ถูกมองว่าใจแคบ พร้อมโอดอยากกลับบ้าน! หลังติดเชื้อโควิด-19

เปิดใจ “เจ๊น้อง” อดีตนักข่าว ป่วยโควิด-19 ที่เนเธอร์แลนด์ พร้อมเผยปมดราม่าใจแคบ!

จากมีประเด็นออกมาว่า “เจ๊น้อง-ศิริลักษณ์ ศิริสุนทร" อดีตผู้สื่อข่าวไทย ที่ปัจจุบันอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวการป่วยเป็นโควิด-19 ในต่างแดน ต้องรักษาตัวเองอยู่ที่บ้านตามลำพัง ทำให้มีการพูดถึงประเด็นนี้กันเป็นวงกว้างและหลากหลายมุมมอง ทาง "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" จึงเปิดใจสัมภาษณ์ "คุณวี" เพื่อน "เจ๊น้อง” พร้อมทั้งวิดีโอคอลสัมภาษณ์ “เจ๊น้อง”

ภาพจากอีจัน
-คุณวีกับคุณน้องรู้จักมานานหรือยัง? วี : "น่าจะร่วมๆ 20 ปี ตอนเจ๊น้องอยู่เมืองไทย แกเป็นผู้สื่อข่าว ผมก็เป็นผู้สื่อข่าวได้กินได้เที่ยวได้ทำงานร่วมกันบางส่วน" -เจ๊น้องไปอยู่เนเธอร์แลนด์นานหรือยัง? วี : "น่าจะ 10 ปีขึ้นครับ ตอนนั้นพบรักหนุ่มเนเธอร์แลนด์ คบหาดูใจกันระยะหนึ่งก็ไปใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน แกทำหลายอย่าง ตอนแรกทำร้านอาหาร ตอนหลังทำเป็นสปา เสริมความงามของตัวเอง" -ตอนรู้ข่าวว่าเจ๊น้องติดเชื้อโควิด? วี : "เราคุยทางไลน์เป็นระยะ ตอนคุยแกก็ไม่มั่นใจ แกบอกว่ามีอาการไข้ อาการหลายๆ อย่างเป็นตัวบ่งชี้ว่าใกล้โควิด เขาอยากไปตรวจแต่ไปตรวจไม่ได้ เพราะเนเธอร์แลนด์เขาเข้มงวด คนไปตรวจได้ต้องเป็นบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข ถ้ามีกลุ่มเสี่ยง เขามีข้อสันนิษฐาน ที่โน่นไม่มีการไล่ไทม์ไลน์เหมือนเรา เขาสันนิษฐานว่าเพื่อนสนิทคนหนึ่งมาหา เอาข้าวปลามาให้แล้วบังเอิญเขาจาม แต่ช่วงนี้มีฤดูใบไม้ผลิ มีเทศกาลทิวลิป และอาจแพ้เกสร จามเป็นเรื่องปกติ เขาสงสัยว่าคนนี้หรือเปล่า แต่คนนี้เขาแข็งแรง ไม่มีอาการอื่นนอกจากจาม การไปรู้ว่าต้นตอมาจากไหนเป็นเรื่องยาก" -ตอนเห็นคลิปเพื่อนร้องไห้? วี : "แกไม่ได้ร้อง แกหมดแรง ก็เป็นห่วง เห็นใจ เดิมเขาอยู่เมืองหลวงมีคนไทยที่เป็นเพื่อนไปมาหาสู่กันง่าย ตอนนี้แกย้ายมาอีกเมือง การให้เพื่อนมาเยี่ยมทุกวันก็ยากแล้ว แกก็ต้องสู้ด้วยตัวเอง" -หลังมีคลิปก็มีดราม่าเกิดขึ้น? วี : "เนื่องจากแกก็เล่าไปตามตรงว่าประสบการณ์โดยตรงเกิดอะไรขึ้น กว่าจะเข้าไปหาแพทย์ให้แพทย์ตรวจ ตอนนี้เพิ่งแอดมิดเมื่อคืนวาน อย่างว่าคนเจ็บไข้ได้ป่วยและอยู่คนเดียว ก็คงรู้สึกว่าทำไมไม่ได้รับความช่วยเหลือ บังเอิญมีหญิงไทยที่อยู่ทางโน้นก็โพสต์ทำนองว่ามาอาศัยประเทศเขาก็มาว่าประเทศเขาอีก ไม่พอใจก็ออกไปสิ แล้วกล่าวหาแกว่าอย่ามาโกงคนไทยด้วยกัน มีเพื่อนๆ คนไทยที่รู้จักกันดีก็มาชี้แจงให้" -เจ๊น้องรู้จักเขามั้ย? วี : "ก็คุย ก่อนหน้านี้เจ๊น้องเขามีบางเรื่องต้องอาศัยกฎหมาย อาศัยทนาย ต้องมีหนังสือที่ผ่านการแปลโดยล่ามที่ผ่านการรับรองของเขา ก็จะใช้บริการของคนนี้ เขาก็อ้างว่าเจ๊น้องไปค้างอะไรเขา ก็มีเพื่อนมาอธิบายว่าไม่ใช่ ตอนนั้นกำลังจะได้ใช้บริการ แต่ถึงจุดนึงรัฐบาลเขาเข้ามาช่วย ทำให้ไม่ถึงต้องไปใช้"
ภาพจากอีจัน
-วิดีโอคอลเจ๊น้อง อาการเป็นมานานหรือยัง ตอนนี้อยู่ที่ไหน? เจ๊น้อง : "เพิ่งได้มารพ. เมื่อคืนก่อนนี้เองค่ะ ไอมาก่อนเป็นสิบๆ วัน ปวดเมื่อยตัววันที่ 15 โทรหาหมอวันที่ 16 แต่หมอไม่ได้รับสาย หลังจากนั้นหมอโทรกลับ บอกว่าให้พักผ่อน กินน้ำเยอะๆ กินพาราถ้ามีอาการ ไม่ได้เรียกให้ไปพบอะไรค่ะ"
ภาพจากอีจัน
-คลิปที่เห็น ความรู้สึกข้างในคืออะไร? เจ๊น้อง : "เราไม่ได้รับการเทสว่าเป็นโควิดหรือไม่ ทั้งที่เราร้องขอ ป่วย 39.4 หลังจากนั้นโทรอีก หมอให้วันนัดไปพบ โชคดีคลินิกหมออยู่ใกล้บ้าน เดินไป 5 ก้าวก็ถึงเหมือนตึกแถว หมอตรวจก็ปกติ มีไข้สูงจริง แต่ไม่เทสโควิดให้ อาการเราก็คล้าย เราอยากรู้ว่าเป็นมั้ย หมอบอกว่าตรวจให้เฉพาะคนทำงานด้านเฮลท์แคร์เท่านั้น เรารู้สึกว่าอ้าว แบบนี้ต้องมีคนป่วยอีกเยอะที่เขาไม่รู้ว่าเป็น จนอีกครั้งสองครั้งเราโทรหาหน่วยงานโรคติดต่อเองว่าขอตรวจได้มั้ย หมอบ้านไม่ตรวจให้ หน่วยงานนั้นก็พูดดีว่าเธอต้องขอหมอบ้านใหม่ ว่ามีโรคประจำตัว ความดันสูง มีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เราก็อ้างกับหมอบ้านแบบนี้ หมอบ้านคงรำคาญ ก็เลยเทสให้ ตรวจคอจมูก และใส่ถุงแพ็กให้เราไปส่งแลปเอง เราก็ให้เพื่อนเดินไปส่งให้" -อีกกี่วันรู้ผล? เจ๊น้อง : "เขาบอก 24 ชม.ผลจะออก แล้วเขาก็โทรมาบอกว่าเป็นโพสิทีฟนะ เดี๋ยวจะส่งอีเมล์แนะนำ และหมอบ้านจะโทรมาอีกที ในอีเมล์ส่งมาว่าโพสิทีฟให้กักตัวอยู่บ้าน ถ้าหายก็ให้กักตัวอีก 24 ชม. ไม่มีบอกว่าจะเทสใหม่ ว่าเนกาทีฟหรือยัง หมอบ้านโทรมาทีหลัง บอกเหมือนเดิมว่าถ้าไข้ก็กินยา ดื่มน้ำเยอะๆ" -ไม่ให้นอนรพ.? เจ๊น้อง : "ถูกต้องค่ะ" -เขาแจ้งเรามั้ย ยังไงต้องให้เข้ารพ.? เจ๊น้อง : "ถ้าเป็นหนักหายใจไม่ออก ออกซิเจนต่ำมากถึงได้นอนรพ." -นอนห้องรวมหรือห้องเดี่ยว? เจ๊น้อง : "ถ้านับเป็นห้อง 4 เตียง แต่ตอนนี้มีดิฉันคนเดียวค่ะ" -เหมือนหายใจลำบาก? เจ๊น้อง : "ตอนเช้าตื่นมารู้สึกวิงเวียนและเหนื่อย เขาวัดความดัน ความดันเราต่ำ เรายังห่วงตัวเอง ความดัน 90 60 แต่ดิฉันไม่ได้ยาเพิ่มอะไรจากความดัน ได้น้ำเกลือถุงเดียว ยาพ่นมีประจำ เป็นยาปอดอุดกั้นเรื้อรัง เขาเพิ่มให้หลอดสีฟ้า ดูดเข้าปากเวลาเหนื่อย และมียาความดันสูง วันนี้หมอบอกว่าไม่ต้องทานยาความดันตัวนี้เพราะตอนนี้มันต่ำแล้ว" -เข้ารพ. ยังไม่ได้รับการรักษาจริงจัง? เจ๊น้อง : "มีเอกซเรย์ปอด เจาะเลือดหลายหลอดเลย หมอบอกว่าตรวจเกี่ยวกับตับ อะไรหลายอย่าง เขาไม่ได้อธิบาย เขาบอกปกติ ส่วนปอดเราถามว่าปอดเสียหายอะไรมั้ย เขาบอกว่าเป็นปอดสำหรับคนเป็นซีโอพีดี ซึ่งเราก็งงๆ เหมือนกัน เราถามว่าจะมีจุดดำอะไรมั้ย เพราะเห็นเมืองไทยพูดว่าเอกซเรย์บางทีมีจุดดำที่ปอด เขาบอกว่าไม่มีผลเอกซเรย์ปอดก่อนหน้านี้ของเรา มีแต่ตอนนี้ที่เขาเปรียบเทียบไม่ได้ แต่เป็นปอดของคนที่เป็นซีโอพีดี คงไม่ดีเท่าคนปอดปกติ ประมาณนั้น" -ตอนนี้ยังไม่รู้จะรักษาอย่างไรเพิ่มเติม? เจ๊น้อง : "ค่ะ แต่จากที่เข้ามาที่อีอาร์ เขาบอกว่าจะแอดมิด 1 คืน แต่วันนี้หมอวอร์ดโคโรน่ายังไม่มาดูค่ะ เราก็ไม่รู้จะมีต่อหรือไม่ต่อ ความจริงไม่ค่อยอยากอยู่แล้ว ถ้าได้แค่น้ำเกลือเพราะนอนไม่ค่อยหลับเลย เสียงดังมากค่ะ"
ภาพจากอีจัน
-ความรู้สึกคนไปอยู่ต่างแดน ไม่มีญาติเข้าไปดูแลได้? เจ๊น้อง : "บางทีก็โดดเดี่ยว บางทีก็กลัว เคว้งคว้าง เราก็เลยแค่อยากจะโพสต์ตรงนั้นบอกญาติเรา เพื่อนเรา เพราะเขาห่วงเรา เขาถามหลังไมค์ จะให้มาตอบแชตก็หลายคน ก็เลยตอบทีเดียวแล้วกัน ก็ไม่คิดว่าจะโด่งดังมากขนาดนี้" -รวมถึงดราม่า มีคนไทยที่โน่นออกมาโพสต์ไม่เห็นด้วยกับคุณ? เจ๊น้อง : "รู้สึกเสียใจและคิดว่าเขาใจแคบ ดิฉันพูดเรื่องจริงไม่ได้แต่งเติมขึ้นมาเลย แล้วประเทศนี้เป็นประเทศเสรี วิจารณ์ได้ ประเทศไทยเรากำลังพัฒนายังวิจารณ์ได้เลย เราก็พูดเรื่องจริงว่าเขาไม่ค่อยเทสให้ เขาประหยัดชุดเทส ทั้งที่บอกว่าเป็นประเทศที่รวยอย่างโน้นอย่างนี้ เทสให้เฉพาะพวกแอดมิดแล้ว อาการหนัก แล้วการหาหมอที่นี่ก็ยาก เราก็พูดความจริง เขามีกฎมีระเบียบก็จริง แต่บางทีถ้าเป็นถึงขนาดนี้ เป็นโรคที่่ทั่วโลกควบคุม กังวลกัน น่าจะมีมาตรการให้มากกว่านี้"
ภาพจากอีจัน
-สถานการณ์เนเธอร์แลนด์เป็นยังไง? เจ๊น้อง : "คนเป็นเยอะมากค่ะ คนเป็น 4 หมื่นแล้วที่ได้ตรวจ เสียชีวิต 4 พันกว่าราย มีคนแก่เสียชีวิตที่บ้านเยอะมาก เพราะเจ้าหน้าที่เอาเข้าไปติดเขา เขาก็เสียชีวิต" -ค่ารักษาที่โน่นแพงมั้ย? เจ๊น้อง : "ไม่ต้องจ่ายค่ะ ข้อดีเขาก็มี ระบบการรักษาที่นี่ทุกคนต้องมีประกันสุขภาพ เป็นการบังคับที่ต้องจ่ายต่อเดือน ประกันสุขภาพตกเดือน 100 กว่ายูโร แต่ส่วนหนึ่งรัฐบาลจะช่วยกลับมา 100 ส่วนต่างเราก็จ่าย 40-50 ยูโร ถ้าเจ็บป่วยระบบทุกคนต้องรีจีสเตอร์ว่าจะเลือกหมอบ้านที่ไหน ถ้าเป็นอะไรต้องโทรหาที่นี่และให้นัดมาว่าต้องไปพบมั้ย ถ้าเมื่อไหร่เขาบอกให้มาก็ไปตามเวลานัด แต่ทุกอย่างไม่ต้องเสียเงิน เพราะระบบประกันสุขภาพเขาจ่ายอยู่แล้ว"