สุขภาพดีเริ่มได้ที่ตัวเรา โดยปัจจัยในการหันมาดูแลตัวเองให้มีสุขภาพดีนั้น นอกจากจะรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่เครียดแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงวันละประมาณ 30 นาที อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ แต่ออกกำลังกายช่วงไหนดีล่ะ ถึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด ‘อีจัน’ ได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วค่ะ
การออกกำลังกายตอนเช้า
การออกกำลังกายตอนเช้าจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นไปตลอดวัน เพราะเมื่อร่างกายถูกกระตุ้น กล้ามเนื้อเริ่มทำงาน และมีการหลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมา จะให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้
อีกทั้งยังทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงาน และดึงไขมันสะสมมาใช้ระหว่างวันได้เยอะขึ้น เหมาะสำหรับคนที่กำลังคุมน้ำหนักและลดไขมันในร่างกาย แนะนำให้ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอตอนเช้าตั้งแต่ 07.00-08.30 น. จะช่วยลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินได้ดี
ขณะเดียวกัน การออกกำลังกายในช่วงเช้านั้น ต้องระวังอาการหน้ามืด เป็นลม กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากการตื่นนอนในช่วงเช้าร่างกายเราไม่มีพลังงานให้กล้ามเนื้อแขนและขา จึงแนะนำให้รับประทานอาหารก่อนออกกำลังกาย 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและพลังงานไปยังอวัยวะต่าง ๆ
การออกกำลังกายตอนเย็น
การออกกำลังกายในตอนเย็นนั้น เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด โดยเฉพาะช่วงเวลาตั้งแต่ 15.00-21.00 น. เหมาะสำหรับการเข้าฟิตเนสไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะร่างกายได้รับพลังงานจากการทานอาหารมาตลอดทั้งวัน
รวมถึงช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย โดยเฉพาะกับชาวออฟฟิศที่นั่งทำงานหลังแข็งมาทั้งวัน การไปออกกำลังกายตอนเย็นช่วยให้กล้ามเนื้อได้ยืดเหยียด จะรู้สึกสบายตัวขึ้น ช่วยให้อารมณ์ดี ช่วยลดความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน และช่วยให้นอนหลับดีขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็น ล้วนส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งนั้น หากเราออกกำลังกายอย่างถูกวิธีและไม่หักโหมจนเกินไป และควรดูแลสุขภาพด้วยวิธีอื่น ๆ อย่างการกินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ร่วมด้วยนะคะ
ข้อมูลจาก: https://chulalongkornhospital.go.th , กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
คลิปอีจันแนนะนำ
ผู้ป่วยโปลิโอ สู่นักกีฬาว่ายน้ำ พิชิตเกาะสิงโตชาเลนจ์