แซน วิศาพัช เปิดใจหลังฟ้อง แม่แตงโม กลับ อ้างแม่แจกหลักฐานเท็จ

แซน วิศาพัช เปิดใจหลังฟ้อง แม่แตงโม กลับ เรียกเงิน 40.8 ล้านบาท ลั่นทำเกินไป พร้อมอ้างแม่แจกหลักฐานเท็จ

จากกรณีที่ แซน วิศาพัช หนึ่งในจำเลยคดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม นิดา หรือ แตงโม ภัทรธิดา ได้ออกมาประกาศผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าจะฟ้อง คุณแม๊ ภนิดา หรือคุณแม่ของ แตงโม หลังจากที่คุณแม่อ้างว่ามีหลักฐานใหม่ที่ได้จากกล้องบันทึกภาพหน้ารถของ แตงโม ในวันเกิดเหตุมายื่นที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา

ล่าสุด แซน และ ทนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุในการฟ้องกลับคุณแม่ในครั้งนี้ โดยทนายกล่าวว่า

“จริงๆ แล้วเรื่องราวไม่ได้มีอะไร เพียงแต่ แซน รู้สึกว่าเขาโดนโต้แย้งสิทธิ์ และเรื่องที่มีการสื่อสารออกไปมันแรงกว่าที่ แซน จะรับได้ เพราะมันเป็นเรื่องของการละเมิดศาล ไปข่มขู่พยาน หรืออะไรต่างๆ ก็เลยเป็นเหตุผลที่ต้องยื่นฟ้อง ในเอกสารที่คุณแม่แจกหน้าศาลในวันนั้น มีการระบุชัดเจนว่า แซน ข่มขู่พนักงานอัยการ ยุ่งกับพยานหลักฐาน และละเมิดอำนาจศาล รวมทั้ง กระติก กับพวก ซึ่งพยานหลักฐานมันชัดมากด้วยเอกสารอยู่แล้ว เราจึงทำการฟ้องคุณแม่ ในข้อหาหมิ่นประมาทเพื่อการโฆษณา ซึ่งเป็นคดีอาญา ไม่มีการเรียกค่าเสียหายแต่อย่างใด เบื้องต้นเราได้ทำการยื่นฟ้องศาลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยศาลท่านรับคดีไว้ ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการส่งหมายไป และศาลได้นัดไตร่สวนมูลฟ้องในวันที่ 22 พ.ค. เวลา 13.00 น. ส่วนกรณีที่บอกว่าจะเรียกค่าเสียหายจากคุณแม่เป็นเงิน 40.8 ล้านบาท เป็นอีกคดีหนึ่ง คือคดีแรก กรณีที่คุณแม่ทำหนังสือมอบอำนาจให้ประธานชมรมไปดำเนินการยื่นฟ้อง คดีคนบนเรือ เรื่องฆาตกรรม”

“ทั้งนี้หากมีการขอไกล่เกลี่ย คงต้องดูที่เจตนาหลายๆ อย่าง กับสิ่งที่เสนอพฤติการการกระทำ อีกทั้งคดีเดิมที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ต้องดูหลายๆ อย่างเพื่อประกอบกัน ถ้าเงื่อนไขดี คุณแม่เข้าใจก่อน แล้วเราค่อยมาพิจารณาเรื่องเงื่อนไข ส่วนผมจะใช้สิทธิ์ในการคัดค้านอย่างเต็มที่ ในทุกทางที่คุณแม่ยื่นเข้ามา เนื่องจากว่าคุณแม่ใช้สิทธิ์ตามอำเภอใจเกินไป กฎหมายคุ้มครองทุกคน รวมทั้งจำเลย หรือผู้ต้องหาในคดีด้วย เหมือนที่ แซน เคยพูดว่าความยุติธรรมมีไว้สำหรับทุกคน จริงอยู่ที่คุณแม่มีสิทธิ์เป็นโจทก์ร่วมได้ แต่คุณแม่เป็นโจทก์ร่วมในคดีเดิมไปแล้ว จะมายื่นคดีใหม่ก็ยังมีสิทธิ์อยู่ เพียงแต่ว่าเมื่อคุณแม่ใช้สิทธิ์ ตัวจำเลยเองก็มีสิทธิ์ที่จะโต้แย้งตามกระบวนการ ทุกคนก็ใช้สิทธิ์ไปตามกระบวนการเลย แล้วก็ให้ศาลท่านพิจารณา”

ในกรณีของ ปอ ตนุภัทร และ โรเบิร์ต จำเลยที่ 1 และ 2 ในคดีนี้ ทนายกล่าวว่า “หากศาลตัดสินรอลงอาญา คุณแม่ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ในคดีอาญาได้ สำหรับ ปอ และ โรเบิร์ต อันนี้คือสิทธิ์ทางอาญาตามกฎหมาย ขึ้นอยู่กับว่าคุณแม่จะดำเนินการหรือไม่ ส่วนสิทธิ์ทางแพ่ง ตามที่เป็นข่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความไปแล้ว มันจะต้องยุติตามนั้น แต่คุณแม่อาจจะโต้แย้ง ก็เป็นเรื่องที่คุณแม่จะใช้สิทธิ์ แต่ส่วนตัวผมมองว่าไม่ได้แล้วในส่วนแพ่ง ส่วนหลักฐานกล้องหน้ารถจริงๆ มีอยู่ในสำนวนอยู่แล้วตั้งแต่แรก แต่ที่คุณแม่บอกว่ามีใหม่ก็ต้องมาดูกันว่าแตกต่างไหม ส่วนตัวมองว่าคุณแม่คงอยากจะใช้สิทธิ์ให้เต็มที ทั้งนี้ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ก็ทำหน้าที่ปกติ คุณแม่ยื่นอะไรมาผมก็ค้านไปตามกระบวนการ หรือสิทธิ์ของจำเลยที่มีในศาล หากถามว่าจะไกล่เกลี่ยหรือไม่ ก็สามารทำได้ เพราะที่ฟ้องคุณแม่ไปเป็นคดีที่ยอมความได้ กรณีที่เรายื่นฟ้องกันเองต่อศาลสามารถไกล่เกลี่ยได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับคดีที่มีการแจ้งความผ่านพนักงานสอบสวน”

ด้าน แซน ก็ได้เปิดใจว่า “ แซน อยากให้แม่รู้สึกว่าสิ่งที่แม่ทำไปมันไม่ถูกต้อง มันเกินไปเยอะเลย ถ้าหลังจากนี้แม่ติดต่อมาขอพูดคุยก็จะให้เป็นหน้าที่ของทนายแทน ตัว แซน เองไม่สะดวกใจแล้ว ไม่สบายใจ แล้วก็เกรงใจคุณแม่ด้วย กลัวคุณแม่ลำบาก อีกทั้งก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกัน ส่วนจุดที่ทำให้ แซน ตัดสินใจฟ้องคุณแม่ เธออ้างว่าเพราะคุณแม่แจกหลักฐานเท็จอยู่หน้าศาล ทั้งนี้หากมีการไกล่เกลี่ย ถามว่าจะยอมความไหม แซน กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่ได้รู้สึกหหนักใจแต่อย่างใด แค่เหนื่อย และขี้เกียจไปศาลเพียงเท่านั้น ทั้งนี้ แซน ยังเผยอีกว่าตนไม่ค่อยได้พูดคุยกับ ปอ และ โรเบิร์ต สักเท่าไร หลังจากที่ทั้ง 2 คนตัดสินใจยอมความ

แซน กล่าวต่อว่า “ แซน คิดว่ามันไม่ค่อยยุติธรรม หลายคนตัดสินจากการที่เสพสื่อแล้วก็สรุปกันเอาเอง ไม่รอฟังผลจากศาล แล้วมาต่อว่า แซน ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงหลายอย่างมาก แซน ก็รู้สึกไม่ดี แต่หลังๆ ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเห็นพวกนั้นได้ ซึ่งตอนนี้ความเห็นเหล่านั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรในการใช้ชีวิต เพราะ แซน ไม่ได้ให้ค่ากับความเห็นหยาบๆ พวกนั้น เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว เราก็แก้ไขไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ที่ผ่านมาก็ต่อสู้ทวงความยุติธรรมอยู่คนเดียว ก็ไม่ทราบว่าทำไมคนอื่นถึงเลือกที่จะเงียบ แต่ แซน เป็นคนเก็บอะไรไม่ค่อยอยู่ ถ้าเราไม่ผิด รู้สึกว่าเราไม่โอเคกับความเห็นเรื่องนั้น เราก็ต้องออกมาบอกในมุมเราบ้าง ที่ผ่านมาก็มีการคุยกับ กระติก อยู่ตลอด ทั้งนี้ไม่มีใครกังวลกับหลักฐานของคุณแม่เลย ส่วนตัวไม่ทราบว่าคุณแม่มีหลักฐานอะไรบ้าง และไปงัดมาจากไหนอีก แซน ไม่ทราบรายละเอียดเชิงลึก รู้แค่ว่าเรารู้ความจริงว่ามันคืออะไร เราก็เลยไม่ได้กังวล”

สุดท้าย แซน ก็ได้กล่าวถึงคุณแม่ และชาวเน็ตว่า “ แซน เป็นห่วงคุณแม่มากกว่าที่ออกมายื่นหลักฐานไม่จบไม่สิ้น เป็นห่วงว่าคุณแม่จะต้องไปนั่งอธิบายในรายการเท็จทอล์คหรือเปล่า จริงๆ แซน ไม่เคยโกรธ หรือรู้สึกอะไรไม่ดีกับคุณแม่อยู่แล้ว ก็ยังนับถือคุณแม่เหมือนเดิม เขาก็ยังเป็นแม่แตงโมเหมือนเดิม เพียงแต่คิดว่าเรื่องนี้มันเกินไป อยากให้คุณแม่รู้ว่ามันเกินไปจริงๆ แซน เองพูดทุกอย่างชัดเจน แต่ก็ขอให้เชื่อกันด้วยนะคะ เพราะเราไม่ได้มีอะไรต้องโกหก แต่ถ้าใครยังไม่เชื่อก็ไม่ต้องออกความเห็นในพื้นที่ส่วนตัว แซน นะคะ เรารู้สึกว่าคนที่มาคอมเมนต์ทำไมถึงรู้ดีกว่าเรา เขาอยู่บนเรือเหรอ แล้วเราจะโกหกไปทำไม เขาควรจะคิดถึงตรรกะ เหตุผล หลักความเป็นจริงพื้นฐานง่ายว่า แซน จะโกหกทำไม โกหกแล้วได้อะไร”

งานนี้ดูเหมือนว่าเราคงจะต้องรอติดตามกันต่อยาวๆ เลยแหละค่ะ อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม แอดจะนำมารายงานให้ทราบกันต่อไปนะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
เปิดใจครั้งแรก อาบี ปกชนม์ หลังหายไปกว่า 2 ปี