ไทยพบโอไมครอน BA.2.75 แล้ว
วันนี้ (20 ก.ค.65) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว Thira Woratanarat ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดโควิดเพิ่ม 760,982 คน ตายเพิ่ม 1,335 คน รวมแล้วติดไป 569,310,786 คน เสียชีวิตรวม 6,390,965 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และบราซิล เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 77.73 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 53.33
สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้ (20 ก.ค.65) พบว่า
จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 14 ของโลก และอันดับ 4 ของเอเชีย แม้ สาธารณสุขไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
…อัพเดต BA.2.75…
ข้อมูลจนถึงตอนนี้ สายพันธุ์ย่อย BA.2.75 ยังไม่มีแนวโน้มระบาดในประเทศอื่นอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่ยังอยู่ในอินเดีย การระมัดระวังป้องกันตัวเวลาใช้ชีวิตประจำวันจะลดความเสี่ยงไปได้ ไม่ว่าจะสายพันธุ์ใดก็ตาม
โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ค.65 รศ.นพ.ธีระ โพสต์เฟซบุ๊กว่า Rajnarayanan R จาก Arkansas State University ได้รายงานอัพเดตการตรวจพบสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 ซึ่งเป็นที่จับตามองของทั่วโลกนี้ ที่น่าสนใจคือ มีรายงานว่าพบในประเทศไทยแล้วจากตัวอย่างสิ่งส่งตรวจที่มาจากจังหวัดตรัง ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2565
สำหรับไวรัสโรคโควิด-19 Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.2.75 เดิมพบครั้งแรกที่อินเดีย และกระจายไปหลายต่อหลายประเทศ
โดยทีมวิจัยจาก Indian SARS-CoV-2 Genomics Consortium (INSACOG) ให้ข้อมูลผ่านสื่อท้องถิ่น (Times of India, 4 July 2022) ว่า สายพันธุ์ย่อยของ Omicron ที่ตรวจพบในอินเดียมากนั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล ทั้ง BA.2.74, BA.2.75, และ BA.2.76 ได้รับการประเมินเบื้องต้นพบว่ามีแนวโน้มที่จะมีความแข็งแรง (Viral fitness) มากกว่า BA.5
Yamasoba D และคณะวิจัยจากญี่ปุ่น เผยแพร่ผลการวิจัยใน bioRxiv วันที่ 15 ก.ค.65 โดยศึกษาพบว่า BA.2.75 นั้นมีลักษณะการดื้อต่อยาแอนติบอดี้ที่ใช้ในการรักษาหลายชนิด เฉกเช่นเดียวกับ Omicron สายพันธุ์ย่อยที่ระบาดมาก่อน แต่ยาแอนติบอดี้บางชนิดก็ยังสามารถใช้ได้ผลในการจัดการเชื้อ เช่น Regdanvimab, Sotrovimab, Tixagevimab
ในขณะที่ Cao YR จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เผยแพร่ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการแบบไม่เป็นทางการ ชี้ให้เห็นว่า BA.2.75 นั้นมีแนวโน้มจะจับกับตัวรับ ACE2 ได้มากกว่า BA.4 และ BA.5
แต่ในเรื่องการดื้อต่อภูมิคุ้มกันนั้น ศึกษาโดยดูภูมิคุ้มกันจากคนที่ฉีดวัคซีนแล้วเกิดติดเชื้อโรคโควิด-19 พบว่า BA.2.75 ดื้อกว่า BA.2.12.1 แต่อาจน้อยกว่า BA.4 และ BA.5 ยกเว้นกรณีที่เป็นคนที่เคยติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้ามาก่อน BA.2.75 จะดื้อต่อภูมิมากกว่าคนที่ติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron BA.1 และ BA.2 มาก่อน อย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลการศึกษาอย่างเป็นทางการ และจากการวิจัยอื่นๆ ในเวลาอันใกล้นี้ เพื่อให้ยืนยันลักษณะการดื้อต่อภูมิคุ้มกันของ BA.2.75
รศ.นพ.ธีระ ระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันของไทยเรานั้น การระบาดยังรุนแรงต่อเนื่อง การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องเป็นเรื่องจำเป็น และจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อไปได้มาก