เอ้ ชุติมา เล่าหมดเปลือกพฤติกรรมอดีตแฟนเด็ก ฟร้อง ศุภกิจ

เอ้ ชุติมา เล่าหมดเปลือกพฤติกรรมอดีตแฟนเด็ก ฟร้อง ศุภกิจ อ้างติดผู้หญิง-เล่นการพนัน พร้อมเปิดใจหลังถูกอดีตแม่แฟนด่าแรงกลางรายการ

นาทีนี้คงไม่มีเรื่องไหนร้อนแรงไปกว่าเรื่องของ นักแสดง สาวรุ่นใหญ่ เอ้ ชุติมา นัยนา และอดีตแฟนเด็ก ฟร้อง ศุภกิจ ประสงค์ หลังฝ่ายชายโร่ร้องสื่อ อ้างว่าฝ่ายหญิงไม่ยอมผ่อนรถ และบ้าน ตามที่ตกลงกันไว้ จนถูกยึด ทำให้ตนเองเสียเครดิต แถมเป็นหนี้อีกกว่า 6 ล้านบาท!

​ทนายรณณรงค์ แนะเรื่องกฎหมาย กรณีดราม่า เอ้ ชุติมา – ฟร้อง ศุภกิจ

ต่อมาทั้งคู่ รวมถึงคุณแม่ของฝ่ายชาย ก็ได้มาปะทะกันในรายการ โหนกระแส เปิดหลักฐานฟาดกันแบบสดๆ โดยช่วงหนึ่งของรายการทางคุณแม่ก็มีการด่ากลับ เอ้ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย แถมยังบอกอีกว่าสาเหตุที่ลูกชายเลิกกับ เอ้ นั้น ก็เพราะว่าฝ่ายหญิง หมดตัว?

ล่าสุด เอ้ ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้งผ่านรายการ คุยแซ่บ Show โดยเธอกล่าวว่า “ทุกอย่างที่เราพูดไปในรายการ เรามีหลักฐาน ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรู้อยู่แก่ใจ จากที่หลายๆ คนคงเห็นว่าเขาก็ย้อนแย้งในตัวเอง

โดนอดีตแม่แฟนด่าว่า “ตอแxล” เจ็บไหม?

“เราไม่ใช่คนแบบนั้น เขาจะด่าก็ด่าไป เราไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูด อะไรที่เขาพูดไปเดี๋ยวสังคมจะเห็นเอง เวลาที่เขาพูดออกไปหลายๆ เรื่อง เช่นเรื่องหวย จะเห็นเลยว่าสุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับว่าเป็นเจ้ามือ เราเป็นลูกสะใภ้ มันก็ต้องช่วย เพื่อให้เขามีรายได้เพิ่ม ช่วยเหลือแม้กระทั่งไปขายของตามตลาดนัด กับแม่เขา ไปเป็นแม่ค้า หลายคนจะเห็นว่า เอ้ ไปขายของในหลายๆ ที่ ให้แม่เขา ถามว่าที่เขาด่าเจ็บไหม เจ็บ จุก แล้วก็โกรธ แต่ก็ไม่อยากไปนั่งใส่อารมณ์กับเขา ถ้าเขาอยากพูดอะไรก็ปล่อยให้เขาพูดไป แล้วเดี๋ยวสังคมเห็นเขาก็จะพูดกันเอง โดยที่เราไม่ต้องพูดอะไรเลย เราว่าเรานิ่งดีกว่า ดีกว่าไปนั่งเถียงเขา แล้วอีกอย่างเขาก็เป็นอดีตแม่แฟนด้วย”

แสดงว่าตอนที่คบกันก็สนิทกันในระดับหนึ่ง?

“สนิทค่ะ คือแม่เขาขยัน ยอมรับว่าแม่เขาขยันในการทำงาน นิสัยเหมือนพี่ ไม่อายทำกิน ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยวาสนา ไม่ว่าฝนจะตกแดดออกเราก็จะขายของกัน ซึ่งลูกชายก็จะเป็นคนไปส่งไว้ที่ตลาด ขายตลาดนัดนะคะ รายได้ที่ขายทั้งหมดคุณแม่เขาเก็บ พี่ไม่ได้แตะเลย”

ความสัมพันธ์ของแม่แฟน กับลูกสะใภ้มันเริ่มแย่ลงเมื่อไร?

“หลังๆ พอเขามาอยู่กับเราลูกเขาเปลี่ยนไป ลูกเขาเริ่มเที่ยวกลางคืน กลับบ้านช้าลง กลับบ้านเช้าขึ้น จนเราเปลี่ยนชื่อในไลน์เขา จาก ฟร้อง ที่รัก เป็น ฟร้อง ยันหว่าง ก็เครียดนะเป็นผู้หญิงที่ต้องนั่งรอแฟนกลับบ้าน”

แต่เขาบอกว่าพี่พาเที่ยว?

“ไม่จริงค่ะ เพราะว่า ฟร้อง เที่ยวเป็นตั้งแต่อยู่ กาญจนบุรี แล้ว เขาก็จะมีเพื่อนกลุ่มเขา ซึ่งทุกคนในกลุ่มรู้ และที่ กาญจนบุรี มันก็จะมีที่เที่ยวเยอะ มี PR เด็กดริ้งค์ ต่างๆ เขาเคยบอกเราว่าเขาเที่ยวตั้งแต่อายุ 16 ก็จะมีคนพาเข้า พอเขามากับเรา เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น อายุ 20 เราถึงพาเขาเที่ยว เราก็จะบอกเขาว่าถ้าเที่ยวเราจะดูให้ เราจะเลือกสถานที่เที่ยวดีๆ ทองหล่อ สุขุมวิท อะไรแบบนี้ เราก็จะเลือกสถานที่ดีๆ ให้เขาหัดเที่ยว”

แสดงว่าตอนคบกันใหม่ๆ เราก็สนุกไปกับเขา?

“ก็ไปกับเพื่อนๆ เขา ปกติ”

แล้วเริ่มแยกเมื่อไร?

“เริ่มแยกตั้งแต่เขามีพฤติกรรมเรื่องผู้หญิง มีผู้หญิงมาติดเขา เขาเริ่มติดโทรศัพท์ คือคนที่เป็นแฟนก็จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว อย่างเมื่อก่อนอยู่คอนโด เวลาจอดรถ เราจะเข้าห้องมาก่อน แต่เข้าจะใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการจอดรถ มันนานเกินไป ตอนแรกเราไม่อะไรเพราะคิดว่าเขาอาจจะคุยกับเพื่อน ไม่อยากยุ่ง จนหลังๆ มันผิดปกติมาก ติดโทรศัพท์มาก สังเกตดูว่าผู้ชายเจ้าชู้เขาจะติดโทรศัพท์มาก เราก็เลยย่องไปดูเขา เขาก็หงุดหงิดใส่ เราก็ขอดูโทรศัพท์ คือปกติไม่เคยขอดู เพราะมันเป็นมารยาทของคนคบกัน มันก็ต้องให้เกียรติผู้ชาย แต่ตอนนั้นทนไม่ไหวก็เลยขอดู เขาก็ปฏิเสธ จนวันหนึ่งที่เขาหลับ แล้วเขาลืมปิดโทรศัพท์ เราก็เลยเห็นทุกอย่าง ก็ปลุกเขาขึ้นมาถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”

แม่พูดในรายการว่าเลิกกันเพราะ เอ้ หมดตัว ?

“เงินพี่ทุกบาททุกสตางค์อยู่ที่ลูกชายเขาหมดค่ะ แต่พอเลิกกันก็เปลี่ยนเป็นชื่อตัวเองแล้ว ส่วนเงินที่อยู่กับเขามันเป็นชื่อเขาเราก็ไม่ยุ่งแล้ว แล้วเราก็อัปเดตไม่ได้เพราะมันไม่ใช่ชื่อเรา”

พี่เป็นเจ้าของเงิน เขาเป็นเจ้าของบัญชี?

“ใช่ค่ะ”

เห็นว่าต้องยืมเขาเดือนละ 5 หมื่น?

“ที่แม่เขาพูดว่าขอยืมทีละ 5 หมื่น ก็เพราะว่าเงินเราไปอยู่ที่ลูกชายเขา เราก็พยายามบอกเขาว่าถ้าคุณขาดเหลืออะไรก็ไปบอกให้ลูกชายโอนให้สิ ก็ไปคุยกับลูกชาย แต่ลูกชายเขาไม่โอน แม่ก็เลยมีความรู้สึกว่าเงินลูกชายเขาที่เขาทำงานไม่ใช่เงินเรา เราก็เลยบอกว่าลูกชายเขาทำอาชีพอะไร เขาเป็นดาราเล่นเรื่องอะไร เล่นหนังเล่นละครเรื่องอะไรก่อน เงินเราทุกบาททุกสตางค์โอนให้ลูกเขา”

นี่แค่คบกันใช่ไหม?

“ไม่ได้แต่งค่ะ แค่คบ”

ทำไมถึงเลือกที่จะให้เขา?

“น้องเขาบอกว่าเขาคบกับเรา เขาอยากให้เรามีหน้าตาทางสังคม เราก็อยากยกระดับน้อง ให้น้องภาคภูมิใจในตัวเอง มีเงินเก็บ มีบ้าน มีรถทุกอย่าง จะได้ไม่มีใครดูถูกเขา แต่เป็นเงินเรา โดยที่สังคมไม่รู้ แต่เรารู้กัน พี่มีหลักฐานการโอนเงินทุกอย่าง”

แม่เขารู้ไหม?

“เขารู้แต่เขาไม่ฟัง”

ทำไมถึงรัก และยอมเด็กคนนี้ขนาดนี้?

“ด้วยความที่พี่ผิดหวังกับความรักมาโดยตลอด และเด็กคนนี้มาเติมเต็มตอนที่พี่รู้สึกแย่มากในชีวิต เราก็รู้สึกใจฟู อบอุ่น ช่วงแรกๆ ที่เราคบกัน เขาก็เข้ามาเติมเต็มเราได้จริงๆ จริงๆ เขาเป็นเด็กน่ารัก และเป็นด็กดี แต่เขาเป็นเด็กหัวอ่อน และเด็กเกินไปที่จะอยู่กับเรานานๆ”

ถ้าย้อนเวลากลับไป พี่ได้ทำแบบนี้กับแฟนคนเก่าไหม?

“ไม่ค่ะ เพราะว่าพี่เองเป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ แต่เขาจะเป็นคนเก็บเงินอยู่ เราก็เลยรู้สึกว่าเขาจะเป็นผู้นำ และเก็บเงินให้เราได้ ซึ่งช่วงแรกๆ ก็ไม่มีปัญหา เขาก็บริหารจัดการเงินเราได้ดีจริงๆ เวลารับงานเราก็โอนเข้าบัญชีเขาทำทุกอย่าง เพื่อที่จะทำสเตจเมนต์ให้น้องในการกู้บ้าน กู้รถ ทุกอย่าง ทำทุกอย่างร่วมกันเพราะว่าอยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ขนาดจะหมั้นกันเลย เราเลยรู้สึกเชื่อมั่นกับคนคนนี้มาก ว่า เขาจะนำพาชีวิตเราไปรอด และไม่เอาเปรียบเรา เราเป็นคนให้ใจ”

จะใช้เงินตัวเองต้องจ่ายดอกเบี้ย?

“ใช่คะ เวลาที่เราจะใช่เงินของตัวเอง เขาก็จะไม่ให้เราใช้ บางทีผู้หญิงมันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายบ้างแต่ตัวบาง แล้วเราก็ต้องส่งให้ทึ่บ้านเราด้วย ซึ่งเวลาเราส่งให้ที่บ้านเยอะกว่าเขา เขาก็จะโกรธ เขาต้องได้มากกว่า แล้วเวลาเราอยากใช้เงินตัวเอง ขอแล้วเขาไม่ให้ เราก็ไปให้เพื่อนช่วย โดยใช้ชื่อเพื่อนเป็นคนกู้ที่ ฟร้อง เขาก็จะคิดดอกด้วย เขาคิดเป็นรายวันเลย ตอนแรกเขายังไม่รู้ว่าเป็นเรา แต่ตอนหลังรู้ เพราะเราบอก เขาก็บอกว่าถ้าอยากจะใช้เงินก็ต้องจ่ายดอก ซึ่งมันเป็นเงินเรา”

กลับกันถ้าเขาอยากใช้เงิน ต้องขอไหม?

“เขาทำได้ทุกอย่าง เขาอยากได้อะไรทำได้หมด ไม่ต้องบอกเรา ไม่มีการเสียดอกคืนให้บัญชี เหมือนเขาเป็นเจ้าของเงินทั้งทีเราเป็นเจ้าของเงิน”

ทำไมถึงเชื่อ?

“คือเราอยากใช้ชีวิตคู่กับเขา เราก็อยากให้เขามั่นใจเรื่องเงินด้วย ตอนนั้นเรายอมรับว่ารักเขาเราถึงมั่นใจแล้วเราอยากใช้ชีวิตคู่กับเขา ผู้หญิงคนหนึ่งที่พลาดกับความรักมาตลอดพอมีคนหนึ่งที่ ให้ความมั่นใจว่าจะหมั้นกับเรา จะแต่งงานกับเรา มันเป็นเหมือนรถด่วนขบวนสุดท้ายของเราแล้ว เรารู้สึกว่าเรามีคนรักเราแล้ว มีคนที่อยากแต่งงานกับเราแล้ว มันก็ภูมิใจ นะ ตอนนั้นก็ทั้งรักทั้งหลง”

มันไม่มีจุดไหนที่พี่รู้สึกว่ามันไม่ถูกเหรอ?

“รู้สึกค่ะ แต่เงินอยู่ที่เขาเอาออกไม่ได้ ก็ต้องยอม แต่ตอนหลัง เพราะเอาเงินออกมาไม่ได้ เราก็ไม่อยากจะเอาเงินฝากไว้ที่เขาแล้ว เราก็จะยอกกับเจ้าของสินค้าและคนที่อยู่ในรายการเราทั้งหมดว่า อย่าบอกแฟนนะว่าเราได้รายได้เท่าไรวันนี้ เราบอกแฟนแค่เท่านี้แต่ที่เหลือเราจะโอนให้แม่เรานะ ตอนหลังเราก็เริ่มเก็บเงินที่คุณแม่ เขาเลยคิดว่าเราหมดตัว ตอนนั้นเราเริ่มคิดได้แล้ว”

ตอนนั้นอึดอัดไหม?

“อึดอัดมาก แต่เรารู้ว่าถ้าเราไม่ให้เงินเขาก็ต้องไป เราเองก็อยากใช้ชีวิตคู่กับเขาไปตลอดชีวิต คนเราความรักมันเลือกไม่ได้ พอเรารักใครสักคน พี่เป็นคนที่ทุ่มเทมาก ไม่ใช่ว่าเอาเงินซื้อแต่เราเลือกที่จะจัดการการเงินของเรา โดยให้เขาเป็นคนดูแล เพราะคิดว่าเขาจะดูแลได้ เราจะใช้ด้วยกันได้”

เริ่มมีปัญหากันตอนไหน?

“หลังๆ ที่โกรธเรื่องบัตรเครดิตเขาเป็นคนไปทำ เราทำสเตทเมนต์เอาไว้ให้เขาสวยมาก จนสามารถทำบัตรเครดิตอันลิมิตได้ ซึ่งเขาไปทำเองเราไม่ได้อนุมัติ เขาทำเสร็จแล้วก็มาบอกเราทีหลัง เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วตอนหลังเขาใช้บัตรเครดิตหนักมาก ประมาณเดือนละ 4-5 หมื่น เงินก็จะมาหักที่เรา ถามเขา เขาก็บอกว่าเอาไปซื้อของใช้ในบ้าน จนกระทั่งมารู้ทีหลังว่าไปจ่ายให้ร้าน PR ร้านหนึ่ง เขาไปติดสาวอยู่ที่นั้น”

เอ้ หมดเครดิตไม่สามารถทำเรื่องกู้ได้จริงไหม?

“ไม่ได้หมดเครดิตนะคะ แต่พี่เป็นคนที่ไม่มีอะไรเป็นชื่อของตัวเองเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้านรถก็เป็นชื่อเขา ที่เราใช้ชื่อเขาเพราะว่าเขาอายุน้อยกว่า การที่เด็กอายุน้อยกว่าก็จะสามารถกู้ได้ในระยะยาวมากกว่า และผ่อนถูกลง มันเป็นการวางแผนการใช้ชีวิตด้วยกัน”

ไม่ได้จ่ายให้แค่เขา จ่ายให้ที่บ้านเขาด้วย?

“ใช่ค่ะ เราเอาลูกเขามาอยู่ด้วย ก็ต้องดูแล อะไรที่เราช่วยได้เราช่วยหมด อย่างเรื่องรถที่บ้านเขา จริงๆ ไม่ได้อยากพูด แต่ต้องขออนุญาตพูด น้องเขาเล่นการพนันออนไลน์ แล้วไปยืมเงินเพื่อนเรายอดสูงมาก เกือบล้าน เขาก็เอารถที่บ้านเขาไปเข้า เราก็ยังช่วยจ่ายทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย อีกอย่างเงินเราก็อยู่ในบัญชีเขา เราทำอะไรไม่ได้”

คลิปอีจันแนะนำ
โดนติงหุ่น เจนี่ มองเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอ