ตั๊กแตน ชลดา แจงเรื่องแฟนคลับโชว์รูปอดีตสามีกลางคอนเสิร์ต

หลังจากที่กลายเป็นประเด็นในโลกโซเชียลเรื่องของสาวตั๊กแตน ชลดา ที่มีแฟนคลับโชว์รูปอดีตสามีให้ดูในขณะทำการแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งเจ้าตัวได้แก้ปัญหาด้วยการเล่นมุขขำๆต่อหน้าคนดู เพื่อไม่ให้การแสดงนั้นกร่อย และดำเนินการแสดงต่อ แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวได้โพสต์ความรู้สึกลงโซเชียล และอยากให้เข้าใจที่ไม่อยากพูดถึงเรื่องเก่า ซึ่งสาวตั๊กแตนเองได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า

“มันเป็นเรื่องของการสะสมความรู้สึกมากกว่า เวลาที่มีคนมาพูดหรือเอารูปมาโชว์ มีความรู้สึกว่ามาพูดถึงทำไมเราไม่ได้อยากพูดถึงแล้ว อยากจะฝากบอกผ่านตรงนั้นไปบนเวทีเลยว่าเรื่องเราจบไปนานแล้ว ไม่อยากให้ทุกคนพูดถึง”

ซึ่งสาวตั๊กแตน ชลดา มองว่าไม่ได้เป็นเรื่องน่าขำ และควรให้เกียรติกัน อยากให้เรื่องราวมันจบไป ซึ่งฝ่ายอดีตสามีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตอีกแล้ว

“มันไม่ใช่เรื่องที่น่าขำ มันเป็นเรื่องที่พวกเราต้องให้เกียรติกัน เรื่องราวจบไปตั้งนานแล้ว ให้เรื่องราวมันจบไปตรงนั้นดีกว่า ไม่อยากให้ขุดขึ้นมา ไม่ว่าแตนจะออกเพลงใหม่เค้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย สมองแตนไม่เคยนึกถึงเค้าเลย ไม่อยากให้จับไปโยงกัน แตนอยากจบจริงไม่อยากพูดถึง เอาจริงๆเรื่องราวไม่มีใครลืมได้ แต่เราเลือกที่จะเดินหน้าต่อ เราเดินไปไกลแล้ว”

และสาวตั๊กแตนยังบอกอีกว่า แฟนคลับได้ขอโทษแล้ว ตนเองก็ไม่ได้โกรธ แค่อยากให้เข้าใจจุดประสงค์ว่าไม่อยากพูดถึง

“เค้าขอโทษค่ะ ส่วนใหญ่ทุกคนก็ขอโทษ แตนก็ไม่ได้โกรธอะไรแค่อยากให้รู้ถึงความในใจว่าอย่าพูดถึงเลย แตนดีขึ้นหลังจากที่พูดไปวันนั้น ทุกคนได้รู้จุดประสงค์ของแตนแล้วว่าไม่อยากให้พูดถึง”

ประเด็นยังไม่จบด้วยแค่นี้ ยังมีคอมเมนท์ที่มาต่อว่าในโลกโซเชียล ล่าสุดอย่างเรื่อง ‘ไม่สวย’ ด้านสาวตั๊กแตน ชลดา อย่ามองแค่รูปลักษณ์ภายนอก เลิกบูลลี่กันได้แล้ว พร้อมเปรียบพวกบูลลี่เหมือนโรคจิต ควรไปรับยาและทำการรักษา

“แตนว่านานาจิตตัง แตนก็เคยมองตัวเองไม่สวย แต่บางมุมบางเวลาแตนก็มองว่าตัวเองสวยนะ เค้าว่าไม่สวยก็โอเคยอมรับได้ เค้าก็ต้องยอมรับตัวเองด้วย แตนอยากให้มองถึงจิตใจของมนุษย์ด้วย ความเป็นจริงไม่ว่าจะสวยหล่อแค่ไหนมันเป็นแค่รูปลักษณ์ภายนอก แรงมาแรงกลับ ดีมาดีกลับ เราไม่จำเป็นต้องดีกับทุกคน ดีเฉพาะคนที่ดีกับเราก็พอ อยู่ยุคไหนแล้ว เลิกบูลี่ได้แล้ว พวกบูลี่คือโรคจิตไปรับยาเถอะ ไม่อยากฟ้อง ฟ้องไปก็ไม่มีตังจ่าย แต่จะบอกว่าไปรักษาตัว รักษาจิตใจตัวเอง มันจะได้ยกระดับจิตใจเราดีขึ้น ถ้าว่างมากก็ไปทำมาหากิน ไปหาไรทำจะได้รวยขึ้น”