นิ้ง โศภิดา เปิดใจชีวิตรัก ความรักไม่ใช่แค่หวาน แต่คือพันธสัญญา

นิ้ง โศภิดา แชร์ชีวิตรักบนพื้นฐานศรัทธา ผ่านรายการ Woody ชี้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่ความรัก แต่คือพันธสัญญาที่ต้องรักษา

ในรายการ Woody ที่ออกอากาศเมื่อไม่นานมานี้ นิ้ง พร้อมสามี ได้ร่วมเปิดใจถึงเบื้องหลังความรักและการใช้ชีวิตคู่ที่ไม่ได้มีเพียงความหวาน หรือภาพสวยงามบนโซเชียลมีเดีย หากแต่เป็นเส้นทางของการเรียนรู้ เข้าใจ และเติบโตไปด้วยกัน ด้วยรากฐานสำคัญคือ “ศรัทธา” และการยึดหลักคำสอนในคริสต์ศาสนา

นิ้งเล่าว่า ทั้งเธอและสามีมีการทำ counseling ก่อนการแต่งงาน เพื่อพูดคุยกันถึงความคาดหวัง เป้าหมายในชีวิต และลำดับความสำคัญ ซึ่งหนึ่งในคำถามที่ถูกยกขึ้นในรายการและกลายเป็นประเด็นที่หลายคนพูดถึง คือคำถามที่ว่า “ทำไมนิ้งถึงเลือกสามี มาก่อนพ่อแม่?” ซึ่งในมุมของนิ้ง เธอมองว่า การเลือกคู่ชีวิตคือการตัดสินใจที่มีผลต่ออนาคตของลูก การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ดูแลกันทั้งในยามสุขและยามทุกข์ และเป็นตัวอย่างของความรักที่ดีให้กับลูกเห็นในทุกๆ วัน จะช่วยวางรากฐานด้านอารมณ์ ความมั่นคง และความเชื่อมั่นในตัวเอง (self-esteem) ให้กับลูกได้อย่างดีที่สุด

นิ้งยังยกข้อคัมภีร์จากวันแต่งงานที่เธอจำได้ขึ้นใจว่า “เพราะเหตุนั้น ผู้ชายจึงจากบิดามารดาของตน ไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน” (ปฐมกาล 2:24) ซึ่งเป็นแก่นสำคัญของชีวิตสมรสตามหลักคริสต์ศาสนา ที่เชื่อว่าครอบครัวใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจากความรักและความตั้งใจนั้น ต้องดำเนินไปอย่างเป็นหนึ่งเดียว และไม่ควรจบลงด้วยการหย่าร้าง

แม้ภาพที่หลายคนเห็นจากภายนอกจะดูสมบูรณ์แบบ แต่เธอเปิดเผยตรงๆ ว่า ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ได้มีแค่เรื่องดี หรือไร้ความขัดแย้ง หากแต่ผ่านบททดสอบหลายรูปแบบ ตั้งแต่การทำงานร่วมกันในฐานะเจ้าของธุรกิจ การปรับตัวเมื่อมีลูก และการเรียนรู้ที่จะเลี้ยงลูกด้วยตัวเองในแนว Montessori ที่ทั้งคู่ลงเรียนด้วยกัน เพื่อเข้าใจพัฒนาการของลูกในทุกช่วงวัย โดยสิ่งที่ยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์ของพวกเขาไว้ได้ตลอดคือ การให้เวลา ความเข้าใจ การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา และการให้อภัย

นิ้งยังทิ้งท้ายถึงผู้ชมและคนทั่วไปว่า อย่าตัดสินชีวิตใครจากคำพูดสั้นๆ หรือภาพตัดตอน เพราะเบื้องหลังทุกคู่รักมีเรื่องราว มีความพยายาม และมีเส้นทางเฉพาะของตัวเอง พร้อมฝากถึงผู้หญิงทุกคนว่า ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทภรรยา แม่ หรือเจ้าของกิจการ จงภูมิใจในเส้นทางของตัวเอง และเชื่อมั่นว่าความรักที่ยืนยาวไม่ใช่เรื่องของโชค หากแต่คือความตั้งใจที่จะ “จับมือกันไว้” และไม่ปล่อยไปง่ายๆ