ครอบครัว ‘ธนภพ ประไพ’ วีรบุรุษดับเพลิง ทำใจยอมรับไม่ได้ วันที่ต้องจากกันไปตลอดกาล

วินาที เเม่-เมียใจสลาย เมื่อรู้ว่า พี่ต้น ธนภพ เสียชีวิตจาก เหตุตึกถล่ม ที่หมู่บ้านกฤษดานคร31 เผย ต้องทำใจยอมรับให้ได้

กรณีตึกถล่มที่หมู่บ้านกฤษดานคร31 เมื่อวันที่ 3 เม.ย.64 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เกิดความสลด นักดับเพลิงเสียชีวิต 4 ราย ได้แก่ ธนภพ ประไพ,อรรถพล ท้วมทอง,สมัญญา นิลธง และสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด

เรามีโอกาสได้คุยกับคุณแม่และภรรยาของพี่ต้น ธนภพ ประไพ เปิดใจถึงความรู้สึกหลังจากที่สูญเสียพี่ต้นไป ทั้งสองคนเล่าผ่านน้ำเสียงที่นุ่มนวลให้เราฟังค่ะว่า พี่ต้นเป็นคนที่มีนิสัยน่ารัก เป็นคนรักครอบครัวมาก ติดบ้าน ใครชวนไปไหนก็ไม่ไป นอกจากไปดับเพลิง

วันเกิดเหตุ แม่ไม่รู้เลยว่า วันนั้นพี่ต้นจะออกไปดับเพลิง คำพูดสุดท้ายที่คุยกันคือ พี่ต้นเดินมาหาแล้วเปิดกระเป๋าแม่ หยิบเงินออกมา 200 บาท บอกจะไปทำบุญที่วัด ซึ่งแม่ก็ไม่ได้อะไร ไม่มีเซนส์และไม่มีลางบอกเหตุว่าลูกจะไปจริงๆ แต่นั่นคือ คำพูดสุดท้ายจากพี่ต้นจริงๆ

แม่บอกกับเราว่า “เสียใจนะ เสียดายที่ไม่ได้คุยมากกว่านี้ คิดมาตลอดว่าลูกชายต้องเป็นคนเผาตัวเอง เพราะแม่ป่วยเป็นมะเร็ง เราก็คิดว่า เราเป็นโรคนี้ ยังไงเราก็ต้องไปก่อนเขา แต่ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ต้องมองคนอื่นขึ้นไปเผาศพลูก ทำใจไม่ได้เลย ไม่คิดว่าเขาจะไป”

เราเห็นแม่แววตาแดงกล่ำ รับรู้ถึงความเสียดายที่ไม่ได้คุยกับพี่ต้น เสียดายที่ต้องจากกันจริงๆแล้ว

ในขณะเดียวกันคนที่เสียใจไม่น้อย คือ พี่ปุ้ย ภรรยาของพี่ต้น

พี่ปุ้ยพูดถึงความน่ารักของพี่ตนให้เราฟัง ปกติเวลาที่พี่ต้นจะออกไปทำงานดับเพลิง เธอจะเป็นคนเตรียมของทุกอย่างให้เสมอ พี่ต้นจะถามตลอดว่า “ทุกอย่างครบยัง โทรศัพท์เตรียมยัง เรียบร้อยไหม”

หรือแม้วันที่ต้องออกไปดับเพลิงด้วยกัน ก็ต้องออกไปด้วยกัน

มาวันนี้หัวใจแทบสลาย คนที่เคยเคียงข้าง คู่กาย ต้องจากไปตลอดกาล

วินาทีที่รับสายโทรศัพท์ได้ยินเสียงปลายสายถาม พี่ต้นใส่เสื้อสีอะไร สัญลักษณ์เป็นยังไง

ตอนนั้นใจเริ่มไม่ดีแล้ว คล้ายกับมีเซนส์บอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ต้นแน่ๆ

พี่ปุ้ยตอบกลับไปว่าหมายเลขของพี่ต้น คือ 46

“พอบอกว่า เลข 46 ปลายสาบเงียบเลย น้องมันก็พยายามปลอบใจว่า พี่ต้นอาจจะให้น้องยืมหมวกไปก็ได้ แต่ในใจเราคิดแล้วว่า นิสัยของพี่ต้นจะไม่ให้ใครยืมหมวกตัวเอง เพราะเป็นคนหวงของ แต่พอเราได้ไปที่เกิดเหตุ เจอร่างของพี่ต้น เข่าแทบทรุด ได้แต่ถามตัวเองนี่ใช่พี่จริงๆใช่ไหม”

พี่ปุ้ยบอกกับเราว่า ตอนนั้นหลุดไปเลย ได้แต่ร้องไห้ จับมือเขา ถามเขา “ร้อนไหม อยากกลับบ้านยัง เธอเจ็บไหม ไหนบอกจะไปทำบุญด้วยกัน เจ้าหน้าที่จะเอาธงชาติมาคลุม เราก็บอกไม่ให้คลุม เพราะรู้ว่าพี่ต้นเป็นคนขี้ร้อนอยากให้เขาถอดชุด ถอดหมวกออกก่อน”

ประโยคสนทนานี้ต้องหยุดกลางคัน

เพราะพี่ปุ้ย แม่พี่ต้น ร้องไห้โฮ…

มันกลั้นไม่ไหว ด้วยความคิดถึง ความเสียใจ

และทำให้เราอดไม่ได้ที่จะร้องตาม รับรู้ถึงความเสียใจ สุดหัวใจ

มาถึงวันนี้ วันที่ต้องจากกันไปจริงๆ พี่ปุ้ยบอกกับพี่ต้นเสมอว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะ วันนี้พักผ่อนให้เต็มที่”

คนที่อยู่ จะสู้ เพื่อคนที่จากไป

วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของพี่ต้น งานฌาปนกิจจะเริมขึ้นเวลา 14.00 น.ค่ะ

แม้วันนี้ต้อจากกันไปตลาดกาล เเต่ความเสียสละ ความกล้าหาญของพี่จะกลายเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของคนทั้งประเทศ

อีจันขอ #สดุดีวีรบุรุษดับเพลิง