อดีต นายกรัฐมนตรีหญิง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปิดใจให้สัมภาษณ์กลางรายการ คุยแหลกแดกดึก ของ มดดำ คชาภา ตันเจริญ โดยเล่าถึงชีวิตในต่างประเทศ ว่า ทุกวันนี้พยายามไม่ยึดติด แม้ว่าที่ผ่านมาจะต้องใช้ชีวิตที่ห่างจาก ลูกชาย น้องไปป์ ศุภเสกข์ อมรฉัตร พร้อมยัง ขอบคุณ พี่น้องประชาชน ที่ยังให้ความรักและยังไม่ลืมเพราะ ถือเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจ ในการใช้ชีวิตในต่างแดน
โดย ยิ่งลักษณ์ เล่าว่า วันนี้ตัวเองก็พยายามหาความรู้ และ ศึกษาเทคโนโลยีต่าง ๆ ในปัจจุบัน เพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีของโลกและรู้ถึงวิวัฒนาการในต่างประเทศเพื่อเรียนรู้ ต่อยอดและ ยังใช้เวลาในการออกกำลังกาย เพื่อให้มีความสุขในการใช้ชีวิต และ พยายามไม่เศร้า พยายามไม่ทุกข์ แต่จริงๆแล้วก็ต้องยอมรับว่าชีวิตไม่มีความสุข หรือความทุกข์อยู่กับเราตลอดไป แต่ที่เห็นหัวเราะมีความสุข เพราะไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง เพราะไม่งั้นมันจะเป็นความทุกข์ แต่มุมหนึ่งของชีวิตมันก็มีความคิดถึงบ้าน
ในปัจจุบัน เยาวชนหันมาสนใจการเมือง และคลิปที่เป็นที่สนใจคือคลิปที่ คุณยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงสถานการณ์ในอดีต ที่รุนแรงผ่านวลี ” ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว ” ว่าวันนั้นเป็นวันที่พยายามทำทุกอย่าง พยายามปลดล็อคในสิ่งที่รัฐบาลในขณะนั้นทำได้ แต่ก็ยังมีการออกมาขับไล่อย่างรุนแรง ซึ่งในฐานะที่เป็น คนไทย ด้วยกันก็ไม่อยากเห็นภาพความขัดแย้ง ซึ่งในสถานการณ์ขณะนั้นตนเองพยายามเข้มแข็งเท่าที่ ผู้หญิง คนหนึ่งจะทำได้ในการประคับประคองสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น
” เราหวังว่าเรา ยุบสภา แล้วทุกอย่าง ที่เป็นความขัดแย้งก็จะเข้าสู่วิถีทางของ ประชาธิปไตย ในสภาฯ แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่มุ่งหวังจนนำไปสู่การรัฐประหาร “
คุณยิ่งลักษณ์ ย้ำว่าที่ผ่านมาไม่เคยพบกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แม้จะมีกระแสข่าว ดีลลับ พร้อมยืนยันตัวเองมีความชัดเจนว่ารับไม่ได้ในเรื่องของ รัฐประหาร ส่วนที่ พรรคเพื่อไทย ได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่ 2 ตนในฐานะผู้ชมก็ต้องยอมรับและดีใจที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนพรรคอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นครรลองในระบอบประชาธิปไตย ทิ้งท้ายเมื่อถามว่าวันนี้คุณยิ่งลักษณ์ อยากกลับบ้านหรือยัง คำตอบที่ได้คืออยากกลับบ้าน เพราะถือเป็นบ้านเกิด แต่ยังไม่รู้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตาที่ลิขิตว่าจะกำหนดให้ได้กลับบ้านหรือไม่ แต่วันนี้ต้องอยู่ให้ได้ ต้องปล่อยวางและรอจังหวะเวลาในอนาคต