พยาธิปอดหนู ขึ้นตา รักษาไม่ทัน ตาบอดสนิท เหตุ ชอบกินของสุกๆดิบๆ

ระวัง ใครชอบทานอาหารดิบ!

วันนี้ (2 ก.พ.65) ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ศิริเกษม ศิริลักษณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ พร้อมด้วย อาจารย์นายแพทย์คณินท์ เหลืองสว่าง จักษุแพทย์เชี่ยวชาญด้านจอตาและน้ำวุ้นตา และ ผศ.พญ.สิรินันท์ ตรียะเวชกุล จักษุแพทย์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกันแถลง พบ ผู้ป่วยโรค พยาธิปอดหนู ขึ้นตา เป็นสาเหตุทำให้ตาขวาบอด 1 ข้าง เผย เป็นผู้ป่วยรายแรกของ จ.พิษณุโลก

ผศ.พญ.สิรินันท์ จักษุแพทย์เจ้าของไข้ เผยว่า คนไข้เป็นหญิงอายุ 40 ปี อาชีพข้าราชการ เข้าพบหมอ ด้วยอาการตาพร่ามัวข้างเดียว มาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ยังไม่พบสาเหตุ จึงได้นัดทำการตรวจตาอย่างละเอียดในอีก 3 สัปดาห์ต่อมา ด้วยวิธีการขยายม่านตา และพบว่าตามีการอักเสบ-มีพยาธิในวุ้นตา เป็นรายแรกของ จ.พิษณุโลก ซึ่งจากรายงานสถิติ เคยพบผู้ป่วย พยาธิปอดหนู ขึ้นตา ครั้งแรกของโลก ในไทยเมื่อปี พ.ศ.2505 ทั่วโลกมีการรายงานพบผู้ป่วยไม่เกิน 50 ราย พบมากที่สุดในไทยที่ภาคอีสาน จึงส่งตัวผู้ป่วยรักษา ร่วมกับจักษุแพทย์เชี่ยวชาญด้านจอตาและน้ำวุ้นตา

ด้านนายแพทย์คณินท์ จักษุแพทย์เชี่ยวชาญด้านจอตาและน้ำวุ้นตา กล่าวว่า หลังจากได้รับเคสผู้ป่วยมา พบว่า ตาคนไข้มีการอักเสบและมี พยาธิในวุ้นตา จึงทำการรักษาด้วยการให้ยาฆ่าพยาธิ รวมถึงยาแก้อักเสบ จากนั้นจึงผ่าตัดตา ใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม. จึงนำตัวพยาธิออกมาจากตาได้ เมื่อส่งพยาธิไปตรวจ พบว่าเป็น พยาธิปอดหนู ความยาวประมาณ 0.5 ซม. แต่ตาข้างขวาของผู้ป่วย บอดสนิท เนื่องจากตัวพยาธิชอนไชไปยังจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาได้รับความเสียหาย หลังจากนี้ได้ทำการนัดรักษาต่อเนื่อง เพื่อเช็กร่างกายอย่างละเอียด ว่ายังมีพยาธิในตำแหน่งอื่นของร่างกายอีกหรือไม่

ส่วนสาเหตุที่เรียกว่า พยาธิปอดหนู เพราะ พยาธิตัวเต็มวัยทั้งสองเพศ จะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู พยาธิตัวเมียจะออกไข่ในหลอดเลือดแดง และฟักตัวเป็นตัวอ่อน ระยะที่ 1 ปนออกมากับมูลหนู เมื่อตัวอ่อนไชเข้าหอยทาก หรือหอยน้ำจืด เช่น หอยโข่ง หอยขม หอยเชอรี่ กุ้งน้ำจืด ปลาน้ำจืด แล้วจะเจริญเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อ ในระยะนี้หากคนรับประทานอาหารปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ พยาธิจะเข้าสู่ระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง หรือตา ฯลฯ

โดยอาหารเจ็บป่วย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของอวัยวะที่พยาธิอยู่ เช่น คนไข้รายนี้ ที่ตัวพยาธิขึ้นตา ทำให้เกิดอาการ ตามัวลงแบบเฉียบพลัน ไม่มีอาการปวด หรือเคืองตา จากการซักประวัติของผู้ป่วย ชอบทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ บ่อยครั้ง โดยเฉพาะกุ้งน้ำจืด และชอบทานเมนูกุ้งแช่น้ำปลา เป็นประจำ

ดังนั้น จึงฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ในเรื่องของการรับประทานอาหาร ว่าควรล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร หยุดทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ให้ทานเฉพาะอาหารที่ปรุงสุกและสดเท่านั้น เพราะ พยาธิที่อาศัยอยู่ตามสัตว์น้ำจืด เมื่อเข้าสู่ร่างกายอาจเป็นอันตราย เหมือนผู้ป่วยเคสนี้ ที่ต้องสูญเสียดวงตาข้างขวาไป 1 ข้าง เพราะชอบทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และหากพยาธิเข้าไปอยู่ตามจุดสำคัญในร่างกาย เช่น ระบบประสาท สมอง ไขสันหลัง อาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้