ในสภาวการณ์ระบาด โควิด ในประเทศไทยที่กลับมาระบาดอีกครั้งเป็นระลอกที่ 3 ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่า เศรษฐกิจของไทย อาจจะมีแนวโน้มชะลอลง โดยเป็นผลกระทบจากการระบาดของ โควิด รอบที่ 3 นั่นเอง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (22 เม.ย. 64) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผย การประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด ระลอกที่ 3 ที่มีต่อเศรษฐกิจไทยว่า
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจขึ้นกับการที่รัฐบาลจะใช้วงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลเหลือจาก พ.ร.ก.เงินกู้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องเปิดเพดานวงเงินกู้ใหม่หรือขยายเพดานหนี้สาธารณะ เนื่องจากความเสียหายจากสถานการณ์โควิดในรอบนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนล้านบาท
จากสถานการณ์ดังกล่าว จะทำให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนลดลงหายไป 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งประเทศไทยมีการใช้จ่ายต่อวันประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เม็ดเงินที่หายไปจากระบบเศรษฐกิจ ทั้งจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่โซนสีแดง โซนสีส้ม เม็ดเงินจะหายไปโดยเฉลี่ยวันละประมาณ 3,338 ล้านบาทต่อวัน โดยประมาณ ซึ่งทำให้ความเสียหายแต่ละเดือน จะหายไปที่ 100,140 ล้านบาทต่อเดือน ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพี 0.62% ต่อเดือน
การฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ถ้าหากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็ว ก็จะเป็นผลดีทั้งต่อตัวเราและประเทศ ภาวนาขอให้สถานการณ์แบบนี้อยู่กับเราไม่นาน #อดทนกันอีกนิดจันเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น