อัปเดตอาการป่วย นิ้ง กุลสตรี ออกงานอีกครั้งในรอบหลายสิบปี

อัปเดตอาการป่วย นิ้ง กุลสตรี ออกงานอีกครั้งในรอบหลายสิบปี พร้อมเล่าวินาทีชีวิต และวิธีการรักษาสุดทรมาน

เป็นอีกหนึ่งสาวที่ฝากผลงานมากมายไว้ใน วงการบันเทิง ให้แฟนๆ คิดถึง ก่อนที่จะผันตัวไปเป็นแอร์โฮสเตส และหยุดทำงานเพื่อเข้ารับการรักษาตัว สำหรับ นักแสดง และ นางแบบ สาว นิ้ง ณิชชยาณัฐ หรือ นิ้ง กุลสตรี หลังพบว่าตนเองป่วยเป็นโรค ไขกระดูกบกพร่อง ทำให้ไม่สามารถสร้างเกล็ดเลือดได้ด้วยตัวเอง

ล่าสุดสาว นิ้ง ก็ได้กลับมาออกงานอิเวนต์อีกครั้งในรอบหลายสิบปี งานนี้จึงถือโอกาสให้เจ้าตัวได้อัปเดตอาการป่วยกันสักหน่อย โดย นิ้ง เผยว่า

“ตอนนี้ร่างกายก็ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังต้องกลับโรงพยาบาลไปตรวจเลือดทุกเดือนว่าค่าเลือดยังอยู่ในที่คุมอยู่ไหม เกล็ดเลือดคนทั่วไปคือหลักแสน แต่ของ นิ้ง มีแค่หลักพัน ต้องเข้าไอซียู ใส่ท่อ ตอนนี้ก็ดีขึ้น แต่เมื่อเดือนที่แล้วเกล็ดเลือดตกอีก คุณหมอก็ให้กลับมาตรวจใหม่ ฉีดยากระตุ้นให้ขึ้นมาหลักแสน แต่ก็ยังต่ำกว่าคนปกติ ยังต้องทานยาเคมีบำบัดอยู่ทุกวัน จริงๆ แล้วถ้าไม่มีอะไรก็จะอยู่บ้าน วันนี้คิดถึงเพื่อนลูกเรือ อยากจะมาเจอพี่ๆ น้องๆ ที่เคยทำงานด้วยกัน จริงๆ แล้วคือไม่ไหว แต่เหมือนได้มาแล้วเราก็รู้สึกมีพลัง อะดรีนาลีนมันหลั่ง ทำให้เรารู้สึกมีความสุข สดชื่น ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็ไม่ไหว เราคิดถึงเพื่อนๆ มากๆ ถ้าใครติดตามไอจี เฟซบุ๊กของ นิ้ง จะเห็น นิ้ง โพสต์รูปตัวเองใส่ชุดแอร์ แล้วเขียนว่าคิดถึงบ่อยมาก น้องๆ ลูกเรือที่ติดตาม นิ้ง ก็ยังคุยกันอยู่ วันนี้ได้มาเจอกันก็กรี๊ดกร๊าดกันด้วยความดีใจ ตอนได้เจอเพื่อนอีกครั้งบอกเลยว่าดีใจมาก จริงๆบอกคุณ อั้ม ธันวา ไปแล้วว่าอาจจะไม่ได้มางานวันนี้แล้ว เพราะเข้าโรงพยาบาล เวลาเข้าทีก็ให้เลือดหลายถุง รอบนี้กลับกลายเป็นให้แค่ถุงเดียว ซึ่งอยู่แค่ 4 วัน เหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยากให้มาที่นี่ อยากให้มาพบกับพี่ๆ นักข่าว และมาสนุกกับทุกๆ คน”

ต่อมา เจ้าตัวก็ได้เล่าอาการป่วยของตนเอง พร้อมเผยวิธีการรักษาสุดทรมาน เธอเล่าต่อว่า

“ร่างกาย นิ้ง ไขกระดูกไม่สร้างเกล็ดเลือด ตามตัวจะขึ้นจ้ำๆ ก็ไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่แรก ก็รักษาด้วยการให้เคมีบำบัดไป คุณหมอบอกว่าไม่เกิน 1 เดือนถ้า นิ้ง มาช้า นิ้ง จะเป็น มะเร็งเม็ดเลือดขาว เรื่องนี้ไม่เคยบอกใครมาก่อน ด้วยความโชคร้ายของ นิ้ง ต้องให้เคมีบำบัดถึง 8 ครั้ง แต่ นิ้ง ทำได้แค่ 4 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่ นิ้ง ทำก็จะเกิดการติดเชื้อ ต้องอยู่โรงพยาบาลทีหนึ่ง 2-3เดือน จนอาจารย์หมอบอกให้หยุดทำ แล้วก็รักษาด้วยการทานยาเอาวันละ 6 เม็ด ซึ่งตัวยาเคมีบำบัดก็จะไปกดไขกระดูก ตัวเลือดทั้งหลาย ทำให้เกล็ดเลือด เม็ดเลือดขาวตกได้ อาจารย์หมอก็เลยให้ นิ้ง ลดยาลงจาก 6 เหลือ 4 เม็ด ซึ่งก็ทำให้เลือดขึ้นมาจากที่กดเอาไว้ แต่มันก็เป็นอะไรที่เสี่ยงพอสมควร ตอนนี้ นิ้ง กินยาอยู่ 4 ตัว ตัวแรก นิ้ง แพ้ ก็แย่ไปเหมือนกัน ตอนนั้นปวดไปทั้งตัว ตัวที่ 2 ทานได้ซักระยะหนึ่งก็คิดว่าดีแล้ว อยู่ดีๆ ก็ถ่ายเป็นเลือด ก็รีบเปลี่ยนยาด่วน เป็นตัวที่ต่ำสุดแล้ว ใช้ปริมาณยาเยอะ ประมาณ 6 เม็ด พอทานไปแล้วมันไปกดค่าเลือด ก็อันตรายอยู่”

ทั้งนี้ด้วยโรคที่เธอเป็นค่อนข้างยากที่จะรักษาให้หายขาด และมักจะมีโรคแทรกซ้อนได้เสมอ ทำให้อาการทรุดบ่อย แต่เธอก็ไม่เคยท้อเพราะมีกำลังใจที่ดี จากทุกคนรอบข้าง และตัวเธอเอง รวมไปถึงสามีที่คอยดูแลไม่เคยห่าง

“บอกตัวเองตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าเราเป็นโรคอะไร แล้วรักษาแบบไหน บอกตัวเองว่าเราควรอยู่กับวันนี้ อยู่กับตรงนี้ วันนี้เราให้เคมีบำบัด เราปวดตรงไหนก็รักษาตรงนั้น อย่าไปมองวันพรุ่งนี้ว่าจะหายพรุ่งนี้ หรือวันไหนฉันจะเป็นยังไง ก็จะไม่มอง ไม่ไปคาดหวังกับอนาคต คาดหวังแค่วันนี้เท่านั้นว่าวันนี้เรามีความสุขแบบไหน ขอบคุณตัวเอง พยายามบอกตัวเองขอบคุณนะที่ได้ตื่นมาตอนเช้า มีรอยยิ้ม ได้เจอสามี มีความสุข แต่สำคัญสุดคือสามี ที่อยู่เคียงข้างไม่เคยห่างเลย แม้กระทั่งอยู่ไอซียูอยู่เกือบเดือนเขาก็มาทุกครั้งที่ลืมตาก็จะเจอ 5 วันแรกคือไม่ตื่นก็คือหลับ วันที่ 4 หมอบอกกับสามีว่าให้ทำใจ ไม่รอด แต่โชคดีก็ตื่นในวันที่ 6 ลืมตาแล้วก็หลับ เนื่องจากว่าอาจารย์หมอให้ยา 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เจ็บข้างใน เพราะเอฟเฟ็กต์การให้เคมีบำบัด ตอนอยู่ไอซียูไม่รู้สึกตัว เข้าอาทิตย์ที่สามก็ยังหลับๆ ตื่นๆ ยังไม่รู้สึกตัว หลังจากอาทิตย์ที่ 3 เริ่ม เอียงๆ ได้ ทุกครั้งที่ลืมตาจะเห็นเขาจับมือ นิ้ง อยู่ข้างๆ”

สุดท้ายเธอก็ได้ให้กำลังใจกับคนที่ประสบปัญหาเช่นเธอ และขอบคุณทุกกำลังใจจากทุกคนๆ ที่มีให้เธอมาโดยตลอด

“เห็นไหม เราป่วย เราเข้าห้องไอซียู เรานอนติดเตียง เราต้องมาฝึกเดินใหม่ แต่ว่าเราก็ยังเดินมาอยู่ตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นทุกๆคน ไม่อยากบอกว่าขอให้หาย แต่อยากบอกว่าขอให้ทุกๆคนแข็งแรง แล้วก็สู้ แล้วก็ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณที่ได้ตื่นขึ้นมา ได้มีลมหายใจเย็นๆ ในแต่ละวัน ได้มีความสุข ได้มีรอยยิ้ม ยิ้มไว้ ไม่สบายยังไงเราก็ยิ้มไว้ ให้ข้างในเรามีความสุขมันก็จะออกมา อยากบอกทุกคนดีใจมากๆ ไม่เฉพาะแฟนคลับ พี่ๆ น้องๆ นักข่าวทุกคนด้วยที่ยังไม่ลืม นิ้ง ให้โอกาสมาสัมภาษณ์ นิ้ง ทั้งๆ ที่ นิ้ง ออกวงการไปตั้งแต่ 2004 ทุกๆ คน ยังให้โอกาส นิ้ง แล้วก็ยังให้เกียรตินิ้งมาสัมภาษณ์ในวันนี้ มันเกินคำพูดคำว่าขอบคุณจากใจ ขอบคุณมากค่ะ”

อีจันบันเทิงก็ต้องขอเป็นกับลังใจให้กับ นิ้ง กุลสตรี ด้วยนะคะ ขอให้อาการป่วยดีขึ้น และมีความสดใสในทุกๆ วัน เพื่อที่จะส่งต่อพลังงานดีๆ ให้กับคนอื่นต่อไปค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
แอนนา ชี้แจง หลังมีดราม่า คนมองเหยียดรถไฟฟ้า