​​ ​ษา วรรณษา – อาท รณชัย แจ้งความเอาผิดคนสนิท

​​ษา วรรณษา – อาท รณชัย แจ้งความเอาผิดคนสนิท เตือน เอารถมาคืน ก่อนจะดำเนินคดี

เดินทางเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม สำหรับ ษา วรรณษา ทองวิเศษ และ อาท รณชัย ธนาฤต พาณิชตระกูล พระเอกลิเก นักร้องลูกทุ่ง นักแสดง แฟนหนุ่ม โดยเมื่อวานนี้ 12 พ.ย. เวลาประมาณ 13.00 น. ทั้งคู่ได้เดินทางไปที่ สน.สายไหม เพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐนันท์ ม่วงงาม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม เพื่อสอบปากคำหลังเดินทางเข้าแจ้งความกับ 2 สามีภรรยาคนสนิท ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ หลังให้เงินลงทุนทำธุระกินน้ำพริก แต่กลับไม่นำกำไรที่ได้มาแบ่ง ซ้ำยืมเงินไม่คืน เอารถไปใช้ยังไม่จ่ายเงินดาวน์ให้สักบาทเป็นเวลาร่วมปี รวมๆความเสียหายเกินครึ่งล้าน โดย ษา เผยว่า

“วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมซึ่งมีการแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการถูกยักยอกเงินธุระกิจน้ำพริก ซึ่งยังมีประเด็นที่ยังไม่ให้ปากคำในเรื่องรถเบนซ์ รุ่นเอ 200 ที่ให้ภรรยาเขาไปใช้ก่อน แต่ไม่สามารถนำรถไปจัดไฟแนนท์ได้เนื่องจากมีการติดบูโร”

“ต้องบอกก่อนว่ารถคันนี้เป็นของเพื่อนที่มีปัญหาทางการเงินนำมาให้เราดูแล ผ่อนต่อหรือหาคนมาซื้อ ซึ่งมีการตกลงทำสัญญากันโดยระบุเงินดาวน์จำนวน 120,000 บาท แล้วให้เขาไปผ่อนต่อกับไฟแนนท์เองเดือนละ 6,444 บาท 36 งวด ส่วนเงินดาวน์พร้อมแล้วค่อยเอามาให้”

“จนถึงตอนนี้เวลาผ่านไปร่วมปีก็ยังไม่ได้เงินดาวน์ พอสอบถามไปอ้างว่ามีเงินผ่อนรถแต่ไม่มีเงินดาวน์ให้ ซึ่งถ้าไม่มีให้ก็เอารถมาคืนตอนดีกันช่วยกันได้หมดแต่ตอนนี้เขาไม่ได้ดีกับเราแล้ว เขาไม่ได้รักเราเหมือนเดิมแล้ว เราจึงอยากได้ของๆเรากลับคืน ยืมไปก็เอามาคืน”

อย่างไรก็ดี ด้าน อาท รณชัย เผยต่อว่า “การขอรถคืนก็เพราะเขามีการยักยอกเงินของเราก่อน โดยก่อนหน้านี้มีการชักชวนมาทำธุระกิจน้ำพริกประมาณปีกว่า โดยเขามีหน้าที่จัดการบริหารธุระกิจน้ำพริก ตั้งแต่เริ่มสั่งผลิต นำออกขายตามงานอีเวนท์ และขายทางสื่อโซเชียล ซึ่งเราลงทุนทั้งหมด เขาแค่ลงแรง กำไรก็แบ่ง 50-50 กระทั่งปลายเดือนกันยายน 2566 เราไม่ได้รับเงินส่วนแบ่ง ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนลงทุนเองทั้งหมดร่วม 2 แสน แต่ได้รับกลับมาเพียง 10,200 บาท เมื่อสอบถามทางโรงงานทราบว่าเขาได้ไปขอเครดิตในการนำน้ำพริกออกมาขายก่อน ไม่ทราบว่าเงินที่เราให้ไปจ่ายค่าน้ำพริกและกำไรที่ได้มานำไปใช้ทำอะไร”

“ที่ผ่านมาหลังถูกจับได้ว่ามีการยักยอกเงิน กลับไม่มีการติดต่ออะไรกับเราเลยบล็อกทุกช่องทาง ทักไปอ่านแต่ไม่ตอบ ตั้งแต่ 9 ตุลาคม ตอนนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้นประกอบด้วยเงินดาวน์ 120,000 บาท รวมเงินที่ลงทุนธุระกิจน้ำพริกประมาณ 2 แสน ยังไม่รวมผลกำไรจากการขายน้ำพริก และเงินที่ยืมไป รวมกว่า 5 แสนบาท”

“ในส่วนคดีตอนนี้ได้มีการดำเนินการในส่วนของการแจ้งความในคดียักยอกทรัพย์ธุระกิจน้ำพริก ส่วนเรื่องรถเราให้โอกาสเข้ามาพูดคุย และยังไม่ได้แจ้งความ หรือจ้างทนายในเรื่องนี้ เปิดโอกาสให้แล้วแต่ไม่มาพูดคุย หากเป็นไปได้ก็ให้โอกาสสุดท้ายถึงสิ้นเดือนนี้ ให้เอารถมาจอดคินที่สน.สายไหม จะมาอ้างไม่รู้จะคืนที่ไหน ก็ซื้อจากเราก็ต้องมาคืนเราจะไปคืนคนอื่นได้ยังไง ยืนยันจะไม่ดำเนินคดีเกี่ยวกับรถใดๆทั้งสิ้น หากนำรถมาคืน อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ความจริงก็คือความจริงพูดสั้นก็ได้ใจความแล้วยังไงใหม่มาคุยกัน”

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ณัฐนันท์ ม่วงงาม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม เผยว่า เบื้องต้นหลังสอบปากคำผู้กล่าวหาแล้วก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบถามข้อเท็จจริง หากทั้งคู้จะประสงค์จะเจรจาก็จะเป็นตัวกลางให้

งานนี้คงต้องรอดูต่อไปว่า คู่กรณีจะเข้ามาเจรจาหรือไม่ หากมีอะไรคืบหน้า แอดจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ