เป็นหนึ่งดาราสาวมากความสามารถ สำหรับ ปู ไปรยา นอกจากเธอจะเคยมีผลงานในเมืองไทยแล้ว ปู ยังไปสร้างชื่อเสียงและโด่งดังในต่างประเทศ ล่าสุดเธอได้มาเปิดใจผ่านรายการ 3 แซ่บ ถึงเรื่องราวดราม่าหนักๆที่เธอเคยเจอ ซึ่ง ปู ยอมรับเลยว่ามันทำให้ ปูเคยคิดสั้นมาแล้ว โดย ปู เล่าว่า
“การที่ตัดสินใจไปอยู่ต่างประเทศเนื่องจากอยากจะมีความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ต้องการชีวิตที่สงบขึ้น”
ช่วงที่ย้ายไปมีมรสุมชีวิตเหมือนกัน?
“อเมริกามันมีหลายรัฐ ซึ่งบทของหนังมันก็จะต่างกัน ต้องปรับอะไรหลายๆอย่าง”
บางคนมองว่า เราอยู่ไทยเราคือนางเอก แต่เราไปอยู่ที่นั่น เป็นนักแสดงประกอบ พูดแค่ประโยคเดียว?
“ปูมองว่าการแสดงมันคือ ศิลปะ ตอนแรกกดดันว่าจะต้องหางานให้ได้ พอกลับมาเมืองไทยคนพูดว่า ปูไม่มีกระแสไม่ต้องจ้าง หรือ ปูไม่เห็นมีงานเลย ปูได้ยินมาหมด พอวันนี้แฟนเราเขาเตือนสติให้เราปล่อยวาง ตอนนี้ก็ไม่กดดันแล้ว”
ไปอยู่โน่นป่วยเป็น PMDD ด้วย?
“อาการมันคือ 2 อาทิตย์ก่อนมีประจำเดือน เหมือนเป็นโรคซึมเศร้า ความเศร้ามันไม่ได้เป็นความรู้สึก มันมาจากข้างใน เวลาอาบน้ำ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่มีเหตุผล แล้วเราไม่อยากทำอะไร และสุดท้ายก็ไปปรึกษาจิตแพทย์ มันเป็นเรื่องของเคมีในสมอง พออยู่ที่นี่คนไม่ค่อยพูดถึง เหมือนว่าเราต้องโอเคตลอดเวลา แต่การที่เรายอมรับว่าเราต้องพบจิตแพทย์ เพื่อจัดระบบความคิด และความรู้สึก มันเป็นเรื่องที่สำคัญนะ คุณหมอไม่ได้ให้ยามาทานนะ แต่ใช้วิธีการจัดการด้วยตัวเราเอง
คิดว่าเรื่องอะไรที่มันหนักที่สุด?
“ช่วงโควิด และก็ตอนนั้นถอนหมั้นกับคู่หมั้นด้วย เรื่องงานเราก็พยายามเรื่องงานก็ยังไม่ได้ ตอนนั้นมันเฟลมาก และบังเอิญเจอข่าวค่อนข้างหนัก ที่โดนโซเชียลถล่มหนักประมาณปีถึง2 ปี มันจะเป็นสิ่งที่ปูไม่มีวันลืมเลยในชีวิตนี้ ปูยังถามใจตัวเองตลอดเลยว่า มันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ตอนนั้นนั่งอยู่ในอพาร์ทเมนต์ มันหนีไม่ได้ มันไม่มีที่ไป ตอนนั้นมันล็อกดาวน์ ทุกคนเล่นโซเชียลหมด เราเปิดโทรศัพท์ทุกครั้ง มีแต่ความเกลียดชัง มีแต่ความโกรธ แล้วชีวิตตัวเองมันล้มอยู่แล้ว แล้วจำได้เลยแบบ คือคิดสั้นมากจริงๆ ตอนนั้น ปูเข้าใจเลยคนคิดสั้น เสี้ยววินาทีจริงๆ แต่ถ้าผ่านเสี้ยววินาทีนั้นได้ คือเป็นเสี้ยววินาทีจริงๆ ที่คนตัดสินใจว่าจะไป แต่ตอนนั้นดีมากที่เพื่อนที่ดี เพื่อนบอกมันไม่คุ้ม
จากเหตุการณ์นั้นปูเลยตัดสินใจว่า ถึงคุณไม่ชอบเรา เราก็อยู่ได้ ก็กลายเป็นว่าเข้าใจแล้วทำไมปูต้องผ่านบทเรียนนี้ เพราะว่าถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง เขาก็อยากบอกเราว่า เลิกแคร์ว่าคนอื่นคิดอะไร และมีความสุขกับตัวเองสักที”
“เป็นดาราคนด่าเป็นล้าน ยังเคยคุยกับพ่อเรื่องฟ้องเลย แต่พ่อบอกว่าเขามาไหว้ขอโทษคุณ แล้วคุณรู้สึกดีเหรอ เราก็ต้องบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจพูด มันไม่มีอะไรดีขึ้น สู้คุณตัดใจไปเลยเสียเวลา”
โรคที่ปูเป็นคือโรควิตกกังวล มันจะเป็นก่อนที่จะเข้าสู่ซึมเศร้า
“ที่ปูอยากมาแชร์คืออยากให้คนรุ่นใหม่มองว่า มันไม่แปลกที่คนเราจะวิตกมาจากโรคที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ความฝันของคนเราดับสลาย บางคนสูญเสีย ไม่อยากให้คนคิดว่าเวลาเราเศร้าต้องหนีไปดื่มเหล้า ไปเที่ยว อยากให้ลองนั่งอยู่กับตัวเอง และหาให้คนช่วยพูดคุย”
“เวลาสุขมันไม่ได้สุขตลอดไป เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เวลาเศร้ามันก็ไม่ได้เศร้าตลอดไป เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เวลาเราป่วยเดี๋ยวมันก็ดีขึ้น แต่พอเวลาแข็งแรงก็จงรับรู้ว่าเดี๋ยววันนึงมันก็จะป่วย”
ทั้งนี้ในช่วงท้ายรายการทำเอา ปู ไปรยา ถึงกับร้องไห้ เพราะว่ามีน้องๆที่เธอช่วยอุปการะได้ส่งคลิปพูดขอบคุณมาถึง ปู โดย ปูก็บอกว่า มีความสุขมากๆถ้าเห็นพวกเขาได้เรียนจบ มีชีวิตที่ดี สุดท้ายสิ่งที่มันมีค่าคือสิ่งที่เราทำกับคนรอบข้างเนี่ยแหละ กับครอบครัว กับคนที่เราได้ช่วยเหลือ มันมีคุณค่ามากที่สุด”
แอดเชื่อว่าแฟนๆก็ยังคงคิดถึง และยังรอคอยที่จะติดตามผลงานดีๆของดาราสาวคนเก่ง ปู ไปรยา เสมอนั่นเองค่ะ
คลิปอีจันแนะนำ
ณวัฒน์ ยันทุกดราม่า ไม่เคยเซ็ต พร้อมเคลียร์ทุกประเด็น