เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่เรียกว่า ฟ้ารักพ่อ ของจริง สำหรับนักแสดงหนุ่ม ปีเตอร์ ธูนสตระ กับแฟนสาว จอย สุจิตรา เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่ทำหลายคนอิจฉาตาร้อนไปตามๆกัน
ซึ่งทั้งคู่ควงกันมาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บ Show ถึงเรื่องราวความรัก กว่าจะมาถึงวันนี้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคที่คนภายนอกมองว่าไม่เหมาะสม โรคภัยไข้เจ็บ และความรู้สึกของทั้งคู่
ปีเตอร์เข้าใจไหม ฟ้า รัก พ่อ คืออะไร?
ปีเตอร์ : เข้าใจแล้วนะครับ ตอนแรกไม่เข้าใจว่าเกี่ยวกับอะไร แต่ทีหลังเขาช่วยอธิบายด้วย ฟ้ารักพ่อ คือคนที่ช่วยเลี้ยง คนที่ดูแล
ชอบไหมชีวิตในวงการบันเทิง?
ปีเตอร์ : ชอบนะ รู้สึกว่าเป็นคนโชคดีมากๆ เรามีโอกาสทำงานแบบนี้สนุกมาก แล้วโชคดีอีกอย่างเจอคนใจดี
ตอนนี้กลายเป็นขวัญใจ LGBTQ+ไปแล้ว?
ปีเตอร์ : ดีใจมีคนมาชมงานเยอะมากๆ เป็นแค่ส่วนเล็ก ส่วนน้อย แต่ผมประทับใจทีมงานมากกว่า ดีใจที่มีคนรักเขาและงานไปได้ดี และคนนี้มีส่วนช่วยให้ผมได้งานนี้ ไม่งั้นผมไม่ได้งานนี้
ทุกครั้งที่มองจอย มันเป็นสายตาที่มองด้วยความรัก รักไหม?
ปีเตอร์ : รักสิครับ
ตอนนี้มีแฟนคลับที่เป็น LGBTQ+ เพิ่มขึ้น?
จอย : เพิ่มขึ้นมาก เข้ามาคอมเมนต์ ฟ้ารักพ่อๆ
มีบางกลุ่มเชื่อว่า พี่ปีเตอร์แอบชอบ LGBTQ ด้วย?
ปีเตอร์ : ก็น่าจะมี แต่จริงๆ แล้วเคยมีตั้งแต่อยู่อเมริกา อาจจะดูเป็นสไตล์นี้ แต่จริงๆ ไม่ใช่ แต่ก็ไม่เป็นไร ทุกคนแฮปปี้ รักใครก็รักไปเถอะ
พี่จอยถ้าเรามีแฟนแล้วเรามีลูก เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว บางคนอาจจะรู้สึกว่าอย่าเพิ่งพาไปเจอ แต่พี่จอยคบกับพี่ปีเตอร์ใหม่ๆ ก็ให้มาเจอลูกเลย?
จอย : บอกเลย อย่างที่บอกตอนแรก ถ้าจะคุยต่อ จะคบต่อ แต่ถ้าไม่คุยก็ให้มันจบตรงนั้นให้รู้ไปเลยทุกอย่าง
แล้ววันนั้นปีเตอร์บอกยังไง?
จอย : โอเค น่าสนใจ เราก็ไม่รู้ว่าเขาสนใจอะไร
อะไรทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะคบกับผู้หญิงคนนี้ต่อ?
ปีเตอร์ : มันทำให้เราตระหนักตัวเองนะ ถ้านั่งคิดกับตัวเองสักแป๊บจะรู้ว่าชีวิตผ่านไปไวแค่ไหน แล้วยิ่งมาเจอคนที่เป็นโรคประจำตัว ยิ่งคิดเรื่องนี้หนักขึ้นไปอีก โชคดีลูกเป็นเด็กน่ารัก ทุกครั้งที่พามาก็แฮปปี้กันหมด
ในฐานะที่อยู่ด้วยกันมา 12 ปี ทำไมให้เรียกว่าลุง ทำไมไม่ให้เรียกว่าพ่อ?
จอย : เขาเคยเรียกแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ถ้าให้มาเปลี่ยนมันก็ไม่ได้แล้ว มันชิน เราก็แล้วแต่ลูกเลยว่าอยากเรียกหรือไม่อยากเรียก มันไม่เกี่ยวว่าจะเรียกว่าอะไร
ปีเตอร์อยากให้การีมเรียกว่าพ่อไหม?
ปีเตอร์ : ไม่ เพราะความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว รู้สึกสบายใจ ไม่ต้องเปลี่ยนคำพูด ความหมายก็ไม่ได้เปลี่ยน ก็เลยรู้สึกสบายใจ
จากลุงปีเตอร์อยากเรียกว่าพ่อไหม?
การีม : ด้วยความที่มันชินแล้วก็จะเรียกลุงนี่แหละ
จอยป่วยเป็นธาลัสซีเมีย?
จอย : ใช่ค่ะ เป็นโรคเลือดชนิดนึง ทุกเดือนต้องไปเติมเลือด ตั้งแต่เด็กเกิดมาก็ต้องไปเติมเลือดทุกเดือน คือเลือดจะจางหายไปเลย ตอนนี้เราให้ยาด้วย ก็นอนโรงพยาบาลเดือนนึง 5 วัน
ปีเตอร์ : 5 วันต่อเดือน ตลอดชีวิต ลองคิดดู
พี่ปีเตอร์ก็รู้ตั้งแต่แรก?
จอย : ใช่ เราเป็นแบบนี้ เราต้องบอกเขาตั้งแต่แรก เราบอกเขาเลย คือมันเป็นเรื่องที่บางคนรับไม่ได้
ปีเตอร์รู้ตั้งแต่แรก?
ปีเตอร์ : ใช่ครับ ต้องไปเรียนรู้ แต่เขาเป็นคนที่สู้สุดยอดอยู่แล้ว
โรคนี้สามารถส่งต่อไปให้ลูกได้ไหม?
จอย : ได้ค่ะ มันเป็นกรรมพันธุ์
เห็นรักกันแบบนี้มันมีเรื่องทะเลาะกันด้วยเหรอ?
จอย : มันงอนกันมากกว่า เรื่องไปเที่ยว
เห็นว่าร้องไห้ด้วย?
จอย : ก็ร้องโมโห ก็ไปเที่ยวกันทั้งบ้านเลย ทีนี้เราอยากตื่นเช้าไปถ่ายรูป ไปทะเลกัน 3 วันแล้วไม่ได้ถ่ายรูปตอนเช้า ถ่ายแต่ตอนกลางคืน ไปทะเลมืดทุกวัน ทั้งที่เราไปอยู่ตั้ง 3 วัน เขาไม่อยากตื่น เราก็บอกว่า แต่เพื่อนนัดกันแล้ว เดี๋ยวตี5 เราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ว่ากว่าจะออก กว่าจะแต่งตัวมันก็ 7 โมง เราก็บอกว่าคุณนอนไปเถอะ ฉันไปกับเพื่อน อันนี้เขาก็บอกว่ามันเช้าไป เขาไม่ไหว เราบอกว่าไม่ไหวก็นอนไปนะ เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ พอเราลงไป เขาก็ไลน์ไปรอด้วยแต่บ่น
ปีเตอร์ : ตื่นมาง่วงมากๆ น่าจะนอนไม่พอ เห็นถ่ายรูปเยอะมาก ก็บอกว่าถ่ายรูปพอหรือยังไปจุดอื่นต่อ จะไปกินข้าวกันหรือยัง เขาก็เลยไม่แฮปปี้เท่าไหร่
จอย : เขาบอกว่าอย่าโกรธเลย พูดไปเพราะว่าไม่ได้คิดว่าเราจะโกรธ ก็พูดแบบแนวเล่น พูดไป ขำไป
แล้วเราหายไหม?
จอย : นาน
ใจลึกๆ พี่จอยอยากให้เป็นแบบไหน?
จอย : ความจริงวินาทีนั้น ถ้าจบมันคือไปได้เลยนะ เขาคงไม่เอาแล้ว แต่เขาบอก เขาเสียดายเวลาที่คบกัน ไม่อยากให้ปล่อยผ่านมันไปแบบนี้
ความรักของทั้งคู่ที่มีให้กันยิ่งใหญ่มาก ช่วยกันต่อสู้ ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆด้วยกัน จนมีวันนี้ เป็นความรักที่น่านับถือมากเลยค่ะ