เอ๋ มิรา อดีตภรรยา ครูไพบูลย์ เผยศาล นัดฟังคำพิพากษาคดีพรากผู้เยาว์

​​เอ๋ มิรา อดีตภรรยา ครูไพบูลย์ เผยศาลเตรียมนัดฟังคำพิพากษาคดีพรากผู้เยาว์ วันที่ 7 ก.พ. 66 ที่จะถึงนี้ เชื่อศาลจะดูออก

ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับกรณีของ เอ๋ มิรา อดีตภรรยาของ ครูไพบูลย์ แสงเดือน ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กระบุว่า

“ว่าจะไม่สูนแล้วนะ ตั้งแต่เอาลูกมาเลี้ยงปีกว่า คุณเคยส่งเสียเคยโทรหาลูกหรอ ฉันเคยขอเงินคุณหรอ ล่าสุดแม่คุณป่วย ป้าญาติคุณก็มาขอให้พาสายแนนไปหาแม่คุณ ฉันก็ขับรถพาไปถึงโรงพยาบาล จริงๆฉันไม่ควรพาลูกไปด้วยซ้ำ ไม่อยากเห็นคุณ เห็นแม่คุณ แต่ฉันเป็นคนไง มีความคิด ไม่อยากจองเวร เห็นแก่ป้าที่มาขอให้ไปด้วยแหละ เพราะญาติๆคุณกับฉันก็ยังมีความเป็นคนแยกแยะออก ฉันไม่ได้ทะเลาะกับพวกท่าน แล้วเงินที่คุณยัดใส่มือลูก 3,000 ฉันเอาให้ป้าญาติคุณ 2,000 เอาให้พี่ที่พาฉันไป 1,000 ฉันไม่เอา เงินบาป อีกอย่างคิดว่าป้ากับพี่คงไม่มีเงินใช้ เงิน 3,000 คงจะเป็นประโยชน์ถ้าให้คนที่เพิ่ลไม่มี เฟสอวตาลที่คุณพูดถึง ไม่ใช่ฉันแน่นอน เวลาฉันมีค่าเอาไปทำมาหากิน ไม่มีเวลาสนใจพวกคุณหรอก อย่าสำคัญตัวเองให้มาก สันดารต่ำอย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนคุณกับเมียคุณ”

“ล่าสุดเฟสอวตาลแม่ยายคุณหรอที่คอมเมนต์อวยคุณ ทำอะไรคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้หรอ แล้วฉันไม่เคยบอกว่าไม่ให้คุณมายุ่งกับลูก ฉันก็เคยเป็นลูกคน ทำไมจะไม่เข้าใจลูกว่าจะรู้สึกยังไง คุณไม่มาหาลูกเองนะ คุณเอาไปเล่าในศาล ว่าฉันได้ดีมีความสุข ส่วนครอบครัวคุณกับเมียคุณมีแต่ความฉิบหาย ย้อนมองตัวเองนะ ทำตัวเองทั้งนั้น ทำกรรมไว้เยอะ ก็ฉิบหายเยอะหน่อยแหละ แล้วเรื่องที่คิดว่าคนจะอิจฉา ให้ถามหน่อยเถอะ มีอะไรให้อิจฉา ถามเมียคุณด้วย มีอะไรให้อิจฉา มีผัวเยอะหรอ หรือมีผัวแบบคุณหรอ ถามคนส่วนมากดูสิ มีใครอยากมีผัวแบบคุณหรอ อิจฉาเรื่องมีเงินเยอะหรอหรือยังไง คนเขามีเยอะกว่าคุณก็มี เขาไม่เห็นพูด เรื่องเงินไม่เคยมีผลกระทบกับคนอย่างฉัน ถ้าฉันเห็นแก่เงิน ฉันไม่รักคุณแต่ฉันก็จะทนอยู่กับคุณ ใช้เงินกับคุณแล้วสิ ตัวเงินตัวทองอย่างเมียคุณ ถ้าฉันไม่หย่า ฉันหลอกให้มันหาเงินให้ฉันใช้ก็ได้ แต่เพราะฉันรับไม่ได้กับพฤติกรรมของพวกคุณฉันจึงออกมาไม่อยากสร้างกรรม ตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้พวกคุณยังสร้างกรรมไม่เลิก กับคนอื่นที่เขามาด่าคุณด้วย ถ้าดีเขาจะด่าไหม รับความจริงไม่ได้ มโนหลอกตัวเองอยู่นั้นแหละ #เฟสอวตาลที่เมนต์ พวกคุณคิดว่ามีแต่พวกฉันน่ะหรอที่เกลียดพวกคุณ #อย่าแสดงหลาย #บ่เคยออนซอนสู”

อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ เอ๋ มิรา ได้โพสต์ภาพคู่ทนาย พร้อมข้อความว่า

“กรรมนั้นไม่ได้ให้ผลทันตาทันใจเสมอไป แต่ถ้าเป็นเรื่องภายในใจแล้ว กรรมให้ผลทันทีที่ทำแน่นอน

ขอบคุณพี่ทนายเก่งพี่มาสด้าที่อยู่เคียงข้างจนวันนี้

7 กุมภาพันธ์ 2566 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีพรากผู้เยาว์ ละครชีวิตจะจบลงเช่นไร อีกนานเท่าไหร่ก็รอ”

ล่าสุด เอ๋ มิรา ก็ยังคงโพสต์ต่อเนื่อง ออกอาการปรี๊ดสุดกับข้อความในเฟซบุ๊กว่า

“เขาเป็นเมียคนแรก ตั้งแต่คบกันเราไม่เคยมีอะไรกันครับ จนได้รับอนุญาตจากแม่เขา ฉันเอากับหมาติสั้น แม่ฉันกะงง แถคักหลายจนไม่กล้าให้ใครมาเป็นพยานกลัวพูดไม่เหมือนกัน ในศาลเรียกฉันน้องเอ๋ในคอมเมนต์เอิ้นฉัน E วรนุชจริงๆ”

นอกจากนี้ เอ๋ มิรา ยังมีการคอมเมนต์เพิ่มเติมแบบรัวๆว่า

“คดีพรากผู้เยาว์วันนี้ หวังว่าศาลจะดูออกนะคะ”

“มารยาทงาม ขอแม่ก่อนมีอะไรกัน”

“ฝั่งเอ๋ มีเอ๋ แม่ ยาย ผู้กำกับ ผู้ใหญ่บ้านและอัยการ เป็นพยาน ฝั่งนั้นมีแค่คุณวรนุชคนเดียว รอคำพิพากษา 7 ก.พ.66 ค่ะ”

“ครูกับนักเรียนเป็นสามีภรรยากัน ผิดวินัยใช่ไหม ผมก็ไม่ทราบครับ ปานนั้นว่าได้เกียรตินิยม สรุปว่าบ่ได้หนังสือ”

“ฉันเป็นเมียคนแรกด้วยนะ มือทาบ อกแบบ เค”

“วันนี้บอกว่ารักหนูมากด้วย หนูไม่ใช่ป้ารัตนาแต่หนูปวดหัวมากนะ”

ท่ามกลางผู้ที่เข้ามาเห็นข้อความต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันอย่างต่อเนื่อง งานนี้คงต้องติดตามต่อไว่า วันที่ 7 ก.พ. ปี 66 ที่เอ๋ มิรา ระบุว่าศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีพรากผู้เยาว์ สุดท้ายแล้วจะจบลงที่ตรงไหน หากมีอะไรเพิ่มเติม แอดจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
สิงห์ วรรณสิงห์ เปิดใจครั้งแรก หลังเลิก มารีญา