ทำความรู้จัก FIRE movement พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ เพื่ออิสรภาพ

ทำความรู้จัก FIRE movement กลับมามีบทบาทต่อพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ เพื่ออิสรภาพทางการเงิน เกษียณอายุก่อนกำหนด

สังคมยุคที่รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ทำให้ขนบความคิดรูปแบบ FIRE movemen กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครัง ซึ่งความเชื่อในแนวคิดเร่งสร้างตัวมุ่งสู่ความเรียบง่ายและสมถะ หรือทำทุกอย่างเพื่ออิสรภาพทางการเงินให้เร็ว ซึ่งความเป็นจริงไม่มีกฎหมายบังคับว่าเราจะต้องปลดเกษียณตัวเองตอนอายุ 65 ปี สำหรับ FIRE movement ที่สามารถสร้างความตื่นรู้ในการใช้ชีวิตมองตัวเองมากขึ้นสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย ซึ่งโมเดลนี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในหมู่คนรุ่นใหม่ยุคมิลเลนเนียล

FIRE movement ?

FIRE movement ย่อมาจาก Financial Independence Retire Early movement ซึ่งหมายถึงอิสรภาพทางการเงิน เกษียณอายุก่อนกำหนด เพื่อไปทำตามความต้องการที่แท้จริงของตนเอง เป้าหมายโมเดลนี้คือการออมเชิงรุกและลงทุนอย่างจริงจัง – ระหว่าง 50-75% ของรายได้ของคุณ – เพื่อให้คุณสามารถเกษียณอายุได้ในช่วงอายุ 30 หรือ 40 ปี (เงื่อนไข : คุณต้องเก็บออมอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของรายได้เพื่อที่จะมีโอกาสทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น )

จุดเริ่มต้น F.I.R.E.

ความคิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากจะเจาะจงให้แน่ชัดว่าใครคือผู้เริ่มต้นคิดขบวนการนี้ นั้นอาจต้องย้อนไปยุค 60 มีกลุ่มฮิปปี้ที่สร้างกระแสต่อต้านทุนนิยม ละทิ้งงานในระบบอุตสาหกรรมและรวมตัวกันทำงานในชุมชนที่ตนเองสร้างขึ้น แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนเรื่องการถือกำเนิด แต่ผู้ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นแรงกระตุ้นสำคัญของขบวนการนี้ในยุคแรกก็คือ วิคกี้ โรบิน ผู้เขียนหนังสือ Your Money or Your Life ซึ่งเป็นเสมือนคัมภีร์ของขบวนการ FIRE movement โดยเนื้อหาของหนังสือเป็นการสอนให้ผู้อ่านลดการใช้จ่ายและให้คุณค่ากับเวลา (หรือพลังชีวิต) มากกว่าวัตถุ

FIRE อาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับใครหลายคน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ซะทีเดียว ขณะที่เพิ่งได้รับความสนใจและเป็นที่ยอมรับเพิ่มขึ้นจากบล็อกและพอดคาสต์ ทำให้ง่ายต่อการแบ่งปันคำแนะนำและประสบการณ์กับผู้อื่น สร้างชุมชนที่เข้มแข็งและเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

เริ่มอย่างไร ?

เพื่อที่จะเอาเงินไปล่อเลี้ยงความฝัน บรรดาผู้ที่อยู่ใน FIRE มักจะทำสองสิ่งนี้ คือรักษารายจ่ายให้ต่ำมากๆ และหาวิธีเพิ่มรายได้การลงทุนอย่างชาญฉลาดตามแนวคิดทั่วไป ยิ่งรายได้ของคุณสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายของคุณลดลง คุณก็จะสามารถเข้าถึงอิสรภาพทางการเงินได้เร็วยิ่งขึ้น การต้องการอิสรภาพทางการเงิน ไม่ได้หมายถึงการนั่งบนชายหาดหรือเล่นกอล์ฟตลอดเวลา แต่หลักสำคัญหมายถึงการไปถึงจุดที่คุณไม่จำเป็นต้องทำงานเต็มเวลาอีกต่อไปหากคุณไม่ต้องการ คุณสามารถกลับไปทำงานนอกเวลาหรือหยุดทำงานไปเลยก็ได้ ชีวิตเป็นของคุณ . . .ลองนึกภาพเอานะคะ

การเป็นอิสระทางการเงินอย่างแท้จริงหมายความว่าอย่างไร?

เพื่อให้เข้าใจขบวนการ FIRE อย่างแท้จริง คุณต้องตระหนักว่ามุมมองดั้งเดิมเกี่ยวกับการเกษียณอายุของเรานั้นล้าสมัยและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามข้อมูลจากสำนักสถิติแรงงาน เกือบ 20% ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปียังคงทำงานอยู่ และคาดว่าจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น

คนเหล่านี้บางคนทำงานเพราะพวกเขายังคงยึดติดภาระ แต่คนอื่นๆ ทำงานเพราะพวกเขากำลังไล่ตามบทบาทใหม่ในอาชีพการงานของพวกเขา ในที่สุดพวกเขาก็ได้ทำงานที่พวกเขาหลงใหลหรือเริ่มต้นธุรกิจที่พวกเขาต้องการมาโดยตลอด แต่สิ่งสำคัญคือพวกเขาทำมันตามความต้องการตนเอง

FIRE ให้ผู้คนใช้ชีวิตตามเงื่อนไขของพวกเขา มันทำให้พวกเขามีพื้นที่ทางการเงินในการเริ่มต้นธุรกิจ ทำงานนอกเวลาเพื่อทำในสิ่งที่พวกเขาชอบ ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อเราพูดว่ามีคนเกษียณ สิ่งที่เราพูดจริงๆ คือ พวกเขามีทางเลือกที่จะไม่ทำงาน แทนที่จะเกษียณจากบางสิ่งบางอย่าง หลายคนในชุมชน FIRE เลือกที่จะเกษียณจากบางสิ่ง

ประเภทของ FIRE

Lean FIRE ในกลุ่มนี้เลือกที่จะใช้ชีวิตแบบ minimalist และมีการเก็บเงินแบบจริงจัง มีข้อกำหนดในการใช้ชีวิตเพิ่มเติมจากทั่วไป เพื่อที่จะสามารถทำตามเป้าหมายได้เร็วที่สุด

Fat FIRE คล้ายกับ lean Fire แต่จะใช้ชีวิตแบบปกติ ซึ่งทำให้ต้องมีเป้าหมายเงินลงทุน และเวลานานกว่า

Barista FIRE เป้าหมายคือไม่ทำงานประจำแต่ยังจำเป็นที่ต้องทำงานเป็นแบบ part-time, freelance หรืองานที่รักซึ่งอาจจะได้เงินน้อยกว่างานประจำ เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แทนที่จะไปใช้เงินลงทุนเพื่อการเกษียณ

Coast FIRE คล้ายกับ barista FIRE แต่ในกลุ่มนี้จะมีเงินเก็บครอบคลุมค่าใช้จ่ายในชีวิต และเกษียณเรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะยังคงทำงานแบบไม่ประจำ

เรียนรู้อะไรจาก FIRE

หลายคนยังมีความรู้สึกสับสนเกี่ยวกับ FIRE แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถทำได้ 100% คือการมุ่งมั่นและวินัยความพยายามอดทนที่มีต่อการบรรลุความฝันในการเกษียณอายุตามเป้าหมาย และไม่ว่าคุณจะอยู่จุดไหนของกระบวนการทางการเงิน คือบทเรียนสำคัญที่เราทุกคนสามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิต

ข้อดี

  • มีเวลาความยืดหยุ่นในการใช้เวลามากขึ้น เมื่อไม่ต้องทำงานประจำ เราก็สามารถใช้เวลากับอะไรก็ได้มีเวลามากขึ้น เริ่มในวัย 35 หรือ 40 แทนที่จะเป็น 60 หรือ 65 แบบทั่วไป

  • สามารถทำตามสิ่งที่ชอบ เมื่อการเงินไม่ใช้ปัญหา ก็สามารถทำอะไรที่มีความหมายต่อชีวิต ทำตามเป้าหมายเสี่ยงๆ ที่ชอบ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาปากท้อง หรือความมั่นคง

  • เรียนรู้ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นตามอายุงาน หลายๆท่านอาจจะมารายจ่ายเพิ่มขึ้นไปด้วย ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะไม่จำเป็น เพราะก่อนหน้านี้เราดำรงชีวิตได้ด้วยจำนวนเงินที่น้อยกว่า และสิ่งนี้จะสามารถช่วยให้เรารู้การอยู่อย่างประหยัด เพื่อที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณ

  • เครียดน้อยลง เพราะว่ามีการวางแผนการเงินไว้แล้ว ทำให้ลดความเครียดไปได้หนึ่งเรื่อง ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีเงินใช้ในยามเกษียณหรือไม่ เมื่อการที่มีเงินเพียงพอทำให้ไม่เครียด ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างสนุกสนาน และอาจส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น

ข้อเสีย

  • ความไม่แน่นอนในอนาคต ไม่มีอะไรแน่นอนในอนาคต อาจจะมีปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก มีปัญหาสุขภาพ จำเป็นต้องจ่ายค่ารักษาจำนวนมาก เป้าหมายเงินที่วางไว้ไม่เพียงพอ

  • การเกษียณอาจจะน่าเบื่อ ไม่ต้องทำงาน อาจจะเป็นสวรรค์ของหลายๆคน แต่บางกลุ่มอาจจะน่าเบื่อ เมื่อไม่มีกิจกรรมให้ทำหลังจากที่มีเวลาว่างมากๆเมื่อไม่ต้องไปทำงานประจำ ดังนั้นก็อาจจะต้องมีการวางแผนการใช้เวลาก่อนที่จะเริ่มเกษียณจริงๆ

  • ไม่สามารถกลับมาทำงานใหม่ได้ หลังจากออกจากงานประจำ ในบางอาชีพ อาจจะยากที่จะกลับไปทำงานได้อีกครั้งในตำแหน่งเดิม หรือสายงานเดิม

  • ยาก!!! เพื่อที่จะให้บรรลุเป้าหมายของ FIRE เราอาจจะต้องเสียสละอะไรบางอย่างไป แถมยังต้องมีวินัยสูงมากในการลงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเพิ่มรายได้และลงทุนให้ได้เงินจำนวนมาก

ขอบคุณข้อมูล

playingwithfire/FIRE Explained

Ramseysolutions

Hermoney

medium.com/road2fire/by Patompong Manprasatkul

คลิปแนะนำอีจัน
เลิกเรียนแล้ว! นุด กลับบ้านกัน