จากกรณีที่มีการปรากฏชื่อของนักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่อย่าง ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง ตกเป็นผู้ต้องหาใน คดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ DSI อ้างมีการตรวจสอบพบปมเกี่ยวข้องกับรถยนต์หรู แอสตัน มาตินที่ถูก DSI ตามตรวจยึดได้ที่บ้านพักที่ จ.ราชบุรี เมื่อปี 2563 ซึ่งต่อมาเจ้าตัวก็ได้เดินทางเข้าพบ DSI เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด ปราปต์ปฎล ก็ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยได้ทำการยื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าคดี พร้อมนำหลักฐานจากแชทไลน์ไปยื่นให้ DSI เพื่อตรวจสอบ ทนายความ ฮ. ที่อ้างตัวเป็นที่ปรึกษาเลขาฯ รัฐมนตรีท่านหนึ่ง โดย ปราปต์ปฎล อ้างว่าทนายความคนดังกล่าวได้แนะนำให้ตนจ่ายเงินหลัก 10 ล้าน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือทางคดีของตน และแฟนสาวอีกด้วย!
โดย ปราปต์ปฎล กล่าวว่า วันนี้ (7 มี.ค. 66) ตนได้มายื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าคดี หลังจากผ่านมา 5 เดือนกว่าแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งที่ผ่านมาตนได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งด้านชีวิต และการงาน โดยก่อนหน้านี้ตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนของตนไปหมดแล้ว ว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของแฟนสาว ซึ่ง ณ ตอนนั้นยังไม่ได้โดนข้อกล่าวหาใดๆ โดยตนเพียงแค่เคลื่อนย้านรถยนต์จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เพื่อหนีเพื่อนสาวประเภทสองคนหนึ่งที่เข้ามางัดห้องของแฟนสาว และนำทรัพย์สินภายในห้องไป เมื่อปี 2563 แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่มองว่าตนไปย้ายทรัพย์เพื่อหนีการยึดทรัพย์ของ DSI และแจ้งข้อกล่าวหาในปี 2565 ตนจึงรู้สึกว่าการแจ้งข้อกล่าวหา ฟอกเงิน กับตนนั้นไม่ถูกต้อง และวันนี้ตนพร้อมที่จะให้ขุดค้นดูเส้นทางการเงินได้หมดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
ปราปต์ปฎล กล่าวต่อว่า หลังจากที่แฟนสาวถูกดำเนินคดีอยู่ในเรือนจำก็ได้มี ทนาย ฮ. ที่อ้างตัวเป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ติดต่อตนมา ผ่านทางเพื่อนของแฟน โดยบอกว่าจะให้ความช่วยเหลือทางคดี ดังนั้นในวันที่ 21 สิงหาคม 65 ตนจึงนัดคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดย ปราปต์ปฎล อ้างว่า ทนายคนดังกล่าวได้มีการแนะนำตนให้ใช้เงินหลัก 10 ล้านบาท เพื่อจัดการกับผู้ใหญ่ แถมยังบอกอีกว่าแฟนสาวของตนซวยที่ไปแต่งงานกับ อภิรักษ์ เจ้าของ Forex-3D และไม่ว่าจะผิด หรือถูกมันมีราคาของความยุติธรรมอยู่ พอได้ฟังเช่นนั้นตนก็อึ้ง และน้ำตาคลอ เพราะคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเช่นนี้ ซึ่งตนเองไม่ต้องการจ่ายเงินให้กับการ คอร์รัปชัน จึงไม่ได้ตกลงไป
หลังจากนั้นเพื่อนของแฟนสาวก็ได้ส่งไลน์มาหาตน ย้ำเรื่อง ทนาย ฮ. และเงินหลัก 10 ล้าน แต่ตนไม่ได้ตอบกลับ แต่ได้แคปทุกอย่างไว้เป็นหลักฐาน ส่วนตัวตนเชื่อว่าเพื่อนผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับ การตบทรัพย์ ในครั้งนี้ แต่ทำไปเพราะความอยากช่วยจริงๆ ทั้งนี้ตนจึงตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวออกมาเปิดเผย เพื่อปกป้องตัวเอง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ข่มขู่ และไม่มีเจตนากล่าวหาว่า เลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือ รัฐมนตรี มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ เพียงแต่ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมในตน และแฟนสาวเพียงเท่านั้น สุดท้ายตนยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และอยากเห็นแฟนสาวได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดี เพราะยังเชื่อว่าจะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้
ยังคงต้องติดตามกันต่อไปสำหรับคดีนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม แอดจะนำมารายงานให้ทราบกันต่อไปนะคะ
