแบบนี้ คนที่เขามีที่ปรึกษาดีๆ เขาทำกันแบบนี้ ไม่ให้ตำรวจเป่าแอลกอฮอล์ก็หนีกลับก่อน เพราะตำรวจยังไม่ได้สั่งให้ตรวจนี่ เหมือนขับรถ อย่าลืมนะถ้าเมาแล้วขับทำคนตาย มันมีเหตุให้ศาลไม่รอลงอาญาก็ได้ ต่อให้จ่ายเยอะก็ตาม แต่นี่เป็นเรือ ถึงไม่มีกฎหมายชัด แต่การขับเรือต้องมีความปลอดภัย ถ้าเมาแล้วขับก็ส่อให้เห็นว่าคุณประมาทเลินเล่อค่อนข้างเยอะกว่าคนอื่น

ตั้ม : เรื่องเมาแล้วขับ เขามีการรับแล้วว่าดื่มกันไปจริง ทั้งคนขับและหลายๆ คน น่าเป็นเหตุในการลงโทษ ศาลอาจใช้ดุลยพนิจรอลงอาญาให้หรือเปล่า ถึงแม้ชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว แม้แม่คนตายไม่เอาเรื่องเอาราย รับสารภาพด้วย เดี๋ยวศาลจะดูตรงนี้ด้วย

เกิดผล : ผมเชื่อว่ามีการดื่ม เมา เผลอๆ น้อง​ แตงโม​ ดื่มด้วย อุบัติเหตุครั้งนี้อาจเกิดจากน้อง หรือใครคนใดคนหนึ่งซึ่งเกิดเหตุจากการเมา แต่ก็ยังสงสัยว่าเมาขนาดไหน ที่มีเพื่อนตกน้ำตาย แล้วยังเมาค้างอยู่ ส่วนใหญ่เกิดอุบัติเหตุ จะหายเมาเป็นปลิดทิ้งนะเท่าที่เห็น

เดชา : ถ้าเมามากก็คิดอะไรไม่ได้ไง ก็เมา

เรื่องสัญญาประกันชีวิต ที่คุณธัญญ่าโทรศัพท์ไปบอกฮิปโปว่ามีสัญญาตัวหนึ่งที่​ แตงโม​ เคยทำไว้ เป็นเรื่องประกันชีวิตที่รายการมอบให้ ถ้าเสียชีวิตไป ผู้รับประโยชน์คือ​ ลูกกระติก ได้รับเงิน 1 ล้านบาท เรื่องนี้จะเป็นประเด็นไหม?

ตั้ม : ตอนนี้ที่มีข่าวว่าทาง​ แม่​แตงโม​ ยกเลิก จริงๆ ถ้าคนยกเลิกได้คือผู้เอาประกัน แต่ต้องก่อนที่ผู้รับประโยชน์จะแสดงเจตนาถือเอาประโยชน์ของสัญญาประกันด้วย ถึงจะยกเลิกได้ กรณีนี้ สมมติคนทำเสียชีวิตไปแล้ว ก็ไม่สามารถยกเลิกได้

แสดงว่าประกันอันนี้ต้องถึงมือ​ ลูกกระติก​ ?

ตั้ม : ก็ตามเจตนาที่เขาทำไว้ก่อนตาย ว่าเขาอยากยกให้ใคร คนนั้นก็ได้ไป

ถ้า​ กระติก​ ต้องการแสดงความจริงใจ ต้องเอาเงิน 1 ล้านบาทคืนให้แม่เขาไป?

รณณรงค์ : ต้องไปเอาใบมรณบัตรจากแม่เขาก่อน แล้วไปเอาเงิน 1 ล้าน จะให้ไหมก็หลังจากนั้น ต้องคุยกันและต้องให้แม่ให้อภัยด้วย

มื่อวานเขาพูดจาขอโทษขอโพย เขาพยายามแสดงความจริงใจ แต่กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย จะมีผลไหม?

เดชา : นี่ไปขอโทษ หรือไปเถียงกับแม่

ฝั่งปอกับโรเบิร์ตบอกจะชดใช้ให้แม่ จะดูแลแม่ต่างๆ นานา จะเป็นการบรรเทาไหม?

ตั้ม : บรรเทาครับ ต้องบอกว่าคนวางหมากให้เขาฉลาดพอสมควร มีทั้งกราบขอโทษออกสื่อ

ใช้คำว่าวางหมากเลยเหรอ?

ตั้ม : ใช้คำว่าแนะนำก็แล้วกันครับ มีจะไปบวชด้วย ชดใช้ค่าเสียหาย ทุกอย่างพวกนี้ เขาต้องเอาไปใช้ในศาลอยู่แล้ว เพื่อให้ศาลใช้ดุลยพินิจลงโทษสถานเบา

เขามีความผิดแน่นอนเรื่องการขับเรือ?

ตั้ม : ตำรวจตั้งข้อหาแล้ว ถ้าอัยการสั่งฟ้องก็ไปศาลแน่นอน

รณณรงค์ : เป็นเรื่องปกติที่คนเขาทำกัน มันก็ต้องทำแบบนี้แหละ ไปทางอื่นมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเก่งนะ ทำให้แม่เขายอมรับได้ จากที่เขาไม่คุยเลย ไม่รู้ใช้วิธีไหน

เดชา : เป็นสูตร เวลาขับรถชนคน ตกเรือ ก็ต้องแนวนี้แหละ หนึ่งรับสารภาพ สองออกโหนกระแสต้องร้องไห้ สามกราบเท้า สี่ถ้าดูแลดีก็ขอกอดด้วย ดูแลค่าเสียหายเต็มที่

เกิดผล : ทางออกที่ดีที่สุดถ้ารู้ว่าตัวเองไปไม่ได้คือการเยียวยา ทางออกที่ดีที่สุดถ้าจะให้ระงับทั้งแพ่งและอาญา ไม่ให้เกิดความเสียหายก็คือชดใช้ค่าเสียหาย จะนอกรอบ ในศาล หรือเจรจากันก็ได้ ถ้าเป็นที่พอใจของเขาแล้วก็เป็นอันยุติได้

เดชา : เขาเรียกว่าเป็นการสำนึก ถึงแม้จะจริงหรือจัดฉากก็เป็นการสำนึก ส่วนการบรรเทาต้องขอเลขบัญชีมาและโอนเงินเข้าไป อันนี้คือเรียกว่าบรรเทา

เขาจะให้รายเดือน ได้ไหม?

เดชา : ทำได้ อยู่ที่เขาตกลงกัน

ตั้ม : ถ้าแม่เขายินยอม

ถ้าแม่เขาขอเป็นก้อน?

ตั้ม : ถ้าแม่ขอเป็นก้อนแล้วทางนั้นบอกไม่ไหว ศาลอาจพิพากษามาให้ว่าตอนนี้ได้รับมาเท่าไรแล้วก็ได้ หรือศาลอาจให้เลื่อนคดีไป 6 เดือน รอดูฟังผลว่าได้จ่ายเงินจริงไหม ชำระเป็นก้อนๆ ได้เท่าไร

รณณรงค์ : ควรเอาเป็นก้อนตั้งแต่วันนี้เลย จะได้ไม่ต้องมาตามทุกเดือน มันง่ายดี ผมแนะนำอย่างนี้นะ ไม่ต้องไปรอผ่อน

ตั้ม : แต่ผมก็เชื่อว่าเขาจ่ายเป็นก้อน เพราะเขาก็อยากจบไว พวกนี้ก็มีเงินกันอยู่แล้วแต่ละคนก็เป็นไฮโซ เขาพร้อมจ่าย ก็ต้องมาดูตัวเลขว่า​ แม่​แตงโม​ ติดใจเท่าไร ทางเขาไหวเท่าไร หาจุดกึ่งกลาง ถ้าจบได้ แม่ต้องไปแถลงในศาลว่าไม่ติดใจเอาความสองคนนี้แล้ว ถ้าตกลงตัวเลขกันไม่ได้ แม่ก็ยังติดใจอยู่ ก็เป็นผลลบกับตัวผู้ต้องหาได้ว่าฝ่ายผู้เสียหายยังติดใจอยู่นะ แต่ถ้าเขาเรียกมากเกิน ทางนี้ไม่ไหว เขาก็อาจเอาเงินก้อนหนึ่งที่คิดว่ามากพอแล้วไปวางศาลแล้วรับสารภาพก็ได้ อันนี้คือสูตรสำเร็จของคนที่รับสารภาพ ชดใช้ค่าเสียหาย เพื่อให้ศาลลงโทษน้อยที่สุด หรือรอลงอาญา

เรื่องการปัสสาวะเอาจริงๆ มันตรวจสอบได้ไหม จะมีหลักฐานไหม เพราะมีคนรู้คนเดียวคือ​ แซน​ ?

เดชา : ตรวจสอบไมได้หรอก ได้ข่าวมาว่าผลตรวจสอบไม่สามารถตรวจสอบปัสสาวะได้ ฉะนั้นเมื่อไม่มีประจักษ์พยาน พยานแวดล้อมต่างๆ ก็เป็นเรื่องยาก

ตั้ม : แม้ตัวน้อง​ แตงโม​ ไม่สามารถตรวจได้เพราะร่างกายเสียไปหมดแล้ว แต่ตรงท้ายเรือที่อ้างว่าไปนั่งปัสสาวะ ถ้าปัสสาวะจริงๆ ต้องเลอะตรงกาบเรือตรงนั้น เขาสามารถตรวจได้ถ้ามีเหลือพอ เพราะตรงนั้นน้ำก็น่าจะเข้า พูดตรงๆ แต่ถ้าเหลือเจือจางนิดหน่อยก็อาจมีปัสสาวะน้อง​ แตงโม​ อยู่จริง

ถ้าเจอปัสสาวะคุณ​ แตงโม​ ตรงนั้น คือจบเลย?

ตั้ม : แสดงว่าเขาพูดความจริง

รณณรงค์ : ถ้าเขาเอาเรือไปล้างล่ะ

ตั้ม : ก็ยังตรวจเจออยู่นะ

ล่าสุดตำรวจเอาใบพัดเรือไปตรวจแล้วว่าขาหลุดไปข้างในหรือเปล่า ตรงนี้ดีเอ็นเอน่าจะยังอยู่?

ตั้ม : น่าจะยังอยู่ ถ้าโดนเรือลำนี้นะ

เดชา : ไม่มั่นใจ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเรือ เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ กี่ขวดเมาก็ตอบได้

ตรงเลข 25 มีมือจับอยู่ หลายคนถามว่าถ้าไปนั่งปัสสาวะตรงนั้น มือจับตรงนั้นไม่แน่นกว่าจับขาเหรอ ทำไมไม่จับตรงนั้น ไปจับขาทำไม?

ตั้ม : ตรงนี้มีอยู่สองทาง อย่างแรกคือ​ แตงโม​ เห็นอันนี้หรือเปล่า เพราะตอนกลางคืน ทราบว่ามีที่จับหรือเปล่า สอง​ แซน​ นั่งอยู่ก็อาจจะบัง ทำให้ไม่สามารถจับตรงนี้ได้ ก็เลยต้องจับขาแทน พูดถึงความเป็นไปได้นะ

เดชา : มันไม่มีพยานหลักฐาน พูดยาก

รณณรงค์ : ถ้าเขาเห็น เขาคงจับแหละ เขาคงไม่ไปจับขาหรอก

เกิดผล : ส่วนตัวผมว่าเรือลำนี้ขึ้นมาตั้งแต่ทุ่มสองทุ่ม เดินไปเดินมาต้องเห็นบ้างแหละ เรือไม่ได้กว้างอะไร เชื่อว่าถ้า​ แตงโม​ ไม่มีใครบัง หรือไม่เกิดอุบัติเหตุก่อน เป็นผมก็เลือกจับที่มั่นคงก่อน

เรือไปเรื่อยๆ เลย วิ่งช้ามาก?

เกิดผล : ประเด็นแรก ถ้าบอกว่า​ แตงโม​ ไม่เห็น ไม่ค่อยปักใจเชื่อ เพราะเขาขึ้นเรือตั้งแต่หลายชม.ก่อน น่าจะมองเห็นอยู่ สองขณะที่​ แตงโม​ ไปปัสสาวะจริง เขามีผ้าคลุมสีขาวอยู่ เขาจะเอามือไหนจับผ้าคลุม เอามือไหนแหวก ต้องใช้สามมือเลยนะ อุบัติเหตุแน่ แต่เป็นอุบัติเหตุแบบไหน เพราะเอามือไปจับขาเพื่อนหรือจับเสาก็ได้ หนึ่งมือแล้ว ผ้าคลุมตรงนั้นจับอย่างไร

ตั้ม : เขาอาจจะถกหนีบรักแร้

เกิดผล : แต่ก็ไม่มีใครพูดถึง

ตั้ม : ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจดี

เกิดผล : ก็เลยสงสัยตรงนี้ ว่าทำไมคุณ​ แซน​ ไม่เคยเห็นพูดเรื่องเสื้อผ้า เรื่องชุดคลุมอะไรเหล่านี้ คุณ​ แตงโม​ เมาถึงขนาดนั้นหรือเปล่า ใช้มือไหนทำ

เรื่องไทม์ไลน์ ฝั่งคนอยู่บนเรือ 4 คน ไล่ไทม์ไลน์ให้ดูจากภาพ แต่มีคนบอกว่าเปลี่ยนเวลาได้ แต่ตำรวจก็เช็กได้ ปรากฎว่าไทม์ไลน์กำลังถูกเอามาเทียบเคียงกับระบบจีพีเอสของเรือ ว่าช่วงเวลานี้อยู่ตรงไหน สองดูความเร็วได้เลยว่าวิ่งความเร็วเท่าไร จังหวะไหน ตอนนี้อยู่กับตำรวจหมดแล้ว ตัวนี้ทำให้เขาหลุดเลยได้ไหม?

ตั้ม : หลุดจากอะไรล่ะ

รณณรงค์ : จะบอกว่าหลุดจากประมาทไม่ได้ เพราะกฎหมายเขียนชัด ขับเรือต้องระมัดระวัง ผู้โดยสารจะหล่นเรือไม่ได้ ผู้โดยสารอยู่ตรงไหน จะไปปัสสาวะหรืออย่างไร คุณก็ต้องห้าม เป็นหน้าที่คุณเลย งั้นถึงรีบขอโทษ

เกิดผล : คำขอโทษต้องเป็นเงินสดไหม

รณณรงค์ : อันนี้ไม่รู้

ทนายตั้มบอกว่าเรื่องประกัน เงินต้องเป็นของเด็ก คุณธัญญ่า ธัญญ่าเรศ โทรหาเมื่อกี้ โทรหาเลยตอนนี้ ประกันตัวนั้นมีอยู่จริงไหม?

ธัญญ่า : มีจริงค่ะ เป็นประกันอุบัติเหตุของทิพยประกันภัย เขามาออกรายการธัญญ่า แล้วมีกรมธรรม์มอบให้กับน้อง​ แตงโม ซึ่งวันนั้นถ่ายไม่ได้ไปดูรายละเอียด แต่ล่าสุดมีการเช็กไป ว่ากรมธรรม์ออกเป็นชื่อลูกบุญธรรม แล้ว​ แตงโม​ เขาเซ็นไว้ค่ะ

ตั้ม : เขาจดทะเบียนรับเป็นลูกบุญธรรมด้วยเหรอ

ธัญญ่า : เขาเขียนชื่อน้องไว้เลยค่ะ ตัวธัญญ่าเองก็โทรไปถามทางประกัน ประกันบอกว่าตามกฎหมายแล้ว เขียนชื่อใครก็ต้องให้คนนั้น ธัญญ่าก็ไม่รู้รายละเอียดจริงๆ มันต้องอย่างไร  นี่คือรายละเอียดที่สอบถามมาค่ะ แต่กฎหมายจริงๆ ญ่าก็ไม่แน่ใจ

ได้ติดต่อประสานไปทางบริษัทประกัน หรือเช็กรายการหรือยัง ว่ามีอยู่แน่ๆ ใช่ไหม?

ธัญญ่า : มีอยู่แน่ๆ ค่ะ ธัญญ่าเป็นคนมอบให้กับมือ แต่เรื่องลายเซ็นต่างๆ แตงโม​ เป็นคนเซ็นเอง ชื่อเป็นชื่อน้อง แต่รายละเอียดธัญญ่าไม่ได้สนใจว่าผู้รับผลประโยชน์จะเป็นใคร

จะประสานอย่างไรต่อไป?

ธัญญ่า : ทางบริษัททิพยประกันภัย เขาก็รอว่าทางผู้รับผลประโยชน์จะติดต่อมา ก็อยู่ที่ทางนี้แหละค่ะ น่าจะเป็นคุณแม่ของน้องติดต่อไปค่ะ

เรื่องนี้ตัวกรมธรรม์อยู่กับใคร?

ธัญญ่า : บริษัทธัญญ่า ส่งตัวกรมธรรม์ไปที่บ้าน​ แตงโม​  ซึ่งตอนนี้อยู่ในมือใคร เราไม่ทราบเลยค่ะ ส่งไปตามที่อยู่ที่เขาแจ้งไว้ ระยะเวลาคือ 1 ปี ตอนนี้ 10 เดือนแล้วค่ะ แตงโม​ เขามาออกรายการ 10 เดือนแล้วค่ะ

จะมีการประสานกับ​ กระติก​ ไหม เพราะมาจากรายการธัญญ่า?

ธัญญ่า : จริงๆ คุยกับทางประกันเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าอยู่ที่ตัวผู้รับผลประโยชน์จะติดต่อมาทางประกันเท่านั้น แต่เขาก็เตรียมเงินเรียบร้อยค่ะ

ต้องไปเอาใบมรณบัตรก่อนไหม?

รณณรงค์ : ต้องมีหลักฐาน  แล้วเอาไปยื่น

เขาจะคืนให้ไม่คืนก็ว่ากันอีกที?

ธัญญ่า : ใช่ค่ะ

มองอย่่างไร?

เดชา : เงินเป็นของผู้เยาว์

มีโอกาสอายัด แคนเซิลไหม ถ้าแม่จะทำ?

เดชา :   ผมว่าน่าสมบูรณ์แล้ว ไม่น่าทำอะไรได้ เพราะสัญญาประกันภัยหรือกรมธรรม์ เป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก แบบที่ทนายตั้มพูด เป็นการทำเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก ฉะนั้นบุคคลภายนอกเขาสุจริตอยู่แล้ว เขาก็ต้องได้รับตามนั้น แต่ทีนี้เป็นผู้เยาว์ คุณ​ กระติก​ ได้มาจะเอาไปมอบให้คนอื่นไม่ได้ นอกจากได้รับการอนุญาตจากศาลเยาวชน ซึ่งทางปฏิบัติทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเอาไปยกให้คนอื่น ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อเด็ก

ยากไปอีก สรุปแล้วเงินก้อนนี้ 1 ล้านต้องตกเป็นของ​ ลูก​กระติก แต่จะเอาเงินออกมาได้ ต้องไปเอาใบมรณบัตร ซึ่งแม่เป็นคนเอามา แม่มีสิทธิ์ให้ไหม?

รณณรงค์ : เขาจะไม่ให้ก็ได้

ฉะนั้นใบมรณบัตรนี้อาจไม่ถึง​ กระติก กระติก​ ก็อาจไปรับเงินตรงนี้ไม่ได้?

รณณรงค์ : กระติก​ ต้องไปขอโทษแม่ใหม่ แนะนำว่ารอบนี้ต้องร้องไห้ด้วย อย่าร้องไห้คนเดียว

ไปคัดเองได้ไหม?

เดชา : ได้เพราะมีส่วนได้เสีย หรือไม่ประกันก็ตรวจสอบเองได้

ด่านที่สอง ถ้าได้ใบมรณบัตรแล้ว ไม่ว่า​ กระติก​ ขอเอง หรือแม่ให้มา เอาใบมรณบัตรไปขึ้นเงินทางประกัน ได้เงิน 1 ล้านแล้วจะเอาไปให้แม่ ไม่ได้อีก?

เดชา : ไม่ได้ เป็นเรื่องใหญ่เลย เพราะเป็นทรัพย์สินผู้เยาว์ ต้องไปขออนุญาตศาลเด็ก ซึ่งไม่อนุญาตอยู่แล้ว จะเอาทรัพย์สินผู้เยาว์ไปยกให้คนโน้นคนนี้ไม่ได้ ต่อให้​ กระติก​ อยากคืนแค่ไหนก็ไม่ได้

ตั้ม : ต้องเอาเงินส่วนตัวคืนไป

เกิดผล : เงินที่ได้มาถ้าเป็นของเด็ก ต้องขออนุญาตศาลเท่านั้น ปกติศาลจะให้ผู้อำนวยการศาลพินิจดูแลทรัพย์สินร่วมด้วย

ตั้ม : บอกเอาไว้ให้ประชาชนรู้ด้วย สมมติเราอยากให้ทรัพย์สินลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แล้วเราโอนไปแล้ว วันหนึ่งเราร้อนเงิน อยู่ๆ จะไปโอนที่หรืออะไรมาเลยไมได้ ต้องขอคำสั่งศาล ถ้าเกิดว่าเป็นการกระทำไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของเด็ก ส่วนมากศาลจะไม่อนุญาต

เกิดผล : ถือว่าไม่ใช่ผลประโยชน์ของเด็ก เพราะหลักกฎหมายเพื่อเด็ก แต่เอาเงินไปคนอื่น ก็ไม่ใช่เพื่อเด็ก

แล้วเงิน 1 ล้านนี้ไปอยู่ที่เด็กแล้ว แม่เด็กมีสิทธิ์เอาไปใช้ได้ไหม?

เกิดผล : ตามหลักแล้วไม่ได้

แล้วจะไปอยู่ไหน?

เกิดผล : อยู่ในบัญชีของลูก อยู่ที่ว่าลูกสามารถเบิกได้เมื่อไร เดี๋ยวนี้ 18-19 ก็เบิกได้แล้ว

แม่​แตงโม​ ไปฟ้องอายัดไม่ได้ด้วย?

เกิดผล : ไม่ได้

เดชา : แนะนำวิธีที่ง่ายกว่านั้น อันนี้แค่ล้านเดียว ไปรับประโยชน์จากผู้ต้องหาเพิ่มสิ ง่ายกว่านะ คิดทำไมให้ยุ่งยาก ก็ไปเรียกเพิ่มจากสองผู้ต้องหาเพิ่ม

ตั้ม : ผู้ต้องหาปาดเหงื่อแล้ว

เดชา : ก็ให้สองคนเพิ่มคนละ 5 แสน ไม่ต้องไปยุ่งกับ 1 ล้าน ไปเรียกกับคนเมื่อวานที่มาสมัครเป็นลูกเพิ่มคนละ 5 แสน ที่บอกจะดูแลให้ดีที่สุด ไหนๆ จะดูแลแล้วก็เพิ่มอีกล้านหนึ่ง ที่มีผู้ต้องหาสองคนไปกราบเท้าพวงมาลัยกอด ดูหลังจากนี้นะ ดูข้อหาแล้วกันว่าใครบ้างจะเป็นผู้ต้องหาที่ไปถึงศาล เอาแค่นี้ หลังเคลียร์ค่าเสียหายกันแล้ว เพราะประเด็นคือความตายเป็นผลจากความประมาทของใคร แค่นี้ก็จบแล้ว ตอนนั้นใครขับเรือ เกิดจากเหวี่ยงเรือ หรือเกิดจาก​ แซน ถ้าเขาเคลียร์กันได้ ก็คอยดูว่าถึงศาลเหลือผู้ต้องหากี่คน

ตั้ม : ใครจะอยากให้ลูกติดคุก (หัวเราะ)

เดชา : คอยดูหลังจากวันนี้ หลังเป็นลูกเป็นแม่กันแล้ว จะเหลือกี่คนที่ถึงศาล

เกิดผล : ผมมองว่ามีโอกาสที่ผู้ต้องหาเพิ่มขึ้น เพราะแจ้งข้อหาสองคน คนอื่นยังมองว่าถ้าสอบต่อไปอาจมีผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นก็ได้

เดชา : ผมห่วงผู้ต้องหาที่ไม่มีเงินจ่าย

เขาไม่เกี่ยว?

ตั้ม : ก็เขาไม่ได้เป็นลูก เขาเกลียดกันอยู่ ไม่มีอะไรหรอก รณณรงค์รู้ดี ถ้าบางคนไม่ได้ไปถึงศาล อาจดังพอๆ กับกระทิงแดงก็ได้นะ เพราะนี่เป็นข่าวใหญ่นะ

เดชา : ตกลงเขาตกเรือเพราะการกระทำใคร กฎหมายต้องมีการกระทำก่อน เบิร์ตกับปอจะมาแย่งพวงมาลัยกันเหรอ เราดูกระแสก็ว่าไป แต่สุดท้ายใครเป็นผู้ต้องหา ผมรู้ว่าใครเป็นผู้ต้องหา

ตั้ม : อาจารย์เขียนคนหนึ่ง แล้วผมเขียนคนหนึ่ง พี่หนุ่มดูว่าตรงกันหรือเปล่า เอาคนที่คิดว่าโดนแน่

ทั้งสองคนเขียนชื่อคนๆ เดียวกัน?

เดชา : เพราะคนนี้เขาให้การรับสารภาพแล้ว

ตั้ม : ถ้ารอดสองคนค่อนข้างสะเทือนไปนิดหนึ่ง อาจมีคนหนึ่งที่ขึ้นสู่ศาล

เดชา : ดีไม่ดีเหลือผู้หญิงคนเดียวด้วย บอกให้

คลิปอีจันแนะนำ
แพทย์นิติฯ ยันคดี แตงโม บาดแผลพิสูจน์ไม่ยาก