4 มี.ค. 65 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยผลการพิจารณาลงโทษข้าราชการ ที่ทำผิดวินัย มีพฤติการณ์ที่เสื่อมเสีย โดยที่ประชุมมีมติลงโทษข้าราชการที่กระทำผิดวินัย 5 ราย ประกอบด้วยไล่ออกจากราชการ 2 ราย ปลดออกจากราชการ 1 ราย และให้ออกจากราชการ 2 ราย ดัง
1. กรณีประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง 2 กรณี โดยมีพฤติการณ์คือ
-ถูกตำรวจจับกุมข้อหายาเสพติด (ยาไอซ์) อยู่ระหว่างเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู (มติ อ.ก.พ. ปลดออกจากราชการ 1 ราย)
-ถูกตำรวจจับกุมข้อหายาเสพติด (ยาบ้า) ขณะส่งตัวไปเข้ารับการบำบัดและคุมประพฤติ แต่ยังมีพฤติการณ์เสพยาเสพติดระหว่างการบำบัด (มติ อ.ก.พ. ไล่ออกจากราชการ 1 ราย)
2. กรณีทุจริตต่อหน้าที่ เรียกรับประโยชน์จากผู้ต้องขังหรือญาติผู้ต้องขัง โดยมีพฤติการณ์คือ ติดต่อญาติและเรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องขังเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการ ลดวันต้องโทษจำคุก (มติ อ.ก.พ.ไล่ออกจากราชการ 1 ราย)
3. กรณีมีมลทินหรือมัวหมอง ถ้าให้รับราชการต่อไปจะเป็นการเสียหายแก่ราชการ โดยมีพฤติการณ์คือ
-นำสิ่งของต้องห้ามและสิ่งของไม่อนุญาตเข้ามาในพื้นที่เรือนจำ โดยพยายามลักลอบนำเข้าไปในเรือนจำโดยไม่ได้รับอนุญาต (มติ อ.ก.พ ให้ออกจากราชการ 1 ราย)
-ติดต่อญาติผู้ต้องขังเพื่อเป็นสื่อในการทวงหนี้ค่ายาเสพติด (มติ อ.ก.พ. ให้ออกจากราชการ 1 ราย)
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการเน้นย้ำให้ข้าราชการในสังกัดปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บัญชาการเรือนจำ และผู้อำนวยการทัณฑสถานทั่วประเทศ จะต้องไม่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบเกิดขึ้น