นัท นิสามณี หรือนัท สะบัดแปรง Influencer สู้ชีวิต

เปิดมุมมองแบบเจาะลึก นัท นิสามณี หรือนัท สะบัดแปรง Influencer สู้ชีวิต กับพลังบวกที่ทำให้เรามีพลัง “ทุกครั้งที่มีอุปสรรคมันจะมีข้อดีบางอย่าง คนเก่งหลายคนเกิดจากพรสวรรค์ แต่หลายคนเกิดจากอุปสรรค ทำให้เราต้องเก่ง”

ในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นผู้ผลิตสื่อได้ จนเกิดดาวเด่น Influencer มากมาย ชื่อของนัท นิสามณี หรือนัท สะบัดแปรง น่าจะอยู่ในลำดับต้น ๆ ทั้งด้วยเนื้อหาและข่าวที่เธอมักจะได้พื้นที่สื่ออยู่เสมอ

ล่าสุดกับกรณีคำพูดต้องห้ามที่เธอพูดในสนามบิน จนทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ ว่าใคร ๆ ก็รู้ ว่ามีกฎสากลห้ามพูดคำว่าระเบิดในสนามบิน เพราะจะเกิดโกลาหล

“ขอบคุณอีจันที่ให้โอกาสนัทตอบเรื่องนี้นะคะ ความจริงต้องชี้แจงว่าเป็นการพูดเล่นกันในหมู่เพื่อน ไม่มีความเสียหาย ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตักเตือน และไม่มีเที่ยวบินเลื่อนเพราะคำพูดของนัทเลย ที่สำคัญมีนักกฎหมายมาบอกแล้วว่านัทไม่ผิด ถึงวันนี้ไม่ใช่นัทไม่ใส่ใจนะคะ แต่นัทได้เรียนรู้แล้ว นัทไม่จมกับมัน”

จบประเด็นนี้อย่างเข้าใจดีแล้ว อีจัน Life Talk ชวนคุยเรื่องชีวิตการงานและความคิด พบว่านัทเป็นคนมีสาระน่าสนใจจริง ๆ

ก่อนจะมาเป็นนัท สะบัดแปรง นัทก็เป็นเด็กคนนึงในย่านชุมชนกึ่งแออัด เป็นลูกครอบครัวคนจีนซึ่งในตึกแถวหนึ่งหลัง นอนอยู่ด้วยกันในบ้าน 16 คน อบอุ่น นัทไม่ได้รู้ตัวว่าจน รู้แค่ว่าต้องตื่นเช้าตีสี่ช่วยแม่ขายข้าวแกง ต้องตั้งใจเรียนให้ได้เกรดสี่เพื่อจะได้ทุน ซึ่งหนูเข้าใจว่าทุกคนต้องเป็นแบบนั้น ไม่รู้เลยว่า อ้าว เพื่อนบางคนเขามีห้องของตัวเองนะ

นัท นิสามณี หรือนัท สะบัดแปรง

เมื่อก่อนเวลาซื้อผงซักฟอกทีละกระป๋องใหญ่ เราใช้หมดก็ไม่ทิ้งถัง เอามาเป็นถังใส่น้ำตักอาบ จนเข้าสู่วัยรุ่น เราถึงได้รู้ว่าชีวิตเราไม่เหมือนคนทั่วไปเหรอ ตอนที่วันหยุดเราไปทำงานพิเศษ เพื่อนมาเจอเราตอนทำงานก็ทักว่าอ้าว ทำไมมึงมาทำงาน  เราตอบว่า เอ้า ทำไมมึงน่ะไม่ทำงาน งง!

ตอนนั้นเองถึงได้รู้ว่า ในบริบทของสังคมทั่วไปน่ะ อย่างเรานี่เรียกว่าปากกัดตีนถีบ แต่ต้องขอบคุณชีวิตวัยเด็กที่ผ่านความยากลำบากมา ทำให้เราได้เก็บเลเวลประสบการณ์ ทำให้นัทเป็นคนที่ทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่รู้สึกว่าหนัก

ตอนหนูไประกวดนางงามเพราะว่าอยากได้เงิน ไม่ใช่รู้สึกว่าสวยแถวหน้า แต่รู้สึกว่าถ้าฉันแต่งตัวนะ ขึ้นไปเดินบนเวทีตอบคำถามกรรมการนะ เราจะได้เงิน เราจะได้ทุนการศึกษา

ต้องบอกว่าแต่ละช่วงวัยไม่เหมือนกัน พอประกวดนางงามเยอะ ๆ คนก็เยินยอจนเรามองว่าความสวยเป็นอันดับหนึ่ง จนกระทั่งได้เรียนรู้ว่า สวยอย่างเดียวไม่พอ เวลาเราไปสมัครพิธีกรเคเบิ้ลทีวี หนูตอบไม่ทันเขา หนูเงอะงะ จนเขาบอกว่าหนูสวยนะ แต่เราไม่จ้าง การอยู่ตรงนี้ไม่ใช่สวยอย่างเดียว โห เหมือนฟ้าฟาดตบกะโหลกเลย ว่าความสวยเป็นแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ถูกเบิกเนตรนะ ว่าเราต้องพูดเป็น รับส่งเป็น ก็เริ่มพัฒนาตัวเองแล้วมาสมัครใหม่ ไต่เต้าจากพิธีกรตัวเล็ก ๆ ตัวลูกตัวรองจนขึ้นมาเป็น เบอร์ต้น ๆ ของวงการเคเบิ้ลทีวี เวลามีทอล์คขายสินค้าต้องมีเรา จ้างนัทน่ะ คุ้มแน่นอน จนรายได้เยอะมาก ไม่คิดว่าชีวิตจะมีรายได้ขนาดนี้ แม่หยุดเลย ลูกจะทำงาน ส่งแม่ส่งน้อง จากเด็กที่ต้องกู้เงินเรียนน่ะ ได้รายการละพัน แบงค์สีเทานะคะ ขายข้าวแกงจานละ 25 บาท ไม่ได้จับบ่อย ๆ แต่บางวันมี 2 รายการ 3 รายการ จนกระทั่งถึงวันละ 7 รายการ 10 รายการ รายได้เยอะมาก

จนกระทั่งยุคจอดำ มีการยึดอำนาจ วันแรกไม่มีรายการ ก็เออ ได้พักเนอะ วันที่ 2 หยุดอีก ไม่รู้นะอะไรคือรัฐประหาร วันต่อมามองหน้ากันแล้ว ประมาณอาทิตย์นึงเริ่มเครียด รายได้ขาดนี่ต้องคิดแล้ว เราไม่ได้เป็นลูกเศรษฐีนอนกินนะ หรือเราต้องกลับไปขายข้าวแกงวะ

จนช่องกลับมาเปิดใหม่ มีการปรับหมด เขาถามว่าทำได้กี่รายการ เพราะต้องรัดเข็มขัด ใครที่เป็นตากล้องได้ด้วย ดูไฟได้ด้วย เป็นโปรดิวเซอร์เองได้ไหม ถ้าทำได้ก็ได้อยู่ อย่างหนูเขาถามว่าตัดต่อได้ไหม เขียนบทเองได้ไหม ทำไม่เป็นนะแต่ตอนนั้นหนูตอบเลยว่าได้ เย็นนั้นพอจะเริ่มงานหนูเริ่มเลย ที่ผ่านมาพอเข้าเซ็ทจะนั่งตอแหล เจ๊าะแจ๊ะอะจ๊ะ ทีนี้ดูเลย กล้องตั้งปรับอย่างนี้นะ ไฟจัดแบบนี้ และนั่นคือสกิลที่หนูเก็บมาใช้ทำรายการยูทูปของตัวเองเป็นจนทุกวันนี้

ตอนนั้นหนูคิดนะว่าทำไมเรื่องนี้ต้องมาเกิดในตอนที่ชีวิตหนูเริ่มไปได้ดีแล้ว แต่หลังจากวันนั้นหนูคิดเลยนะ ทุกครั้งที่มีอุปสรรคมันจะมีข้อดีบางอย่าง คนเก่งหลายคนเกิดจากพรสวรรค์ แต่หลายคนเกิดจากอุปสรรค ทำให้เราต้องเก่ง

บางคนบอกว่าอยากเป็นอย่างหนู แต่หนูนะชาติหน้าขอเกิดเป็นลูกคุณหนูนั่งกินนอนกินไม่ต้องทำอะไร สบาย ๆ

นัทรู้ว่านัทชอบเสื้อผ้า ก็ไปเป็นลูกจ้างร้านเสื้อผ้า แม้ว่าเราจะมีหน้าที่แค่จัดร้าน แต่เราจะได้รู้ว่าเวลาเขาประชุมเขาคุยอะไรกัน ชุดนี้ทำไมขายไม่ได้ ทำไมชุดนี้ขายได้

ที่เรียนออกแบบเสื้อผ้าคิดว่าจะเป็นนางแบบ จากนั้นถึงได้รู้ว่า อิดอก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่เรียน มันขึ้นอยู่กับกระดูกขา ไม่ใช่เรียนแฟชั่นจะได้เป็น เรียนวิศวะก็เป็นนางแบบได้ ถ้าเขาเดินเป็น

นัทเป็นคนชอบเรียน อยากจะฝากถึงน้อง ๆ ที่กำลังเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ เรากำลังเป็นเครื่องกรองน้ำที่มันมีหินมีทรายแล้วน้ำผ่าน สุดท้ายแล้วน้ำมันจะไหลผ่านตัวกรองจนออกมาเป็นเราในเวอร์ชั่นนึง หรือถ้าจบมาไม่ได้ทำตามที่เรียนก็ไม่เป็นไร แต่ประสบการณ์จะทำให้เรานำความรู้มาใช้ได้ เราจะเป็นรุ่นไฮบริด

นัทเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ แต่ไม่ใช่ช่างแต่งหน้า เป็นนางงามที่หันมาผลิตเครื่องสำอาง ใช้ชีวิตเดินหน้าผ่านการเรียนรู้ ส่วนในเรื่องการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ นัท สะบัดแปรงเธอบอกว่าทุกคลิปได้ผ่านการวางแผนมา ต้องเอ็ดดูเคดคนดู มีโครงสร้างที่สอดแทรกสาระ และยินดีสอนคนรุ่นใหม่เสมอ

หากได้ชมรายการ จะได้ฟังมุมคิดน่าสนใจตลอดครึ่งชั่วโมง และในฐานะอินฟลูฯ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ อีจันขอนำคำของนัทมาบอกต่อดังนี้ค่ะ

“นัทเคารพความคิดทุกคนค่ะ และต้องมองมุมกลับ ไม่มองแต่มุมบวก เวลาเราเจอคนที่ไม่เห็นด้วย เขามีสิทธิ์ชอบและเขามีสิทธิ์ไม่ชอบ คนไม่เข้าใจก็เป็นสิทธิ์ของเขา เราไม่ได้ไปจี้ว่ามึง ต้องเท่าเทียมสิ มัน Pride Month แล้วนะ อย่าโจมตีเขากลับไป ต้องตอบกลับด้วยความสุภาพเพื่อสังคมของเราเอง”

นัท นิสามณี หรือนัท สะบัดแปรง

ถ้าอยู่บนเวที อีจันอยากสวมมงให้จริงๆ   

คลิปอีจัน Life Talk นัท นิสามณี อินฟลูเอนเซอร์หิวแสงหรือเป็นคนแรงๆ?