การรถไฟ แจง ตลาดเชลยศึก เป็นพื้นที่เลิกเช่า หลังปกครองบุกจับร้านเหล้า

การรถไฟ แจงปม ตลาดเชลยศึก เมืองกาญจน์ ชี้ เป็นพื้นที่ถูกเลิกเช่า หลังก่อนหน้านี้ ปกครองบุกจับร้านเหล

จากกรณีที่ ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการ ปกครอง ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน บุก ตลาดเชลยศึก จ.กาญจนบุรี จับร้านขายเหล้าให้เด็ก พบผู้ประกอบการฝ่าฝืนกฎหมายในที่ดิน การรถไฟ และยังพบเด็กใช้บริการถึง 46 คน โดยเด็กอายุน้อยสุดเพียง 14 ปีนั้น

ปกครองจับร้านเหล้า ตลาดค่ายเชลยศึก เมืองกาญจน์ ปล่อยเด็ก 14 เข้าเที่ยว

ความคืบหน้าล่าสุด (14 พ.ค. 65) นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า หลังจากรับทราบเหตุ การรถไฟ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในทันที โดยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของ การรถไฟ ที่ได้มีการประกาศเชิญชวนจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่ เมื่อปี 2561

ซึ่งขณะนั้น บริษัท วิชั่น อินสเป็คเตอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้เสนอราคาให้การรถไฟสูงสุด และได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ได้รับสิทธิ์การเช่าพื้นที่ดังกล่าว

จากนั้นบริษัทได้มีหนังสือขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่มายังการรถไฟเมื่อเดือนธันวาคม 2561 เพื่อตรวจสอบขนาดสัดส่วนแนวเขตที่ดิน รวมทั้งเจรจากับผู้บุกรุกในพื้นที่ ซึ่งฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ได้มีหนังสือแจ้งอนุญาตให้บริษัทเข้าใช้พื้นที่ เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งให้นับเป็นวันเริ่มต้นสัญญา

อย่างไรก็ตาม บริษัท วิชั่น อินสเป็คเตอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ไม่มาลงนามและชำระค่าเช่าต่างๆ ตามที่ตกลงไว้ ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน การรถไฟ จึงมีหนังสือลงวันที่ 5 เม.ย. 65 ให้ยกเลิกการได้รับสิทธิ์การเช่า ตั้งแต่ 1 เม.ย. 65 เป็นต้นมา พร้อมกับแจ้งให้ดำเนินการขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน พร้อมกับเรียกเก็บค่าใช้ประโยชน์ตั้งแต่วันใช้พื้นที่ด้วย ซึ่งปัจจุบันการรถไฟอยู่ระหว่างเร่งรัดเพื่อรับมอบพื้นที่คืน อย่างไรก็ตาม หากบริษัทไม่คืนพื้นที่ การรถไฟจะให้สำนักงานอาณาบาล แจ้งความดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ การรถไฟ ขอยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจหรือละเลยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นการบุกรุกที่ดินกรรมสิทธิ์ของการรถไฟ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบ ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง มีการจำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี

ดังนั้นจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย เพื่อเร่งรัดขอคืนพื้นที่จากเอกชนโดยเร็ว พร้อมกับให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างถึงที่สุด