ไทยจ่อซื้อ ‘วัคซีนโควิด-19’ จำนวน 66 ล้านโดสภายในปีหน้า

สธ.วางแผนจัดสรรเงิน 2.93 พันล้านบาท จ่อวัคซีนโควิด-19 จำนวน 66 ล้านโดส ภายในปีหน้า

แม้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะเริ่มคลี่คลายขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไว้วางใจไม่ได้
ล่าสุดวานนี้ 5 ต.ค. 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของไทยเปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวประจำวันว่า คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติวางแผนจัดสรรเงิน 2.93 พันล้านบาท เพื่อซื้อวัคซีน โควิด-19 จำนวน 66 ล้านโดส ภายในปีหน้า พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่าวัคซีน 66 ล้านโดสจะครอบคลุมถึงคนไทย 33 ล้านคน หรือราวร้อยละ 50 ของประชากรในประเทศ

ซึ่งคณะกรรมการ มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ตัดสินใจสำรองวัคซีนโดยใช้ 2 แนวทาง ผู้ช่วยโฆษกระบุว่า “แนวทางแรกคือการจองวัคซีนผ่านโคแวกซ์ (Covax) ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การกำกับดูแลขององค์การอนามัยโลก (WHO) กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (CEPI) และองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (GAVI) ในสัดส่วนร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรไทย”


ด้านวัคซีนล็อตที่สองจะได้จากการจองผ่านผู้ผลิต 10 รายในสหรัฐฯ จีน สหราชอาณาจักร และรัสเซีย โดยประเทศเหล่านี้กำลังอยู่ระหว่างการทดลองวัคซีนระยะที่ 3 ในมนุษย์แล้วด้านสถาบันวัคซีนแห่งชาติของไทยเชื่อว่าวัคซีนโรคโควิด-19 จะพร้อมวางจำหน่ายภายในปีหน้า

ในประเทศ – หาซื้อไม่ได้ติดต่อพณ.! ‘อนุทิน’แจงสธ.มีหน้าที่จัดหาส่งหน้ากากอนามัยให้รพ.ในสังกัดเท่านั้น

ทั้งนี้งบจัดซื้อวัคซีนจำนวน 2.93 พันล้านบาทยังต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจว่างบดังกล่าวควรมาจากงบประมาณกลางหรือ พ.ร.ก.เงินกู้เพื่อโควิด ก่อนที่ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เผยว่าวัคซีนจะถูกส่งมอบโดยแบ่งเป็นล็อตๆ เพื่อที่จะสามารถชำระเงินในรูปแบบผ่อนชำระได้ โดยวัคซีนจะถูกจัดสรรให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในแนวหน้าก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เผชิญความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 มากที่สุด

ซึ่งหากวัคซีนนี้สามารถนำมาใช้และมีประสิทธิภาพจริงๆ ถือเป็นข่าวดีของคนไทย