อุ้ม ลักขณา เปิดใจครั้งแรก กรณีเลิกอดีตสามี บอล กฤษณะ

อุ้ม ลักขณา เปิดใจครั้งแรก กรณีเลิกอดีตสามี บอล กฤษณะ รับเซ็นใบหย่าแล้ว

เป็นการออกมาเปิดใจครั้งแรกของ อุ้ม ลักขณา หลังจากเลิกกับอดีตสามี บอล กฤษณะ โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ อุ้ม ได้มาเปิดใจในรายการ แฉ โดยเธอยังมีสีหน้าที่โศกเศร้า พร้อมเผยว่า

​อุ้ม ลักขณา ตอกกลับ หลังเจอคอมเมนต์แนะเรื่องชีวิตคู่

โสดทั้งพี่ทั้งน้องเลยตอนนี้ ?

“ค่ะ เป็นซิงเกิ้ลมัมค่ะ”

เห็นบอกว่าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ ?

“ไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลยค่ะ ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่คิดว่า อุ้มจะไม่มีผู้ชายคนนี้อยู่ในชีวิต อุ้มคิดว่าเขาคือความสุข คือครอบครัว คือพ่อของลูก คือสามีที่ดี ก็เลยไม่เคยระแวงหรือคิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ค่ะ”

7 ปีที่ผ่านมา เขาเป็นพ่อและสามีที่ดีมากๆ ไม่เคยมีเรื่องอะไรเลย ?

“ไม่มีค่ะ ถามว่าชีวิตครอบครัวแฮปปี้ไหมตอนนั้น มันก็มีบ้าง จะไม่มีเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ สองคนมาจากคนละครอบครัว มาจากคนละพื้นฐานการเลี้ยงดูกัน ก็ต้องมีเรื่องที่ปรับกันเยอะมากๆ ก่อนจะถึงจุดที่ลงตัว มันใช้เวลาหลายๆ ช่วง แต่ว่าเราทั้งสองคนก็พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อลูก ซึ่งมันก็ผ่านมาได้ แต่มันก็มาเกิดเรื่องนี้ ที่ทำให้ไม่สามารถไปต่อได้”

ถ้าไม่สาระแนไปดูหมอดู ก็จะไม่เกิดเรื่องนี้จริงไหม ?

“(หัวเราะ) ไม่ได้สาระแนไปดูอะไรเลยค่ะ ไม่ได้ดูดวงเพื่อเช็ก ไม่ได้ดูเรื่องนี้เลย ไปเพราะเห็นเขาดูกันก็ตามเขาไป ปกติชอบดูดวง แต่วันนั้นไม่ได้ตั้งใจไปดูดวงอะไรทั้งสิ้นเลย เพราะทุกอย่างแฮปปี้ดีหมด ต่อให้เขาพูดอะไรมาไม่ได้รู้สึกว่าเราต้องหวั่นไหว หรือต้องไปจับผิดอะไร ไม่มีอยู่ในสมองของอุ้มเลยค่ะ”

วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ?

“ไปกับเพื่อนค่ะ เขาแค่บอกว่าเดี๋ยวเราจะได้มีโอกาสกลับมาบูชาองค์แม่อีกทีนึงแค่นั้น เราก็ อ๋อ โอเคค่ะ ถามว่าแม่นไหม สิบคะแนนให้สิบเต็มเลยค่ะ”

ตอนนั้นไม่คิดว่าเหตุการณ์มีจริง หมอดูดูด้วยอะไร ?

“เปิดไพ่ยิปซีค่ะ ตอนดูเราก็ยังไม่เชื่อเลย คิดว่าหมอดูคนนี้เราไม่รู้จักเขา เขาคงมั่วๆ พูดไปเรื่อย เพราะชีวิตครอบครัวเราดีอยู่ แต่พอเกิดเรื่องแล้วถึงได้ อ้าว แม่น”

ดูกี่วันถึงเกิดเรื่อง ?

“ไม่เกินอาทิตย์ค่ะ ตอนนี้เลยสนิทกับหมอมากค่ะ (หัวเราะ) บูชาองค์แม่เรียบร้อยแล้วค่ะ (หัวเราะ)”

ตอนเกิดเรื่องแรกๆ เห็นบอกว่าสภาพจิตใจไปต่อไม่เป็นเลย เราจัดการยังไง ?

“กลับบ้านที่กรุงเทพฯ ค่ะ เราต้องกลับมาหาเซฟโซนของเราค่ะ อยู่ที่เชียงใหม่ 7 ปี อุ้มไม่มีเพื่อน อุ้มไปอยู่คนเดียว ตัวคนเดียว ไม่มีใครเลยค่ะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม มีแค่เขาคนเดียว ที่เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แล้วก็มีลูก ชีวิตก็จะอยู่แต่อย่างนั้นค่ะ แล้วตอนหลังก็เอาน้องชายมาอยู่ด้วย เพราะน้องชายอยากมาดูแลพี่สาว ให้เขาเริ่มมาทำงานกับเรา น้องชายเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ปีนึงค่ะ”

เรื่องเกิดจากเพจดังปล่อยข่าวช่วงกลางเดือนกรกฎาคม อักษรย่อผัวเมียสายแซ่บอันฟอลโลว์ไอจีกัน ชาวเน็ตไปสืบจนรู้ว่าเป็นคู่เรา เพราะอันฟอลโลว์ด้วยกันทั้งคู่ ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือยัง ?

“เกิดขึ้นแล้วค่ะ ไม่ใช่ตัดสินใจว่าจะจบกัน แต่เป็นวันที่เรากลับบ้าน กลับมากรุงเทพฯ มาพักใจ”

“ใน 7 ปีที่ผ่านมานั้น ชีวิตมีความสุขค่ะ เพราะสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคือน้องดีสนีย์และน้องการ์ตูน แม้น้องการ์ตูนไม่ใช่ลูกแท้ๆ เป็นลูกพี่บอล แต่อุ้มก็รักเขาเหมือนลูกแท้ๆ จริงๆ เราแคร์เขามากๆ ส่วนน้องดีสนีย์เขาคือของขวัญที่ดีที่สุด”

“ถ้าถามว่าย้อนเวลากลับไปได้อุ้มจะยังเลือกผู้ชายคนนี้ไหม อุ้มก็จะยังเลือกเขา เพราะเขาได้ให้ของขวัญที่ดีที่สุดก็คือน้องดีสนีย์”

ตอนละครเรื่อง นาคี ดัง ทุกคนติดต่อมาเล่นละคร แต่เลือกไม่รับงานเอง จากที่เคยติดเพื่อน ยอมทิ้งสังคมไปอยู่เชียงใหม่ ?

“ที่ไม่ได้รับละครจริงๆ ก็คือมีเรื่องคดีของพี่บอลเกิดขึ้น ช่วงนั้นเป็นช่วงเรากำลังพีกเลย ลำเจียก นาคี ดังมากๆ เหมือนได้รับโอกาสเยอะมากๆ แต่พอมีข่าวของเขาเกิดขึ้น เราก็เลือกที่จะไม่ปล่อยมือเขา เราจับมือเขาพิสูจน์ว่าคนเรารักกัน ทั้งสุขและทุกข์ต้องไปด้วยกันสิ ไม่ใช่มีความสุขก็อยู่กับเขา พอทุกข์ก็ทิ้งเขา”

“งานทุกอย่างก็ปฏิเสธเราไปหมด กลายเป็นว่าเขาก็มองภาพลักษณ์เราไม่ดีที่เราไปเข้าข้างคนนี้ ตอนนั้นคนรอบข้างอุ้ม ครอบครัวอุ้ม ทุกคนบอกให้เลิกหมด แต่อุ้มเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง และเชื่อมั่นว่า ไม่ดิ เราต้องข้ามมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะพ่อแม่หรือใครก็แล้วแต่ จะไม่สามารถมาบังคับให้เรารักหรือเลิกใครได้ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ มีสังคมที่พูดว่าพ่อแม่อุ้มนี่แหละสั่งให้เลิกกัน มีกระแสแบบนี้”

“พ่อแม่ให้กลับกรุงเทพฯ พ่ออุ้มสุดยอดแล้ว เป็นคนไม่ต้องการให้ครอบครัวแตกที่สุด ต้องการประสานรอยร้าวทั้งหมด เพราะครอบครัวเราอบอุ่นมากๆ เราคุยกันทุกเรื่อง ปรึกษากันทุกเรื่อง แล้วพ่อแม่อุ้มไม่เคยอยากให้ครอบครัวเราแตก ไม่ว่าจะอุ้มหรือน้องนิวเคลียร์ แม่กับพ่ออยู่ในสถานการณ์น้องนิวเคลียร์เลิกพี่เพชร (เพชรจ้า) ไปแล้ว”

“พออุ้มต้องมาเจอแบบนี้ หัวอกคนเป็นพ่อแม่เขาทุกข์มาก เขารักหลานมากๆ เขาไม่ได้อยากให้ดีสนีย์มีแผล มีปมในใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะมากระทบไทก้าหรือน้องดีสนีย์ค่ะ”

ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน ?

“อยู่กรุงเทพฯ ค่ะ เดี๋ยวจะพากลับมาเรียนสิ้นเดือนกันยายนนี้ เพราะเขาเปิดที่ใหม่ที่เดียวกับน้องไทก้าตอนตุลาคม ตอนนี้ก็ไปสมัครโรงเรียนที่ใหม่ไว้แล้ว ใกล้ๆ บ้าน หน้าบ้านเลย”

ก่อนหน้านี้พยายามเคลียร์และปรับกันแล้วใช่ไหม ก่อนที่จะมาถึงทางตัน ?

“ใช่ค่ะ เราพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ด้วยสติ และตกลงกันทั้งสองฝ่ายว่าเราไม่อยากให้ลูกได้รับผลกระทบที่พ่อแม่มาทะเลาะกันให้ลูกเห็น หรือว่ามาท็อกซิกใส่กัน ฉะนั้นในเมื่อถึงทางตันแล้ว ต่างคนต่างมีเวย์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เวย์ที่เหมือนกันคือเราจะเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดให้กับลูกทั้งสองคน”

มีกระแสข่าวเม้าท์ เลิกกันเพราะสามีไปติดผู้จัดการ อีกทั้งยังมีกระแสที่ว่า เราไม่ยอมให้สามีทำการบ้านเลย 3 ปี ?

“ข่าวที่ว่าพี่บอลเลิกอุ้มเพราะผู้จัดการอุ้ม ผู้จัดการอุ้มเขาเป็นสาว (หัวเราะ) ส่วนเรื่องไม่ยอมให้สามีทำการบ้านเลย 3 ปีก็ไม่จริงค่ะ ขอแก้ข่าวนิดนึง ไม่มีสองปีแรก เพราะปีหนึ่งท้อง 9 เดือน อีกปีอุ้มเลี้ยงลูกคนเดียว 24 ชม. พี่ด้าต้องเข้าใจความแม่ เรามีลูกคนแรก และไม่ได้อยู่ข้างๆ แม่ตัวเอง ไม่ได้อยู่ข้างๆ น้องสาวที่เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาก่อน อุ้มไม่มีคนเป็นที่ปรึกษาเลย ก็งูๆ ปลาๆ กับการเลี้ยงลูกคนนึงให้ดีที่สุด”

“เราต้องปั๊มนม ให้ลูกเข้าเต้า เลี้ยงลูก พอลูกขวบนึงก็กลับมามีอะไรกันเหมือนเดิม ก็มีการนัดกัน แต่ต้องนัดตามเวลา เพราะอุ้มเลี้ยงลูกเองเป็นหลัก อุ้มไม่มีพี่เลี้ยง”

จากข่าวบอกว่า เราไปเห็นหลักฐานจากแชทบางอย่างที่มีการเกินเลย เขาก็พยายามมาง้อ พยายามยื้อแล้วจริงไหม ?

“เรียกว่าคุยกันมากกว่าค่ะ กว่าจะเลิกกันก็มีการเคลียร์กัน หาบทสรุปให้ได้ค่ะ”

บางคนตั้งคำถามเรื่องเอานมออกแล้วเขาเปลี่ยนใจ เกี่ยวไหม ?

“อุ้มไม่รู้ว่าคนอื่นหรือใครจะคิดยังไง แต่ก่อนเอาหน้าอกออก เรามีการพูดคุยกัน มีการปรึกษากัน ซึ่งเขาก็บอกว่าอะไรที่อุ้มมีความสุข อุ้มทำเลย เพราะอุ้มมีปัญหาปวดหลังหนักมาก เราใส่เต้ามานาน พอเราให้นมลูก แล้วพอมันหมด มันยาน มันใหญ่ มันหนัก”

“แล้วอุ้มคิดว่าชีวิตนี้เรามีผู้ชายคนนี้เป็นผัว เราไม่คิดจะมีผัวคนไหนอีกแล้ว ต่อให้กูน่าเกลียด ผัวก็ต้องรักกูสิ ต่อให้นมแบน แต่กูไม่ได้ไปรักคนอื่น ไม่ได้คิดจะไปเปิดนมให้คนอื่นดูอีกแล้ว ถ้าเราอยากมีนมใหญ่ให้คนอื่นดู แต่เราคิดว่าเราไม่ได้อยากให้คนอื่นดูแล้วไง เราหยุดอยู่ที่เขาคนเดียว ชีวิตนี้เรามีเขาแค่คนเดียวแล้ว เราก็เอาออก ให้มันเป็นธรรมชาติ อุ้มมาออกกำลังกาย สายสปอร์ตแล้วไงคะ”

ยืนยันประเด็นนี้ไม่ใช่แน่นอน ?

“ประเด็นนี้ไม่ใช่ (หรือไม่แน่ ?) หนูไม่รู้ แต่เขาบอกกับเราแบบนี้ว่าเขาโอเค แต่ความรักมันมีอะไรมากกว่านั้น ถ้าอุ้มพูดว่าเขาไม่มีอะไรที่อุ้มชอบสักอย่าง ผิวพรรณหน้าตารูปร่างไม่ใช่สเปกอุ้มเลย แต่ทำไมอุ้มรักเขาล่ะ มันเป็นเรื่องหัวใจค่ะ”

ตอนหยุดรับงาน ถามว่าเสียดายไหม ?

“ตอนนั้นไม่เสียดายนะคะ ไม่ได้มองเรื่องเงิน หรือชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญ ตอนนั้นมันเครียด อยากช่วยเขาให้ผ่านวิกฤตตรงนี้ไปให้ได้ มันเลยไม่ได้คิดเรื่องตัวเองเลย คิดแค่ว่าทำยังไงให้เขากลับมายืนในสังคมได้ โดยที่ไม่โดนสังคมประณามว่าเป็นคนไม่ดี”

บางกระแสบอกว่าเพราะสามีเราเอาเงินไปสู้คดีหมดแล้วหรือเปล่า บวกกับที่แม่เราเพิ่งเคยโพสต์ไปด้วย ?

“อันนี้ไม่รู้เลยค่ะ แม่เขาโพสต์อาจไม่ได้เกี่ยวกับคนๆ นี้ เขาอาจโพสต์ของเขา แล้วบังเอิญจังหวะเวลาไปตรงกัน ไม่ได้เกี่ยวกับพี่บอลค่ะ อุ้มกับเขาไม่ได้มีปัญหากันเรื่องเงินค่ะ”

ถ้าเปรียบเรื่องนี้เป็นนิทาน ถึงตอนจบหรือยัง หรือมีให้ติดตามภาค2 ?

“อุ้มกับเขาก็เซ็นใบหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ ทางกฎหมาย และตัวอุ้มเองกับเขาก็อย่างที่ตกลงกัน เราจะยุติความสัมพันธ์การเป็นสามีภรรยากัน เป็นเพียงแค่พ่อกับแม่ที่ดีที่สุดให้ลูกทั้งสองคน”

“โดยพี่บอลรับผิดชอบเรื่องลูกไป อุ้มก็ต้องคัมแบ็กกลับมาทำงาน จากนี้จะรับงานในวงการ ห่างหายไปนาน ขอโอกาสนะคะ ต้องไปทำนมใหม่ไหมคะ (หัวเราะ)”

ชีวิตตอนนี้มีความสุขหรือยัง ?

“ลูกคือความสุขที่สุดของอุ้ม ทุกครั้งที่มีปัญหา เรามีครอบครัวเราจริงๆ มีน้องนิว มีพ่อแม่ มีน้องชาย ทุกคนซับพอร์ตเราจริงๆ แล้วคนที่รับรู้ความทุกข์เราที่สุดคือน้องดีสนีย์ เขารู้เขาเห็น และเขาพูดกับอุ้มทุกวัน ดีสนีย์รักหม่าม๊านะ หม่าม๊าเป็นดวงใจของดีสนีย์นะ เวลาเขาเห็นอุ้มหน้าเครียด เขาจะบอกว่าหม่าม๊าร้องไห้ทำไม หม่าม๊าเครียดทำไม”

ได้มีการพูดคุยกับลูกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบ้างไหม เขาเข้าใจหรือยัง ?

“เขาก็คงงงๆ ค่ะ ตอนนี้ถึงไม่ได้ย้ายออกมาจากเชียงใหม่ เราอยากให้เขามีโมเมนต์ค่อยๆ ปรับกับพี่สาวเขา พ่อเขา ก่อนที่เขาจะต้องแยกออกมาจริงๆ”

“ตอนนี้เขาพูดเสมอว่าเขาเกิดเชียงใหม่ เขาเป็นเด็กเชียงใหม่ แต่ตอนนี้เราก็พูดว่าตอนนี้บ้านเรากำลังจะพังนะ เราต้องซ่อมบ้านนะลูก เราต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ มาเรียนกรุงเทพฯ นะ เขาก็เริ่มเก็ต เริ่มเข้าใจ แต่เขาไม่จำเป็นต้องมารับรู้ว่าปัญหาของพ่อแม่คืออะไร ท้ายที่สุดแล้วอุ้มไม่ได้อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดี หรือรู้สึกว่าพ่อแม่มีปัญหากัน หรือไม่ภูมิใจในตัวพ่อเขาหรือตัวอุ้ม ฉะนั้นเลือกได้อุ้มไม่อยากพูดถึงปัญหาว่าคืออะไรอีกแล้ว เพราะมันจบแล้วค่ะ”

เป็นการเปิดใจครั้งแรกของ อุ้ม ลักขณา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอยังมีสีหน้าที่โศกเศร้าอยู่ เรื่องนี้จะเกิดขึ้นแล้ว เราคนนอกอย่าเราก็คงทำได้แค่ส่งกำลังใจให้เธอเข็มแข็งขึ้นในทุกๆวันนั่นเองค่ะ