สธ. ย้ำ โควิด เข้าสู่ยุค หลังระบาดใหญ่ แต่ยังต้อง ป้องกันตนเอง

สธ. ย้ำ โควิด เข้าระยะ หลังการระบาดใหญ่ แต่ยังต้อง ป้องกันตนเอง และ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงแม้โควิดเข้าสู่ระยะ Post-Pandemic ช่วง 1 กรกฎาคมนี้ แต่ยังต้องป้องกันตนเอง อย่าเพิ่งถอดหน้ากาก และยังต้องฉีดวัคซีนโควิด 19 โดยเฉพาะเข็มกระตุ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ส่วนการรักษาตามสิทธิอยู่ที่การพิจารณาของ ศบค.

วันนี้ (30 มิ.ย. 65) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า แม้โรคโควิด 19 เข้าสู่ระยะหลังการระบาดใหญ่ (Post-Pandemic) เป็นไปตามแผนของกระทรวงสาธารณสุข แต่ไม่ใช่ว่าหลังวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 จะถอดหน้ากากกันทั้งหมด ยังต้องป้องกันตนเองเป็นสำคัญ เนื่องจากเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ มากขึ้น ย่อมมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีนัยสำคัญว่าทำให้มีความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตมากขึ้น ทำให้อัตราการครองเตียงยังคงเพียงพอรองรับ โดยทั้งหมดยังเป็นตามการคาดการณ์ ดังนั้น ขอให้ประชาชนยังต้องป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ รวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ต้องพยายามทำความเข้าใจให้กลุ่มคนที่ยังไม่รับวัคซีน หรือไม่รับวัคซีนเข็มกระตุ้นหันมารับวัคซีนให้ได้ตามเกณฑ์

ดร.สาธิตกล่าวต่ออีกว่า สำหรับการออกประกาศหรือมาตรการต่างๆ อยู่ที่การหารือและพิจารณาของ ศบค. ซึ่งการออกประกาศให้ไปรักษาตามสิทธิก็ต้องผ่านการพิจารณาจาก ศบค. เพราะช่วงโควิดที่ผ่านมาเราบริหารภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการหารือใน ศบค.เพื่อออกกฎหมายว่า ถ้าเป็นโควิดจะต้องรักษาแบบไหนอย่างไร และเบิกค่ารักษาอย่างไร ดังนั้น เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปก็ต้องกลับมาหารือใน ศบค.เพื่อออกประกาศปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อย่างก่อนหน้านี้มีการปรับให้ผู้ป่วยอาการสีเขียวไปรักษาตามสิทธิ ซึ่งก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นต้น