กำลังเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างหนักในวงการภาพยนตร์ไทย หลังเวทีประกาศรางวัลสำหรับบุคคลในวงการผลิตภาพยนตร์ไทย อย่าง รางวัลรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ หรือ รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ ได้ออกมาประกาศกฎกติกา และเงื่อนไขใหม่สำหรับภาพยนตร์ที่มีสิทธิได้เข้าชิงในปีนี้ โดยภาพยนตร์ดังกล่าวจะต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ จะฉายผ่านสตรีมมิ่งอย่างเดียวไม่ได้ อีกทั้งจะต้องฉายในโรงภาพยนตร์ให้ครบทั้ง 5 ภูมิภาค และมียอดคนดูไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ด้วยเงื่อนไขนี้เองทำให้หลายคนมองว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับค่ายหนังค่ายใหญ่ๆ และปิดโอกาสหนังนอกกระแส จนทำให้เกิด แฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ จน ติดเทรนทวิตเตอร์
ต่อมาผู้กำกับ และบุคลากรในวงการภาพยนต์ไทยชื่อดังหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ศราวุธ แก้วน้ำเย็น อาร์ต ไดเรคเตอร์ หรือ ผู้กำกับศิลป์ ภาพยนตร์เรื่อง เวลา (Anatomy of Time) ที่กำกับโดย เก่ง จักรวาล นิลธำรงค์ ภาพยนต์ชั้นดีที่ได้เข้าฉายในรอบ World Premiere งาน Venice International Film Festival เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี และได้รับรางวัล Bisato Award for Best Screenplay , หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ คุณชายอดัม ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง , โจ หรินทร์ แพทรงไทย นักตัดต่อภาพยนต์เรื่อง Where We Belong ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม , ไก่ ณฐพล ผู้กำกับสารคดี เอหิปสสิโก , เต๋อ นวพล ผู้กำกับภาพยนตร์ Fast & Feel Love และ ปิง อดิสรณ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส 2 รวมถึง ค่ายหนัง Hollywood Thailand เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ บึงกาฬ (The Lake) ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมถอนตัวเข้าร้วมชิงรางวัล สุพรรณหงส์ เพื่อแสดงจุดยืน และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับวงการภาพยนตร์อีกด้วย
ด้าน อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ รองประธานสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ก็ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับกฎกติกาใหม่ของงาน สุพรรณหงส์ ในปีนี้ พร้อมยืนยันว่าตนไม่เคยทราบ หรือมีส่วนร่วมใดๆ กับการเปลี่ยนกฎดังกล่าว พร้อมระบุแคปชั่นว่า “ขอแจ้งให้สาธารณะทราบโดยทั่วกัน ผมขอลาออกจากการเป็นรองประธานสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติด้วยเหตุผลตามหนังสือลาออก ขอขอบคุณท่านเลขาสมาพันธ์ฯ พรชัย ว่องศรีอุดมพร ที่ชวนให้มาร่วมทำงานเพื่อ วงการภาพยนตร์ไทย หลังจากงาน World Film Festival of Bangkok ครั้งที่ 15 เมื่อต้นธันวาคม 2565 ที่มีจุดมุ่งหมายเปิดพื้นที่สำหรับภาพยนตร์ไทยอิสระ #แบนสุพรรณหงส์”
งานนี้เราคงต้องรอติดตามกันต่อไป ว่าทิศทางของงาน สุพรรณหงส์ ในปีนี้จะเป็นอย่างไร จะมีการปรับเปลี่ยนกฎกติกาใหม่อีกหรือไม่ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม แอดจะนำมารายงานให้ทราบกันต่อไปนะคะ
