เมื่อเศรษฐกิจซบเซา ก็ต้องเร่งฟื้นฟู
วานนี้ (14 ก.ย.64) ครม. มีมติเห็นชอบหลักการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)เสนอ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะดึงดูดชาวต่างชาติที่มีฐานะทางเศรษฐกิจสูงหรือมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ 4 กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 1 ล้านคน คือ
1.กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่นคั่งสูง (Wealthy Global Citizen)
2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจะต่างประเทศ (Wealthy Pensioner)
3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand Professional)
4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-skill Professional) ให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยในลักษณะผู้พำนักระยะยาว (Long-term Stay)
โดยได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและการลงทุนในระบบเศรษฐกิจไทยมากขึ้น อันจะเป็นการเตรียมความพร้อมในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค #โควิด19
มาตรการดังกล่าวจะต้องดำเนินการออกวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว (Long-term Resident #VISA) ซึ่งเป็นการกำหนดวีซ่าประเภทใหม่ เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงและต้องการเป็นผู้พำนักอาศัยในระยะยาว โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ อาทิ
1)การยกเว้นให้ผู้ถือวีซ่าประเภท ผู้พำนักอาศัยระยะยาวและวีซ่าประเภท Smart visa ทั้งหมดไม่ต้องมีหนังสือแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบหากอยู่ในประเทศเกิน 90 วัน
2)ให้สิทธิทำงานพร้อมวีซ่า
3)ให้คู่สมรสและบุตรได้รับวีซ่าผู้ติดตามไปพร้อมกันด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ สศช. หารือร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป อาทิ การแก้ไขกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่ดิน การบริหารจัดการการทำงานและอนุญาตให้คนต่างด้าวสามารถทำงานให้นายจ้างทั้งที่อยู่ในและนอกราชอาณาจักรได้ การยกเว้นหลักเกณฑ์การกำหนดให้การจ้างคนต่างด้าว 1 คน ต้องจ้างงานพนักงานคนไทยทำงานประจำ 4 คน การยกเว้นภาษีประเภทต่าง ๆ และระเบียบวิธีปฏิบัติด้านการศุลกากร
มาลุ้นกันว่า หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย คนไทยต้องรับมือการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง?