พี่ฉอด เผย ดงดอกไม้ ยังมี พิ้งกี้ คาดช่วงท้ายเรื่องอาจต้องปรับบท

​​พี่ฉอด สายทิพย์ เผย ดงดอกไม้ ยังมี พิ้งกี้ สาวิกา คาดช่วงท้ายเรื่องอาจต้องปรับบท เผยเจ้าตัวอาจไม่รู้ตัว เพราะวันก่อนเกิดเรื่องยังมาถ่ายละครปกติ

หลังจากทีข่าวการควบคุมตัวนางเอกสาว พิ้งกี้ สาวิกา จากกรณีคดีแชร์ Forex-3D งานนี้หลายคนก็จับจ้องว่า ละครที่ พิ้งกี้ เคยถ่ายทิ้งไว้อย่างเรื่อง ดงดอกไม้ ของ พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา จะทำอย่างไรต่อไป

ล่าสุด พี่ฉอด ได้ออกมาตอบเรื่องนี้ พร้อมกับ เอส วรฤทธิ์ ในงานแถลงข่าว ONE สนั่นจอ โดยพี่ฉอดเผยว่า

พี่ฉอด : อย่างที่ทราบกันนะคะว่า ดงดอกไม้ มีน้อง พิ้งกี้ เป็นหนึ่งดารานำแสดงด้วย และพอมาถึงตอนนี้ ก็คือ…ดงดอกไม้เป็นละครที่เราถ่ายกันมาเป็นปีแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือแต่ช่วงตอนท้ายๆ ถือวาโชคดีค่ะที่เราถ่ายไล่ๆ มา ส่วนตอนนี้ก็รอดูสถานการณ์อยู่เหมือนกัน ถ้าหากจำเป็นจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจริงๆ เราก็จะดูเรื่องของบท การปรับบท หรือว่าปรับในเรื่องของโปรดักชั่น แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ให้คนดูเสียอรรถรส และก็ต้องสนุกเข้มข้นเหมือนเดิม

ในส่วนของการถ่ายทำยังมีคิวของ พิ้งกี้ ไหม ?

พี่ฉอด : ยังมีค่ะ ยังมี

เอส : คือจริงๆ แล้วในแง่ของการถ่ายทำเราก็ถ่ายกันมาตามลำดับขั้นตอนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในพาร์ตที่เป็นบทของพิ้งกี้ก็ถือว่าเราถ่ายไปได้เยอะแล้วเหมือนกัน คืออาจจะมีบ้างที่หลงอยู่ แต่ทางพี่ฉอดได้มีการไล่ดูบททั้งหมดแล้ว และเราก็ได้เตรียมแพลนบีไว้สำหรับแก้ไขปัญหาแล้วเช่นกัน

ได้มีการติดต่อคนรอบข้าง พิ้งกี้ ไปบ้างไหม ?

เอส : ก็จะมีผู้จัดการครับที่ต้องประสานงานกับทางทีมงานและทางกองถ่ายในแง่ของการอัปเดต เพราะว่าเรายังมีคิวที่ต้องถ่ายทำกันอยู่

ก่อนหน้านี้เคยมีสัญญาณให้เราทราบบ้างไหมว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ?

พี่ฉอด : ไม่มีเลยค่ะ ไม่มีเลย ตัวพี่เองก็ทราบจากข่าว และก็เข้าใจว่าน้อง พิ้งกี้ เองก็คงไม่ได้ทราบด้วยเหมือนกัน เพราะว่าก่อนวันนั้นประมาณวันพุธเราก็ยังถ่ายละครกันปกติ

มีความเป็นไปได้ไหมที่จะตัดทิ้งไปเลย ?

พี่ฉอด : ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะว่าละครถ่ายจะจบอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าเป็นเรื่องของการเปลี่ยนตัวหรือการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเลย มันคงเป็นไปไม่ได้เพราะว่าเราถ่ายใกล้จะจบแล้ว ที่สำคัญอีก 2 เดือนเราต้องออกอากาศแล้วด้วย ดังนั้นพี่คงใช้วิธีในเรื่องของการปรับบทค่ะ

ตอนนี้ก็รอดูสถานการณ์ ?

พี่ฉอด : รอดูสถานการณ์ก่อนค่ะ เพราะตัวพี่เองก็ไม่ได้มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องของคดีเองก็ตาม ฉะนั้นตอนนี้พี่จึงไม่แน่ใจว่าน้องจะมีโอกาสได้ประกันตัวออกมาทำงานต่อไหม เราก็เลยต้องมีแผนเอแผนบีไว้สำรอง

สามารถรอได้นานแค่ไหน ?

พี่ฉอด : จริงๆ ก็คงไม่กี่วันนี้ค่ะ เพราะละครต้องออนแอร์ในอีก 2 เดือน

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ ในแง่ของการทำงานได้รับผลกระทบอะไรบ้าง ?

เอส : ในแง่ของการถ่ายทำยังไม่ถือว่ากระทบนะครับ แต่ในแง่ของการทำบทเราก็ได้ทำการบ้านหลังบ้านแล้วเหมือนกัน คือดูว่าอะไรที่จะกระทบหรืออะไรที่จะปรับเปลี่ยนได้ปรับแก้ได้ ซึ่งตอนนี้เราไม่ห่วงแล้วในแง่ของการแก้ไขปัญหาเพราะเรามีแผนสำรองแล้ว

พี่ฉอด : อย่างที่บอกค่ะ สิ่งสำคัญก็คือเราต้องทำให้ดีที่สุด และไม่ทำให้คนดูเสียอรรถรส

กังวลเรื่องฟีดแบคจากคนดูที่ติดตามข่าวจะมีผลต่อละครไหม ?

พี่ฉอด : อันนั้นต้องแล้วแต่แล้วค่ะ แต่ถ้าโดยส่วนตัวพี่คิดว่าคนดูเขาแยกแยะได้ว่าอะไรตรงไหนยังไง ละครก็คือละครและนักแสดงทุกคนก็ทำเต็มที่สุดความสามารถแล้วจริงๆ

ตั้งแต่ทำละครมาครั้งนี้ถือเป็นปัญหาที่ไม่คาดคิดที่สุดเลยไหม ?

พี่ฉอด : โควิด เราก็เจอค่ะ พี่ทำคอนเสิร์ตแล้วต้องข้ามมาทำอีกปีหนึ่งก็เคยมีมาแล้ว (หัวเราะ)

เอส : ในแง่ของการทำงานเราต้องเจอปัญหาเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ ก็แก้ปัญหากันไป

โดยพี่ฉอดก็ยังยืนยันว่า ดงดอกไม้ ก็จะยังมี พิ้งกี้ อยู่เหมือนเดิม แต่อาจจะต้องมีการปรับบท แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนนั่นเองค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
เปิดใจ ปราง กัญญ์ณรัณ หลังจบรัก 10 ปีกับ โต้ง ทูพี