หมอสอง เล่าเหตุการณ์ ถูกลักพาตัวในต่างแดน 25 วัน ทรมานมาก

หมอสอง เล่าเหตุการณ์ ถูกลักพาตัวในต่างแดน 25 วัน ทรมานมาก พร้อมขอบคุณทุกคนที่ช่วย และส่งกำลังใจ

เป็นการออกมาเปิดใจ สำหรับเหตุการณ์ที่ต้องจดจำไปตลอด สำหรับ หมอสอง นายแพทย์นพรัตน์ แพทย์ศัลยกรรมชื่อดัง ที่เจอเหตุการณ์สุดระทึก ขณะไปเที่ยวต่างประเทศ โดย หมอสอง ถูกลักพาตัวไป จากคนกลุ่มหนึ่งในต่างประเทศ ล่าสุดวันนี้ 27 ต.ค. หมอสอง พร้อมด้วยคุณแม่ , พี่ชาย และ น้องชาย ได้ตั้งโต๊ะแถลงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่า

” ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงและส่งกำลังใจมา รวมถึงให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ผมจะพยายาม เล่าเท่าที่จะพูดได้ เพื่อความปลอดภัยของผม หากอนาคตผมจะไปเที่ยวต่างประเทศอีก หรือรวมไปถึงเรื่องราวที่เซนสิทีฟ ผมขออนุญาตไม่พูดนะคับ ต้องขอโทษไว้ก่อนล่วงหน้า”

“โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ผมต้องเล่าก่อนว่า ที่ผ่านมา ผมเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว อยากจะเที่ยวให้ได้ทุกประเทศในโลก และที่ผ่านมา รวมถึงทริปนี้ผมก็เที่ยวแบบไปกับไกด์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และย้ำเขาทุกครั้งว่า ตรงไหนที่เสี่ยง ตรงไหนที่อันตราย ผมไม่ไปอย่างเด็ดขาด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่คิดว่ามันจะเกิด คือระหว่างที่ผมนั่งรถไป ผมหลับ และได้ยินเสียงปืน เลยถามไกด์ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่ารถเราโดนยิง หลังจากนั้นผมก็โดนปิดตา เอามือไว้ข้างหลัง เขาก็พาผมไปในสถานที่หนึ่ง และก็ยึดโทรศัพท์ผมไปหมด วินาทีนั้นคือกลัวมากๆ คิดตลอดว่าเราจะหนียังไง เขาพูดกับเราดีนะครับ ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย ผมพยายามบอกเขาว่า ผมเป็นหมอ เป็นนักท่องเที่ยวปกติ ซึ่งเขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะปล่อย ไม่ต้องกลัว แต่ขอดูก่อนว่าเราไม่ใช่คนที่เขาต้องการ”

“หลังจากนั้นมันมีช็อตที่ผมหนีออกไป แต่สุดท้ายก็ดันไปเจอพวกเดียวกับเขา ก็โดนจับกลับมาอีก ใจก็กลัวว่าเขาจะทำร้าย แต่สุดท้ายเขาก็เอาโซ่ตรวนมาใส่มือกับเท้าผม เอาจริงๆตลอด 25 วัน เขาไม่ได้ทำร้ายเรา เขาดูแลเราหาข้าวให้กิน แต่มันเป็นความทรมาน ที่อยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะปล่อยเราเมื่อไหร่ ผมเป็นห่วงทางบ้านมากๆ ห่วงคุณแม่ และตัวผมเองก็มีโรคประจำตัวด้วย เราพยายามคิดบวก ทำโน่นทำนี่ให้วันๆนึงมันผ่านไปเร็วๆ มันเป็นความทรมาน เรามีการพยายามต่อรองกับเขาดีๆ ยอมแลกหมดไม่ว่าเขาจะต้องการอะไร ยอมให้หมด เพื่อที่จะมีชีวิตรอดกลับมาเมืองไทย จนกระทั่งเรื่องราวผ่านไป เขาเริ่มไว้ใจว่าเราไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเขา เขาก็ยอมให้ใช้โทรศัพท์ ผมก็เลยรีบแจ้งครอบครัว ได้ประสานความช่วยเหลือต่างๆ และเมื่อเจรจาสำเร็จ ได้ออกมาอย่างปลอดภัย มันทำให้ผมคิดอะไร ได้หลายๆอย่างนะครับ มันทำให้ผมเป็นคนดีขึ้น ขอบคุณทุกคนที่ช่วย รวมถึงส่งกำลังใจด้วยครับ เหตุการณ์เรื่องนี้มันไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มันสอนผมเยอะเลยว่า หลังจากนี้จะทำอะไร หรือไปไหน ต้องหาข้อมูลให้มากขึ้น ระวังตัวมากขึ้น รอดมาได้ถือว่าโชคดีมากๆ”

หลังจากนี้งดเที่ยวที่แปลกๆเลยมั้ย?

“เป็นคำถามที่ดีมาก จริงๆผมเหลือเก็บอีก 2 ประเทศ แต่ช่วงนี้ต้องพักก่อนครับ เรื่องตรวจร่างกายไปตรวจมาแล้วปกติดี ส่วนจิตใจ ตัวผมว่าผมปกตินะ แต่เดี๋ยวต้องไปพบคุณหมอจิตเวชเพราะว่า ไม่รู้ว่า การที่เราเครียด มันจะมีผลอะไรมั้ย ส่วนที่คนเข้าใจผิดว่าผมไปกับไกด์เถื่อน หรือ โดนยิง ไม่จริงนะครับ หลังจากนี้เรื่องนี้ผมขอจบแล้ว เพราะว่ามันค่อนข้างกระทบจิตใจของผมและครอบครัวมามากแล้ว วันนี้ผมออกมาพูดตามที่ได้สัญญาไว้ครับ”

คุณแม่ ห้ามลูกเลยมั้ยหลังจากนี้ไม่ให้ไปเที่ยวแล้ว?

“(ยิ้ม) ไม่หรอกค่ะ แล้วแต่เขา”

วินาทีที่กลับมาเจอหน้าครอบครัวตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?

“มันจุกอกครับ มันดีใจที่รอดมาได้ มันโล่ง ต้องขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ช่วบยเหลือ เรื่องเอาผิดกับบริษัททัวร์ หรือไกด์มั้ย ผมยังไม่ได้คิดครับ ตอนนี้ขอดูแลสภาพจิตใจตัวเองและครอบครัวก่อน”

คลิปอีจันแนะนำ
เราภาคภูมิใจมากที่ลูกชายโตเป็นลูกสาว