ชวนอ่าน เรื่องเล่า ตำนานวันสงกรานต์

ทำความรู้จักเรื่องเล่าขาน ตำนานวันสงกรานต์ ที่มีการจารึกที่วัดโพธิ์ ท่าเตียน

หากพูดถึงวันสงกรานต์ สำหรับคนรุ่นเรา เราจะคุ้นเคยกับการทำบุญ รดน้ำดำหัวพ่อ แม่ ผุ้ใหญ่ที่เคารพนับถือ เล่นน้ำฉลองวันขึ้นปีใหม่ไทย หากลำดับที่มาที่ไปนั้น นักวิชาการที่ได้ศึกษากันมาแล้วว่า ประเพณีสงกรานต์ น่าจะมีที่มาที่ไปจากอิทธิพลของอินเดีย และกระจายไปในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงประเทศไทย และว่ากันว่า การนับวันสงกรานต์นี้ มีมาตั้งแต่อาณาจักรสุโขทัย

สำหรับหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ที่พอจะสืบค้นได้นั้น มีการจารจารึกไว้ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ ท่าเตียน ในแผ่นศิลา 7 แผ่น ติดประดับไว้ในศาลารอบมณฑปทิศเหนือ โดยรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการจารึกตามพระบาลีฝ่ายรามัญ โดยเนื้อหาตำนานสงกรานต์ ระบุไว้ว่า

มีเศรษฐีคนหนึ่ง ซึ่งร่ำรวยมาก แต่ไม่มีลูกเป็นของตัวเอง วันหนึ่ง มีตาขี้เมาข้างบ้าน ที่มีลูกถึง 2 คน ได้แซวเศรษฐีว่า รวยซะเปล่า แต่ไม่มีปัญญามีลูก จึงทำให้ท่านเศรษฐี มีความต้องการจะลูกไว้สืบสกุลของตัวเองบ้าง จึงตั้งหน้าตั้งตา ทำการบวงสรวงพระจันทร์ และ พรอาทิตย์ อยู่ถึง 3 ปี แต่ก็ไม่สำเร็จ เศรษฐีเลยลองไปขอลูกกับต้นไทรที่ริมน้ำ ที่มีเทพารักษ์รักษา เทวดาที่ต้นไทรนั้น สงสาร จึงนำเรื่องดังกล่าว ไปแจ้งแก่พระอินทร์ โดยพระอินทร์มีรับสั่ง ให้ธรรมบาลเทวบุตร ลงไปเกิดเป็นลุกของเศรษฐีรายนั้น เมื่อเศรษฐีได้ลูกสมใจ ก็ตั้งชื่อว่า ธรรมบาลกุมาร

ซึ่ง ธรรมบาลกุมาร นั้น ได้ถูกเล่าไว้ว่า เป็นเด็กเก่ง มีความฉลาดมาก อายุแค่ 7 ขวบ แต่สามารถเรียนพระคัมภีร์ไตรเพทจบ อีกทั้งมีความสามารถในการรู้ภาษานกอีกด้วย

และด้วยความสามารถขั้นเทพของธรรมบาลกุมาร โด่งดังไปทั่วชมพูทวีป และดังไปไกลถึงสวรรค์ จนไปเข้าหูของ ท้าวกบิลพรหม ซึ่งสถิตอยู่บนพรหมโลกชั้นที่ 3 มหาพรหมภูมิ มีหน้าที่สอดส่องดูแลมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย จึงต้องการทดสอบความเก่งของธรรมบาลกุมาร จึงเสด็จมาหา และได้ตั้งคำถาม 3 ข้อ คือ ตอนเช้าราศีอยู่ที่ใด ตอนเที่ยงวันราศีอยู่ที่ใด และตอนเย็นราศีอยู่ที่ใด โดยให้เวลา 7 วัน ในการหาคำตอบ และถ้าหากธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ต้องตัดหัวบูชา ท้าวกบิลพรหม แต่ถ้าตอบได้ ตนเองจะยอมตัดเศียรบูชา

ตลอด 6 วัน ธรรมบาลกุมาร พยายามคิดหาคำตอบ เกี่ยวกับคำถาม 3 ข้อ แคต่ก็ไม่สามารถหาได้ คิดว่าตัวเองต้องตายแน่ ๆ จึงไปหลบที่ใต้ต้นตาลต้นหนึ่ง ที่มีนกอินทรีสองผัวเมียทำรังอยู่ข้างบน และบังเอิญได้ยิน 2 นกผัวเมียปรึกษากันว่า พรุ่งนี้จะไปหากินที่ไหนดี นกอินทรีย์ตัวผัว ตอบว่า จะไปหาที่ไหนให้เหนื่อย พรุ่งนี้ก็กินเนื้อคนดังธรรมบาลกุมารนี่ไง เพราะจะต้องแพ้คำถามท้าวกบิลพรหม โดนตัดหัวแน่นอน ฝ่ายเมียก็ถามต่อว่า ปัญหา 3 ข้อนั้นคืออะไร แล้วพี่รู้คำตอบหรือไม่ ฝ่ายนกอินทรีย์ตัวผัวก็บอกว่า รู้คำตอบทั้ง 3 ข้อนั้น และได้เฉลยให้เมียตนฟังว่า

ตอนเช้า ราศีอยู่ที่หน้า ตื่นเช้าขึ้นมามนุษย์จึงเอาน้ำมาล้างหน้า

ตอนเที่ยงวัน ราศีอยู่ที่อก มนุษย์จึงเอา น้ำ แป้งและเครื่องหอมประพรมที่อก

ตอนเย็น ราศีอยู่ที่เท้า มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำมาล้างเท้า

ธรรมบาลกุมาร ซึ่งรู้ภาษานก ได้ฟังคำตอบก็ดีใจ รีบกลับบ้านไปรอตอบ พอเช้าวันที่ 7 ท้าวกบิลพรหม มารับฟังคำตอบ ซึ่งธรรมบาลกุมาร ก็เอาคำตอบจากนกอินทรีย์นั้นตอบทั้ง 3 ข้อ พอได้ฟัง ท้าวกบิลพรหม ก็ต้องยอมเพราะ ธรรมบาลกุมารตอบได้ถูกทุกข้อ ยอมให้ตัดเศียรตนบูชา แต่เกิดปัญหาที่ว่า เศียรนี้ ไม่สามารถตัดแล้ว ทิ้งไปที่ไหนได้เลย โยนทิ้งขึ้นฟ้า ก็จะแล้งฝน ทิ้งลงพื้น โลกก็จะลุกเป้นไฟ ทิ้งลงมหาสมุทร น้ำก็จะแห้ง ดังนั้นจึงได้เรียกลูกสาวทั้ง 7 คน ได้ ซึ่งเป็นพระสนมของพระอินทร์ให้มาพบ แล้วบอกเรื่องราว และสั่งให้นางทุงษะเทวี ลูกสาวคนโตเอาพานมารองรับเศียร นางทุงษะเทวีอัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหม แห่เวียนขวารอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที จากนั้นก็นำไปเก็บรักษาไว้ในมณฑปถ้ำคันธุลี ที่เขาไกรลาศ แล้วบูชาด้วยเครื่องทิพย์ต่าง ๆ จากนั้นในทุก ๆ ปี ลูกสาวท้าวกบิลพรหม ก็จะมาเวียนเปลี่ยนหน้าที่ เชิญพานรองเศียร เวียนรอบเขาพระสุเมรุ จนกลายมาเป็น นางสงกรานต์ นั่นเอง