ภารกิจตามหาพ่อให้หนูแดง หลังพลัดพราก 20 ปี อีเต้ยตามหากันจนสุดหนทาง!
หนูแดงเปิดใจกับอีเต้ยอีจัน ถึงเหตุการณ์การพลัดพรากจากพ่อ เท่าที่เธอจำความได้
เมื่อพ่อกับแม่มีลูกด้วยกัน 4 คน หนูแดงเป็นพี่คนโต ตอนเธออายุได้ 5 ขวบ แม่ก็แยกทางกับพ่อ พ่อจึงตัดสินใจหอบลูกๆ เดินทางจาก จ.สุรินทร์ เพื่อตามหาแม่โดยไร้จุดหมาย โบกรถไปเรื่อยๆ นอนตามศาลาริมทาง อาบน้ำคลอง อดมื้อกินมื้อ ใช้ชีวิตแบบนี้จนถึง 2 ปีเต็ม ก็เดินทางมาถึง จ.ระยอง
ตอนนั้นทั้งพ่อและลูกๆ ก็เริ่มหมดหวังเพราะไร้วี่แววของแม่ พ่อเริ่มมีความเครียด และใช้ “เหล้า” เป็นทางออก
ฤทธิ์น้ำเมาทำให้พ่อลงไม้ลงมือกับหนูแดงวัย 7 ขวบ…
ชาวบ้านแถวนั้นเห็นเข้า จึงแจ้งตำรวจจับพ่อเข้าคุก ส่วนลูกๆ ถูกส่งตัวเข้าสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง
หลังพ่อติดคุกได้ 1 ปี ก็กลับมาเยี่ยมหาหนูแดงบ้าง จนวันสุดท้ายพ่อมาหาเธอและบอกว่า จะไปตามทางของพ่อ…นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่หนูแดงได้พบเจอพ่อ
หลังจากที่อีเต้ยได้พูดคุยกับหนูแดง เบาะแสสำคัญที่ได้มามีเพียงชื่อ…“นายทวี เทียนสา”
รูปพรรณสัณฐาน สูงผอม ผิวดำแดง ที่สำคัญคือมีเหล็กดามที่แขนไว้ข้างใดข้างหนึ่ง
อีเต้ยมุ่งหน้าไปที่สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยองก่อน เพื่อสืบสาวราวเรื่องตั้งแต่ต้นกับครูไพศาลและครูรำเผย พวกท่านเคยเป็นครูที่ดูแลหนูแดงวัยเด็กที่สถานคุ้มครอง และท่านทั้ง 2 เคยพบเจอกับพ่อทวี เมื่อได้พูดคุยกับครูรำเผยแล้ว สรุปว่าพวกท่านก็ไม่ได้พบเจอกับพ่อทวีมานานแล้วเหมือนกัน
“ผมจะไปบวช” เป็นคำพูดสุดท้ายที่พ่อทวีบอกไว้กับครูทั้งสอง
เบาะแสต่อไป หนูแดงเคยมาตามหาข้อมูลพ่อที่โรงพยาบาลมาบตาพุด เธอพบว่าพ่อมีประวัติการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ อีเต้ยไม่รอช้า รีบไปเช็กกับเจ้าหน้าที่รพ.มาบตพุดทันที ปรากฏว่ามีจริง เคยมารักษาเมื่อปี 2549
แต่มารักษาในฐานะคนเร่ร่อน ไม่มีข้อมูลที่อยู่หรือเลข 13 หลักเลย
แล้วอีเต้ยจะไปตามหาต่อยังไง…
แต่อีเต้ยยังไม่หมดหวัง! ตัดสินใจโทรหาหน่วยงานหรือมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับคนเร่ร่อน หรือศูนย์คนไร้ที่พึ่ง
เมื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ค้นหาชื่อ กลับไม่พบข้อมูลใดๆ หรือแม้แต่ผู้ชายที่แบบลักษณะคล้ายพ่อทวี ก็ไม่เคยพบเจอ มาถึงขนาดนี้แล้วอีเต้ยเกือบหมดหวัง แต่แต้มบุญอีเต้ยยังไม่หมด!
เมื่อค้นหาชื่อ “นายทวี เทียมสา” แทน “นายทวี เทียนสา” กลับพบข้อมูลของบุคคลที่มีลักษณะใกล้เคียงกับพ่อของหนูแดง แต่ชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง หมายความว่าบุคคลนี้ไร้ที่อยู่
อีเต้ยจึงเดินทางไป อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เป็นที่อยู่เก่าของนายทวี เทียมสา ก่อนจะถูกย้ายมาทะเบียนบ้านกลาง หวังว่าเจ้าของบ้านจะรู้จักและเคยพบเห็น
อีเต้ยได้นั่งพูดคุยกับคนในบ้านนี้ ปรากฏว่ารู้จักหนูแดง และพ่อของหนูแดง ซึ่งก็คือนายทวี เทียมสา เป็นคนเดียวกับที่อีเต้ยตามหานั่นเอง!
จากคำบอกเล่าของญาติๆ เวลาพ่อทวีแกออกจากบ้านไป จนแล้วจนเล่ายังไงแกก็จะกลับมาที่บ้านตลอด ไม่เคยหายไปนานเกือบ 20 ปีขนาดนี้ พวกเขาเลยคิดว่า…พ่อทวีอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
อีเต้ยอีจันกลับมาตั้งหลักใหม่อีกครั้ง ลองโทรสอบถามข้อมูลกับหน่วยงานที่ดูแลศพนิรนาม ทางเจ้าหน้าที่บอกอีเต้ยว่าต้องพาลูกสาวไปแจ้งความที่สถานีตำรวจไว้ก่อน เพราะว่าหากภายหลังมีการพบเจอบุคคลที่มีลักษณะคล้ายกับพ่อทวี ก็จะสามารถระบุตัวตนได้ครับ
ถึงเวลาที่อีเต้ยต้องบอกข่าวคราวกับหนูแดงแล้ว เพราะต้องพาเธอไปแจ้งความด้วย จะเก็บเป็นความลับคงไม่ได้
“หนูจะมีโอกาสได้เจอพ่อบ้างไหม…” เป็นประโยคที่ออกจากปากของหนูแดง หลังได้ฟังเรื่องราวการตามหาพ่อทวี
อีเต้ยยังไม่อยากให้เธอหมดหวัง เพราะยังคงมีหนทางที่พอจะไปต่อได้บ้าง
หนูแดงนั่งรถเดินทางไปแจ้งความพร้อมกับอีเต้ยอีจันที่สถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี แต่ไม่สำเร็จเพราะที่นี่ไม่มีอำนาจในการค้นหา ต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ ที่หนูแดงเจอพ่อครั้งสุดท้าย คือจังหวัดระยอง
วันต่อมา อีเต้ยจึงพาหนูแดงไปแจ้งความ ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง ซึ่งหลังทางตำรวจได้ทราบเรื่องราวของหนูแดง ก็ได้รับแจ้งความเป็นที่เรียบร้อย เป็นอันสำเร็จ!
สุดท้าย…สถานที่ ที่อีเต้ยไม่อยากมาพบเจอพ่อทวีที่นี่ คือ สุสาน จังหวัดระยอง แต่มันก็ยังเป็นอีกทางเลือก ที่ลองมาสืบหาดูก็ไม่เสียหาย หากพ่อทวีไม่มีชีวิตอยู่แล้ว หลุมศพของแกอาจอยู่ที่นี่
อีเต้ยจุดธูปยกมือไหว้ อธิษฐานถึงพ่อทวี เทียมสา…
แต่ด้วยความที่สุสานมีขนาดกว้าง และบางหลุมศพไม่มีชื่อ ทำให้ทางเลือกนี้คงจะยากในการตามหาแล้วล่ะ
เรียกได้ว่าภารกิจการตามหาพ่อให้หนูแดง อีเต้ยพยายามตามหาจนสุดหนทางจริงๆ สุดท้ายก็ยังไม่พบเจอ…
สิ่งที่ดีที่สุดที่อีเต้ยทำได้ คือการทำรูปภาพพ่อทวีให้กับหนูแดง เก็บไว้แทนใจพ่อ
ยามเหนื่อย ยามท้อก็หันมาดูรูปพ่อนะหนูแดง อีเต้ยอีจันเป็นกำลังใจให้นะ ^^