ภิกษุณีสุทัสสนา แจงขายสบู่เพื่อหาเงินทำบุญที่ศรีลังกา

ภิกษุณีสุทัสสนา แจงขายสบู่เพื่อหาเงินทำบุญที่ศรีลังกา ยันปรึกษาเจ้าอาวาสแล้ว ส่วนเรื่อง ศรีสุวรรณ จรรยา บอกอยากฟ้องใครควรมาคุยก่อน

กลายเป็นดราม่าขึ้นมาซะงั้น เมื่อมีข่าวว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา หอบหลักฐานคำร้องส่งสำนักพุทธฯ-มหาเถรสมาคมฯ ขอให้ตรวจสอบและเอาผิด ภิกษุณีสุทัสสนา หรือ หมอปลาย พรายกระซิบ ที่พบมีการขายสบู่น้ำมนต์

อย่างไรก็ดี วันนี้ 28 ก.ย. เวลาประมาณ 13.00 น. ภิกษุณีสุทัสสนา ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย ภิกษุณีสุทัสสนา เผยว่า

“การเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ เนื่องจากว่ากลับมาทำบุญ ที่เชียงใหม่ อย่างที่ สองคือได้ไปคุยกับพระอาจารย์ เพื่ออยากจะร่วมโครงการที่จะสร้างเมรุเผาศพ อย่างที่สามคือสัญญาไว้กับโยม ที่ร่วมกันทำบุญ เพื่อสร้างโรงทานหอฉันท์ แล้วก็ร่วมกันถวายข้าวสารอาหารแห้ง ที่ศรีลังกา ก็เลยจะขอตอบแทนด้วยการอาบน้ำมนต์ให้ฟรี ได้อายไปให้เรียบร้อยในวันที่ 25 ที่ผ่านมา อาบให้แบบเต็มที่จริงจัง และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น”

กับกรณีของการไลฟ์ขายสบู่ ไลฟ์ที่ไหน?

“ต้องชี้แจงก่อนอย่างแรกว่า เราไลฟ์ที่ศรีลังกา และเราก็เป็นภิกษุณีที่ศรีลังกา ยอมรับว่าไลฟ์จริง ขายของจริง แต่เหตุผลที่ทำเนี่ย คือก่อนที่จะบวชเป็นภิกษุณี เราไปแบบเป็นแม่ชีก่อน ตอนที่เราไปดูที่วัด ประเทศศรีลังกายังไม่เกิดวิกฤตขนาดนั้น ก็ไม่คิดว่ามันจะมีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่พอเป็นภิกษุณีปุ๊บ ประเทศล่มสลาย อย่างที่เป็นข่าว น้ำมันไม่มี อาหารไม่มี รถไม่มี สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความหวังเดียวของภิกษุณีที่มีก็คือหมอปลาย คนไทยเดินทางไปบวช ช่วยหน่อย ท่านเจ้าอาวาสที่วัดท่านก็บอกว่า อนุญาตให้ทำเพราะว่า ภิกษุณีที่ศรีลังกา และ ภิกษุ ที่ศรีลังกาเป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้ขอ พระอุปัชฌายะ ที่ศรีลังกาไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนที่ไทย ที่นั่นทานสามารถเป็น สส.ได้ สู้ได้เพื่อประชาชน สู้ได้เพื่อปากท้องของประชาชน เมื่อประเทศลำบาก ประชาชนไม่มีที่พึ่ง ที่พึ่งคือที่วัด ตอนที่เราไปอยู่เราไม่มีข้าวกิน ต้องขุดมัน ไฟดับวันละหลายๆครั้ง”

“เลยได้ทำการปรึกษาท่านว่า ที่ประเทศไทย ที่วัดเนี่ย มีการหาเงินเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา พระและวัดถึงมีความเจริญรุ่งเรืองขนาดนี้ มีการขายวัตถุมงคล เพื่อให้โยมได้เข้ามาเป็นที่พึ่ง ท่านก็บอกว่า ได้ลองทำดู เพื่อช่วยให้ตรงนี้มันผ่านไปได้ ที่ผ่านมาตั้งแต่ไปบวชที่ศรีลังกายอมรับว่าขายสบู่จริง ยอมรับว่าต้องขายของ แต่ทุกครั้งเราจะพูดตลอดเลยว่า ไม่อยากขอ เพราะหมอปลายเป็นคนไม่ขี้ขอ ที่ผ่านมาเราหาเงินเองทำเอง พอถึงที่โน่นเราก็ลืมไปว่าเราเป็นพระ ท่านสอนว่าห้ามขอ เราไม่ขอ เราทำ เราบอกกับท่านขอทำแบบนี้ ท่านก็คุมความประพฤติอยู่ตลอด และก็บอกว่า หนูกลับไทยเอาเงินจำนวนนี้ไปแลกเป็นเงินศรีลังกาและก็ถวายท่าน ท่านไม่ได้มีปัญหาอะไร”

“เรื่องขายสบู่ เราไม่ได้บังคับ ศรัทธาก็บูชาไป ไม่ศรัทธาก็จบ ถ้าอยากช่วย ไม่ได้ช่วยฟรี แต่มีของแลกเปลี่ยน ท่านก็อนุญาตแล้ว หลายคนอาจจะไม่ได้ดูเลยทำให้เกิดประเด็น และต้องกราบขอโทษคณะสงฆ์ไทย และก็ภิกษุณีไทยทุกท่าน รู้สึกผิดที่สุดยอมรับว่าประมาทมากๆที่ไม่ได้ปรึกษาที่ประเทศไทย ปรึกษาแค่ที่ศรีลังกา ยอมรับว่าคิดสั้นจริงๆ ต้องขอโทษที่ทำให้คณะสงฆ์เสื่อมเสียจากใจเลยค่ะ”

“ที่นั่นเราช่วยหลายวัด ปัจจัยเท่าไหร่ก็ไม่พอ ทั้งไฟ ทั้งของใช้ อุปกรณ์การเรียน ตั้งแต่เป็นชีไป ตอนนี้บริจาคไปเกือบล้านบาทแล้ว ทั้งเงินส่วนตัว พอเป็นพระเราทำงานไม่ได้ เพราะอาชีพหลักทุกคนรู้ว่าหมอปลายดูดวง แต่เรื่องสบู่ มันเป็นของที่มีมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว และก็ไปเขียนราคาที่เยอะเกิน สรรพคุณก็เวอร์วังมาก มาอ่านก็รู้สึกว่าโอ้ มันขนาดนั้นเลยเหรอ มันมีหลายอย่างที่แปลงสารไป สบู่ไปว้ล้านสิ่งอัปมงคล สิ่งสกปรก แต่ที่พูดเนี่ยเราอยากให้เปรียบเทียบว่าเวลาดวงตกไปที่ไหน ไปวัด อาบน้ำมนต์ สมัยก่อนเราเป็นฆราวาส คนมาแก้ของกับเราเยอะ เรารดน้ำมนต์ไม่ไหว เลยเปลี่ยนเป็นสบู่ผสมน้ำมนต์แทน พอมาตอนที่เราใส่ชุดแบบนี้เราคิดแค่ว่าเราเอาของที่มีอยู่เอามาร่วมกันให้ญาติโยมทำบุญสร้างประโยชน์ดีกว่า”

คนมองว่าไม่เหมาะสมหรือเปล่าเรื่องแก้ดวงตก?

“คือคนถามมาก็ตอบไป ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่นั้นเลย ณ เวลานั้น และที่ต้องออกมาทำแบบนี้ เพราะว่าคนที่นั่นก็ลำบากมากๆ”

เคยรู้จักชื่อของ ศรีสุวรรณ จรรยา ไหม?

“รู้จักค่ะ รอบนี้ที่กลับมารู้สึกว่าจะต้องมีปัญหาอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอโยมคนนี้ ต้องขอบคุณที่ทำให้ได้มีโอกาสชี้แจง เพราะว่าก็ไม่ได้สบายใจที่จะต้องออกมานั่งหยิบของมาขาย หรือมาทำอะไรที่ต้องรู้สึกแย่ ใจจริงก็รู้สึกแย่ ยังคุยกับโยมพี่อยู่เลยว่าหนูต้องไลฟ์สดนะ แต่ถ้าไม่ไลฟ์วัดจะทำยังไง รอบนี้เอากลับไปประมาณ 350,000 เราจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ให้พระอุปัชฌายะ เพื่อสร้างวัดของเรา รวมถึงให้วัดอื่นๆ และอีกส่วนหนึ่ง จะไปถวายพระ อุปัชฌายะ ที่เป็นพระภิกษุ เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่พระภิกษุที่ศรีลังกาอีกส่วนหนึ่ง โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น”

“สำหรับคอมเมนต์ในโซเชียลที่ออกมาด้านลบ ก็ต้องบอกตรงนี้ว่า จริงๆถ้าสึกออกมา คงมีชีวิตที่สบายกว่านี้ไม่ต้องมานั่งทุกข์กับดราม่าที่ ทำให้ตัวเองรู้สึกลบขนาดนี้ จริงๆแล้วตัวเองเป็นคนรับแรงกระแทกได้ดีมากแต่ไม่อยากให้คณะสงฆ์เสื่อมเสีย ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาลืมคิดถึงความเหมาะสม เป็นได้ว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิดของ คุณศรีสุวรรณ และคิดว่าทางคณะสงฆ์และเถรสมาคมคงเข้าใจ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดกันไปมากกว่านี้และไม่อยากให้พระสงฆ์ไทยและภิกษุณีที่อยู่ในประเทศไทย ต้องเดือดร้อนเพราะคนคนเดียว”

“ฝากถึงโยมศรีสุวรรณก่อนที่จะฟ้องใครควรจะคุยกันส่วนตัวก่อน ไม่ใช่อยู่ดีๆไปทำให้เป็นเรื่องซึ่งถือว่าไม่แฟร์ เบื้องต้นคาดว่าเขาอาจจะหิวแสงก็คงต้องปล่อยเขาไป ส่วนกรณีที่พระพยอมออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทำให้ภิกษุณีทางเสื่อมเสีย ส่วนตัวยอมรับขอโทษที่คิดน้อย และทำให้เสื่อมเสีย สำหรับเรื่องขายสบู่ ก็ใครที่เคยร่วมบุญกันรบกวนขอรีวิวด้วยจะได้เอาปัจจัยตรงนี้ไปช่วยต่อ ท่านจะได้ไม่ต้องพูด”

เรียกว่าเป็นการออกมาเคลียร์ครบทุกประเด็น ก่อนที่จะบินกลับศรีลังกาในวันพรุ่งนี้ของ ภิกษุณีสุทัสสนา นั่นเองค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
หมอปลาย กลับมารดน้ำมนต์ให้ลูกศิษย์เตือนระวังเรื่องน้ำ