เฌอเอม เปิดใจหลังทวิตเดือด โดนเลิกจ้างเพราะพูด การเมือง

เฌอเอม เปิดใจหลังทวิตเดือด โดนเลิกจ้างเพราะพูด การเมือง พร้อมเผยเคยถูกแบนจากวงการ ไร้ทั้งงาน ไร้ทั้งเงิน

กลายเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียล สำหรับกิจกรรมงาน มิสแกรนด์ กับอนาคตเมืองไทย หลังเลือกตั้งปี 66 เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา หลัง เณอเอม ชญาธนุส มิสแกรนด์ลำพูน 2023 ได้ขึ้นถามคำถามสุดเดือดกับ นาย ไพบูลย์ นิติตะวัน ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ เกี่ยวกับปมการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

ซึ่งต่อมาเธอก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่าโดนเลิกจ้าง โดยสาเหตุมาจากการที่เธอพูดเรื่อง การเมือง ในกิจกรรมที่ผ่านมา โดยเธอระบุว่า “ผ่าน 17 มีนามาเราก็โดนเลื่อน (ที่น่าจะแปลว่าแคน)​ งานหลักแสนเลย ด้วยเหตุผลที่ว่า “น้องพูดเรื่องการเมือง” “ขอดูกระแสก่อนนะ” คลาสสิค พออยู่ไทยปุ๊ปก็มาเลยนะประโยคนี้ บางคนเขาพึ่งรู้จักเราเมื่อเดือนก่อน ไม่เคยเห็นด้านกิจกรรมจริงๆ คือเราเป็นที่รู้จักในวงหนึ่ง แต่ไม่ใช่ในทุกวง คนไม่รู้จักเลยยังมี คนลำพูนไม่รู้จักเอมมาก่อนก็เยอะ ส่วนคนที่อื่นบางคนก็ไม่รู้ว่าเราเป็น มิสแกรนด์ลำพูน นึกออกป่ะ”

ซึ่งล่าสุดได้มีโอกาสเจอกับ เฌอเอม เธอจึงได้เปิดใจถึงประเด็นนี้ว่า “วันนั้นเราไม่ได้พูดเรื่องอะไรที่ลึก และก็หนักเลย พูดเรื่องทั่วๆ ไป สิทธิมนุษยชน และก็เรื่องชนเผ่าที่เราทำอยู่แล้ว ซึ่งคนทั่วไปก็อาจจะรู้จักเราบ้าง ว่ามีการคอลเอาท์ เป็นนักกิจกรรม แต่บางคนก็ไม่รู้จัก อาจจะมารู้จักเราตอนที่ประกวด มิสแกรนด์ แล้วทีนี้มันก็มีงานเจ้าหนึ่งที่เคยคุยกันมาแล้ว เขาดูตกใจในสิ่งที่เราออกมาพูด ก็เลยขอกลับไปคิดก่อน ดูกระแสก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ”

เรามีภูมิคุ้มกันแค่ไหนกับเรื่องพวกนี้?

“จริงๆ โดนแบบนี้มาหลายรอบ เราเป็นนางแบบมาก่อน มีช่วงหนึ่งเคยโดนวงการแฟชั่นแบน ทั้งเดือนไม่มีงานเลยก็มี โดนผู้ใหญ่บางคนเลิกรับไหว้ก็มี ก็เลยค่อนข้างชิน ผ่านอะไรมาเยอะ ภูมิต้านทานแข็งแรง”

มีคนแบน แต่ก็ยังมีคนที่ซัปพอร์ตเยอะเช่นกัน?

“อันนี้เป็นหนึ่งสิ่งที่ มิสแกรนด์ ทำมาตลอด เราเชื่อว่าการที่เราจะหลุดพ้นจากอำนาจทุน หรืออำนาจต่างๆ ที่มันมีเส้นสายโยงใยมาก่อน เราต้องมีตลาดเป็นของตัวเอง อย่างการไลฟ์ขายของกิจกรรมที่บอสให้ทำ ก็ทำให้เราได้รู้ว่าใครซัปพอร์ตเราจริงๆ เรารู้สึกว่าถ้าคนรุ่นใหม่เลือกตลาดหรือสินค้าเองได้ จะส่งผลให้มีอิสระทางด้านการพูดมากขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกแบน”

ทำไมถึงยังตัดสินใจที่จะคอลเอาท์ แม้จะถูกเลิกจ้างงาน?

“เราไม่ได้ตัดสินใจแบบนั้น แต่ทุกครั้งที่เราพูด เรารู้สึกว่ามันไม่มีอะไรในสายตาเรา แต่มันอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ในสายตาคนอื่น ก็เลยช่างน้ำหนักไม่ได้ว่าอะไรมากหรือน้อย แต่เรารับรู้เสมอว่ายังมีกลุ่มคนที่เขาเห็นคุณค่า ตอนที่โดนแบนแรกๆ ก็แอบเครียด จากหาเงินได้เดือนละเป็นแสน เหลือแค่ 2 พัน แต่วินาทีที่เราออกไปสู้เพื่อสังคม เรารู้สึกว่าบางอย่างเราอาจจะไม่ได้อะไรกลับมา แต่มันเป็นสิ่งที่มีคนต้องการจริงๆ”

เคยเจอข้อความแปลกๆ ไหม?

“ล่าสุดโดนคนส่งข้อความมาไล่ให้ไปตายนอกแผ่นดินบ้าง อะไรบ้าง พอเจอ ดราม่า นางงาม ก็เลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องเล็กมาก เหมือนเราผ่านจุดที่ดิ่งที่สุดมาแล้ว มันทำให้เราเกิดคำถามกับความเป็นไทย คือเรารักประเทศนะ แต่ความรักนี้มันทำให้แตกแยกหรือเปล่า นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสนใจเวที มิสแกรนด์ เพราะเป็นที่ที่เปิดโอกาสให้สามารถพูดได้”

เจอเรื่องอะไรหนักสุด?

เมื่อปี 2021 ประมาณวันที่ 13 ก.พ. มีเหตุการณ์ใช้แก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุมเกิดขึ้น แต่ตำรวจแถลงข่าวยืนยันว่าไม่มี แต่สุดท้ายก็มีข่าวลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ภายหลังมีการเรียกเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ทำให้เราไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีก เราก็ได้ออกมาทวิตว่าเราเป็นนางงามคนแรกที่โดนแก๊สน้ำตา แต่สิ่งที่ ผบ.ตร. คนดังกล่าวนั้นทำก็คือเรียกรวมนักข่าว และแถลงข่าวในลักษณะข่มขู่ให้เรามา แต่เราไม่มา เพราะว่ามันไม่มีหมาย ท่านเป็นคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม มีอำนาจของรัฐในมือ แทนที่จะส่งหมายมา แต่กลับทำเช่นนี้เหมือนเป็นการตั้งใจที่จะดิสเครดิสเราในสังคม จนหลายคนคิดว่าเราโกหก และคุณก็ทำแบบนี้กับดาราอีกหลายๆ คน ต่อให้เรามีภาพมายืนยัน แต่ถ้าคุณบอกว่าไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่ อันนี้มันคือความบิดเบียวของกระบวนการของรัฐ”

สุดท้ายเธอฝากว่า “ถ้าอยากเชิญวันหลังให้ส่งหมายมา ส่งสิ่งที่มันอยู่ในกระบวนการมา ไม่ใช่มาท้าผ่านสื่อว่าเราแน่จริงหรือไม่แน่จริง เราเองพร้อมที่จะทำตามกระบวนการอยู่แล้ว”

เรียกได้ว่าสายเลือดนักกิจกรรมเข้มข้นจริงๆ เลยนะคะสำหรับสาวคนนี้ เอาเป็นว่าเรามารอติดตาม และเป็นกำลังใจให้กับสาว เฌอเอม กันต่อไป และอย่าลืมสนับสนุนเธอกันเยอะๆ นะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
มาร์กี้ ยืนยัน ที่พูดในรายการ เพื่อนใหม่ ไม่ใช่เบลล่า