เป็นนักร้องเสียงดี เต้นเก่ง มากความสามารถใครจะไปเชื่อว่า นักร้องหนุ่ม ไอซ์-ศรัณยู จะเป็นคนติดของหวานอย่างหนัก จนถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์ แถมเคยวูบกลางเวทีจนเกือบตายมาแล้ว โดยเจ้าตัวได้มาเล่าผ่าน รายการ Z story ว่า
“ตอนนี้ต้องเข้ารักการรักษาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจาก จิตแพทย์ เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ไม่ได้ถึงขั้นทำพินัยกรรม แต่ว่าเราเป็นคนชอบคิดเผื่อคนรอบข้าง พ่อแม่เราพี่น้องเรา แม้กระทั้งหลานเรา วางเป็นแพลนในอนาคตเลย แค่วางแผนเฉยๆ ส่วนในเรื่องของพฤติกรรมการกินของเรา เป็นคนมีความสุขมากกับการกิน แล้วพอไม่ได้กินแล้วรู้สึกหงุดหงิด แต่พอกินไปแล้วหลังจากนั้น 5-10 นาที รู้สึกจิตตก รู้สึกผิดเรากินไปทำไม เดี๋ยวเราอ้วน เดี๋ยวน้ำหนักขึ้น เสื้อผ้าเราแน่นไปหมด ออกทีวีแล้วเราดูอ้วน ”
ไอซ์ เล่าต่อว่า “ เราชีวิตสวิงอยู่แบบนี้ คนรอบข้างเตือนเรา ว่ากินเยอะไปแล้ว เพราะเราชอบแวะคาเฟ่ แวะที่ไหนก็เค้กหนึ่งชิ้น น้ำหนึ่งแก้ว เพราะฉะนั้นก็เลยทำให้วันนึงได้กินเค้กไป3-4ชิ้น น้ำอีก3-4แก้ว แต่ร่างกายมันรับไม่ได้ สภาพจิตใจมันก็ไม่โอเค เพราะว่าเรามีความสุขในการกินมาก แต่เรามีความทุกข์หลังจากนั้น เราก็ไปปรึกษาจิตแพทย์ อยากจะบอกทุกคนว่าคนไทยอาจจะไม่คุ้นชินกับการมีปัญหาอะไร รู้สึกแพนิค ไปหาจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาคนไทยจะรู้สึกว่า เอ้ย คนนี้เป็นบ้า แต่จริงๆแล้วสำหรับนานาชาติ มันเป็นเรื่องปกติมาก มันเหมือนกับการให้คำปรึกษา ให้ความให้เราสบายใจ ”
“ คุณหมอบอกว่าให้เราปรับการกิน หากิจกรรมทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เราติดขนมไปแล้ว ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ ก่อนหน้านี้เกือบจะตาย กินอาหารเยอะจนวูบ ปกติเวลาตื่นเช้าถ้าหน้ามืดมาส่วนใหญ่จะมาจากความดัน เรารู้เพราะเราตรวจสุขภาพมาตลอด แต่ช่วงหลังเวลาขึ้นเวทีมีอาการวูบ ตอนแรกคิดว่าหรือว่าเราแก่วะ แต่มันเริ่มมีความวิ้งค์ๆ เอือยๆเหนื่อยๆ ก็เลยไปตรวจกับคุณหมอ ตรวจการแข็งตัวของหลอดเลือด ปรากฏสารในเลือดของเรามีสารที่มีแอลดีแอล ปริมาณไขมันในเส้นเลือดสูงมาก ไขมันเลว ทั้งๆที่เราออกกำลังกายหนักมาก ปรากฏว่ามาสืบในเรื่องของการกินอะไรที่อันตราย เราทำหมดเลย ก็เลยปรับเปลี่ยนการกิน อนาคตไอซ์เนี้ยนะ อย่าเรียกว่าโอกาสสูง เรียกว่าเป็นเบาหวานแน่นอน เพราะว่ากรรมพันธุ์ด้วย ปริมาณการกินน้ำตาลด้วย ตอนนี้ก็เลยปรับมาควบคุมการกินให้มากขึ้นเป็นพิเศษ ”
ยังไง อีจันบันเทิง ก็ขอเอาใจช่วยให้หนุ่มไอซ์ กลับมาแข็งแรงไวๆ การกินอะไรเข้าไปหากแต่กินแต่พอดี ย่อมเป็นผลดีอต่อร่างกาย แต่ถ้ากินเยอะไป มันอาจจะก่อผลเสียก็เป็นไปได้นะคะ ก็เลือกกินเอาแต่พอดีจะได้ห่างไกลโรคนะคะ