ทนายตั้ม ชี้แจงเหตุการณ์คลิป ดาราน้องใหม่โดนตบหน้าที่เกาหลี

สืบเนื่องจากที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้ออกมาโพสต์ข้อความแฉนักแสดงรุ่นใหญ่ ทำร้ายร่างกายตบหน้าดาราน้องใหม่กลางห้างที่ประเทศเกาหลี

โดยวันนี้ (26 พ.ย. 65) ทนายตั้ม ได้ออกมาเผยคลิปจากกล้องวงจรปิด พร้อมได้ระบุข้อความว่า

“ชัดๆ เน้นๆ จุดจบคนมือไว ก็ไปสถานีตำรวจ ไปศาลบ่อยหน่อยแล้วกันนะครับ เห็นในไอจีบางคน ลงเรื่องเกลือกับน้ำตาล ในความคิดผมทั้งคู่มันก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ ที่น่ากลัวไม่ใช่สองสิ่งนี้ แต่เป็นคนที่ทำผิด ทำพลาดหลายต่อหลายหน แต่กลับไม่เคยคิดโทษตัวเอง จนจะเข้าวัยแซยิดยังคิดไม่ได้ แก่เพราะกินข้าวโดยแท้”

จากคลิปดังกล่าวที่ถูกเปิดเผย หลายคนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก และบางคนก็มองว่าเป็นเพียงการหยอกล้อหรือไม่ เพราะดูเหมือนเป็นการตบเบาๆ มากกว่า ล่าสุด ทนายตั้ม จึงออกมาตั้งโต๊ะแถลงด่วน พร้อมเพื่อนทนายแถวหน้าของเมืองไทย ชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเจ้าตัวเผยว่า

“แรงหรือเปล่าเราต้องวัดจากความรู้สึกของคนที่ถูกกระทำ น้องที่ถูกตบบอกว่าตบค่อนข้างแรง วันนั้นก็มีพยายานในเหตุการณ์ที่เป็นคนไทยหลายคน น้องเขาฝากบอกว่า เดี๋ยวกลับมาประเทศไทย เขาจะแจ้งความดำเนินคดี เรื่องนี้อัยการสูงสุดเป็นคนฟ้องคดี เพราะเหตุเกิดที่ต่างประเทศ ก็ฝากถึงคนไทยที่เห็นเหตุการณ์ ให้ติดต่อมาทางผมได้เลย”

ทนายตั้ม เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคลิปต่อว่า คลิปนี้ตำรวจที่เกาหลีใต้ส่งมาให้ เขาจึงตัดในส่วนที่มีคนอื่นออกไป เพราะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล ตอนนั้นผู้ก่อเหตุมีการชักชวนให้ไปกินปู ตนจึงบอกว่าเดินมา 3 ชั่วโมงแล้ว รู้สึกเหนื่อย มีของพะรุงพะรัง จึงขอไม่ไป หลังจากนั้นคู่กรณีเกิดอาการโมโห ก็เลยลงมือตบหน้าผู้เสียหาย แค่นี้ ไม่ได้มีการเถียง หรือทะเลาะกันแต่อย่างใด หลังจากเหตุการณ์ ทั้งคู่ก็ได้เดินออกไปข้างนอก และก็มีการตัโกนด่าทอกันเสียงดังมาก ผู้เสียหายรู้สึกอับอายกับคนไทยที่อยู่ตรงนั้น สุดท้ายก็ต้องยอมไปกินปูด้วย เพราะไม่อยากมีปัญหา เนื่องจากตนก็ยังไม่ได้ทำหน้า กลัวว่าจะไม่สามารถทำได้ ระหว่างที่กินปูก็ได้มีการพูดคุยกัน ทางผู้ก่อเหตุก็มีการเคลียร์ แต่หลังจากที่ได้ทำศัลยกรรมอะไรเรียบร้อยแล้ว ผู้เสียหายก็ได้มีการปรึกษากับทางครอบครัว ทางครอบครัวก็มองว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง จึงมาปรึกษาตน

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของผู้ก่อเหตุ และผู้เสียหาย ผู้เสียหายยืนยันว่าตนไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผู้ก่อเหตุในเชิงชู้สาวแต่อย่างใด ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกัน ทั้งค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรม ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก หรือค่าอาหาร เคยเจอผู้ก่อเหตุตามงานบ้าง เพราะผู้ก่อเหตุสนิทกับผู้จัดการ ตอนนี้ผู้เสียหายทำการย้ายโรงแรง เปลี่ยนไฟล์บิน บล็อกเบอร์โทรศัพท์ และไลน์เป็นที่เรียบร้อย ทางผู้ก่อเหตุก็พยายามติดต่อมา พอติดต่อไม่ได้ก็เลยติดต่อไปยังผู้จัดการ และมีการตำหนิเกิดขึ้น ตอนนี้ผู้เสียหายสับสนมาก เพราะไม่เคยเจอเรื่องใหญ่ขนาดนี้มาก่อน เขารู้สึกไม่โอเค

สำหรับ ทนายตั้ม เอง ตนมองว่า เรื่องนี้ค่อนข้างชัดเจน พยานหลักฐานโดยคดีอาญาแล้ว เขาจะฟังโจทก์เป็นหลัก นอกจากว่าจำเลยจะคัดค้านได้แตก ทั้งนี้ก็ค้องรอผู้เสียหายกลับมาคาดว่าน่าจะวันที่ 30 พ.ย. 65 และก็คงจะดำเนินคดี อาจจะให้พนักงานอัยการสอบสวนเอง เบื้องต้นเป็นคดีทำร้ายร่างกาย ที่เกาหลีก็มีการแจ้งความเช่นกัน และกำลังจะไปติดตามคดีในวันจันทร์ ทั้งนี้ถ้าทางเกาหลีลงโทษแล้ว ผู้ก่อเหตุก็จะไม่สามารถรับโทษที่ไทยได้อีก แต่ถ้าเกิดว่าทางผู้ก่อเหตุกลับมาประเทศไทยก่อน เราก็จะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

หลายคนมองว่าผู้เสียหายอยากดัง ทนายตั้ม ยืนยันว่าไม่จริง เพราะถ้าผู้เสียหายอยากดัง เขาคงเปิดเผยตัวตนไปแล้ว เขาแค่อยากรักษาสิทธิ์ของตนเอง ส่วนประเด็นเคื่องผู้จัดการของ ดารารุ่นน้อง โพสต์ไม่พอใจ ทนายตั้ม เรื่องนี้ตนบอกว่าไม่ทราบ เพราะติดต่อกับผู้เสียหายโดยตรง ทราบแค่เพียงว่าผู้จัดการของเขาสนิทกับผู้ก่อเหตุ และล่าสุด คู่กรณียังไม่ได้มีการติดต่อมาแต่อย่างใด

ด้าน ทนายเดชา เสริมว่า คลิปมันชัดเจน เป็นลักษณะของการตบ และระหว่างผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้มีความสนิทสนมกันถึงขั้นไปตบหน้าเล่น การตบหน้าเป็นการเหยียดหยาม ร่างการเล็กน้อย แต่จิตใจมันอับอาย เพราะกระทำต่อหน้าบุคคลอื่น คลิปเป็นพยานคนกลาง มันชัดเจน อีกทั้งยังไปบังคับให้เขากินปูต่ออีก เขาไม่มีทางเรฃลือก ก็อาจจะผิดต่อเสรีภาพ จำคุก 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญาเขาจะดูจากพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ไม่ได้ดูตากคำพูด หรือพฤติกรรมหลังกระทำความผิด ไม่มีใครตบบุคคลอื่นโดยประมาท ส่วนตัวเคยจัดรายการกับผู้ก่อเหตุมาก่อน อยากให้เขาออกมายอมรับ เรื่องจะได้จบ

เอาเป็นว่าเรามารอติดตามกันต่อไป หลังจากนี้ผู้เสียหาย หรือคู่กรณี จะออกมาชี้แจงอย่างไรหรือไม่ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม แอดจะนำมารายงานให้ทราบกันต่อไป